หลังจากมีภาพหลุดของ Tesla Model 3 โฉมใหม่ออกมากับชื่อ Project Highland เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในที่สุดทาง Tesla ก็ออกมาประกาศเปิดตัว Model 3 โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ
Tesla Model 3 โฉมใหม่จะมีการปรับดีไซน์แบบ Minor change ที่ดูมีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น จากลวดลายเส้นสายที่คมชัดกว่าเดิม โดยกันชนหน้าจะมีการตัดช่องดักอากาศ แล้วเน้นเส้นให้คมขึ้น ส่วนไฟหน้าก็ปรับให้แคบลง พร้อมใส่ Daytime Running Lights ทำให้ดูดุดันมากกว่าเดิม
ดีไซน์ด้านข้างในภาพรวมยังคงเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปแบบชัด ๆ คือไฟท้ายที่ใช้ดีไซน์ตัว C และเปลี่ยนเป็นแบบชิ้นเดียวฝังติดกับประตูฝาท้าย ที่ใส่ตัวอักษร T E S L A แทนโลโก้แบบปกติ นอกจากนี้ในรุ่นย่อยบางรุ่นยังสามารถเปลี่ยนลวดลายของล้อได้
ด้านดีไซน์ภายใน จะมีการเปลี่ยนให้ดูมีความเรียบง่ายมากขึ้น เช่น บนคอนโซลที่เคยเป็นลายไม้ก็เปลี่ยนเป็นลายที่ดูโมเดิร์นมากขึ้น พร้อมเพิ่มไฟ LED รอบคัน
ด้านพวงมาลัยก็เปลี่ยนใหม่เช่นกัน โดยจะตัดก้านไฟเลี้ยวและเกียร์ออก แล้วใช้การควบคุมผ่านปุ่มบนพวงมาลัยอย่างเดียว ส่วนหน้าจอยังมีขนาดเท่าเดิมคือ 15 นิ้ว แต่จะมีความสว่างมากกว่า และตอบสนองได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการใช้กระจกและฉนวนแบบใหม่ที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ 20-30% หากเทียบกับรุ่นก่อน และทำให้ช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้นด้วยชุดสปริงและโช้คใหม่
สุดท้ายใน Tesla Model 3 โฉมใหม่จะมีระยะทางการขับที่ไกลขึ้นถึง 8% ในขณะที่สเปกมอเตอร์และแบตเตอรี่ยังเหมือนเดิม จากการที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกให้ต้านลมน้อยลง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) โดยในรุ่น Standard Range จะขับได้ไกลขึ้นเป็น 554 กิโลเมตร (จากเดิม 490 ไมล์) ส่วนรุ่น Long Range จะขับได้ไกลขึ้นเป็น 678 กิโลเมตร
Tesla Model 3 โฉมใหม่ในปี 2023 เริ่มวางขายแล้วในจีน ยุโรป และตะวันออกกลาง โดยราคาถ้าอ้างอิงจากจีนจะอยู่ที่
- Model 3 Standard Range 259,900 หยวน (1,270,000 บาท)
- Model 3 Long Range 295,900 หยวน (1,420,000 บาท)
ส่วนประเทศอื่น ๆ จะเริ่มมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งล่าสุดหน้าเว็บของ Tesla ไทยได้หยุดการเปิดรับจอง Model 3 แล้ว ก็รอลุ้นกันว่าจะได้เป็นรุ่นใหม่หลังจากนี้หรือไม่
อ้างอิง :insideevs caranddriver carwow
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส