ผ่านพ้นไปครึ่งปี 2023 นอกจากตัวเลขระบุว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นมากในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศจีนก็มีทิศทางหันไปหารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น (อ่านบทความเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าในจีนได้ที่นี่) แต่ไม่ใช่กับทุกประเทศที่จะเป็นเช่นนั้น เห็นได้จากสถิติ 50 อันดับแรกของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนกลับไรวี่แววของรถ EV สัญชาติญี่ปุ่น
เรามาดู 5 อันดับแรกของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดจีนกันก่อน แน่นอนว่ารุ่นที่นอนมาคือ Tesla Model Y ด้วยยอดขายกว่า 203,932 คัน ในขณะที่อันดับที่ 2 ตกเป็นของน้องโลมาหรือ BYD Dolphin ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยยอดขาย 153,401 คัน และอันดับที่ 3 คือรุ่นยอดฮิตในบ้านเราอย่าง BYD Atto 3 (Yaun PLUS ในจีน) ที่มียอดขาย 141,077 คัน
อันดับที่ 4 ตกเป็นของ Wuling ที่เพิ่งประเดิมตลาดรถ EV ในบ้านเราไปหมาด ๆ ด้วยรุ่น Air EV แต่รุ่นที่ขายดีในจีนนั้นคือ MINIEV ที่จำนวน 122,037 คัน และอันดับสุดท้ายคือ AION S ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยปีหน้า แต่ประเดิมยอดขายครึ่งปีแรกไปด้วยจำนวน 115,599 คันเลยทีเดียว
แล้วรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่ขายในประเทศไทยอยู่อันดับไหนในตลาดจีนกันบ้าง เริ่มจาก Tesla Model 3 อยู่อันดับที่ 7 (90,173 คัน), Ora Good Cat อันดับที่ 17 (29,812 คัน), BMW iX3 อันดับที่ 25 (21,137 คัน) และ Neta V อันดับที่ 29 (19,689 คัน)
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นแรกในตลาดจีนกลับอยู่ในอันดับที่ 54 คือ Toyota bZ3 ที่เป็นการร่วมผลิตระหว่าง Toyota และ BYD มียอดขายอยู่ที่ 8,222 คัน แต่หากนับรวมรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy) ที่รวมรถไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดเข้าไปด้วย Toyota bZ3 จะตกลงมาอยู่ที่อันดับที่ 71 เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการแข่งขันเรื่องพลังงานใหม่ในตลาดจีนถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะมหาอำนาจจีนล้วนมียักษ์ใหญ่ รวมถึง Start up น้องใหม่ที่แข็งแรงอยู่แล้ว ส่วนแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota หรือ Honda ที่เข้าไปแข่งขันก็ทำได้เพียงในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ที่ยังไม่สามารถกินส่วนแบ่งทางการตลาดได้เท่าที่ควร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส