สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังโดนเขย่าบัลลังก์เจ้าตลาดรถยนต์ในประเทศไทย หลังจากรถ EV ของจีนกำลังรุกหนักเพื่อเข้ามาแย่งชิงตลาดสำคัญอีกแห่งในเอเชีย ซึ่งสาเหตุสำคัญคือญี่ปุ่นเคลื่อนไหวเรื่องรถไฟฟ้าช้ามาก ๆ ไม่ทันคู่แข่งใหม่อย่างจีนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

บริษัทรถ EV ของจีนทั้ง BYD และ Great Wall Motor ต่างเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยด้วยเม็ดเงินมหาศาลมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งผู้ใช้งาน EV ในไทยก็ตอบรับเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ายอดจดทะเบียนรถใหม่เมื่อปีที่แล้ว จะมีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นรถ EV แต่แนวโน้มปีนี้ (นับตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน) สัดส่วนของรถ EV เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 6% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลังของปี

คลื่นกระแสรถจีนได้เริ่มก่อร่างสร้างตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยแล้ว เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนต่างพากันเข้ามาหาซัปพลายเออร์และบริษัทไทยในท้องถิ่น ไม่เว้นแม้แต่กับ สยามกลการ บริษัทไทยที่มีความเชื่อมโยงอย่างยาวนานกับบริษัทญี่ปุ่น

ด้าน สยามกลการ ที่มีสายสัมพันธ์อันดีมาตลอดหลายสิบปีกับบริษัทรถญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวบ้างแล้วเหมือนกัน โดยให้ข้อมูลว่าทางบริษัทกำลังเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์จีนหลายราย เพื่อหาแนวทางร่วมมือกันผลิตรถ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งสยามกลการมองว่ารถ EV จะเป็นช่องทางการเติบโตที่มีประสิทธิภาพ

ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นตลาดซื้อขายที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย ซึ่งไทยมีเจ้าตลาดอย่างญี่ปุ่นครองบัลลังก์มายาวนานแล้วจนเกือบจะเป็นส่วนขยายของตลาดในประเทศของตน

แต่จีนกลับแซงหน้าญี่ปุ่นในฐานะนักลงทุนต่างชาติในไทยเมื่อปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนของ BYD ในโรงงานใหม่ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2567 ส่วนด้านประเทศไทยเอง ก็กำลังพยายามดึงผู้ผลิต EV ของจีนรายอื่น ๆ ให้เข้ามาลงทุนในประเทศเช่นกัน

ที่มา: Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส