ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Expo 2023 สุดครึกครื้น ทางฝั่งยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนอย่าง GAC ได้นำรถ EV ในเครือมาอวดโฉมอย่างคับคั่ง ตั้งแต่แบรนด์ AION Y Plus 490 Premium รุ่นย่อยใหม่และ AION ES ตัวแทนแท็กซี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของไทย ไปจนถึงแบรนด์น้องใหม่อย่าง Hyper ชูจุดเด่นประตูปีกนกกันทุกรุ่น
GAC นำ AION Y Plus 490 Premium รุ่นอัปเกรดออปชันเพิ่มเติมกว่า 24 รายการ ไล่ตั้งแต่ภายนอกกัระบบไฟสูงอัจฉริยะ พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้าและฟังก์ชัน VTOL ส่วนภายในเพิ่มระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งคนขับ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสามารถปรับได้ตามจังหวะดนตรี
ไปจนถึงมีการอัปเกรดเพิ่มขึ้นถึง 12 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับ L2+ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ นอกจากนี้เรายังได้แถมสาย Emergency Charging ให้กับลูกค้าที่ซื้อ AION Y Plus 490 Premium ด้วย อีกทั้งมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 63.2 kWh ขับขี่สูงสุดมากถึง 490 กม.
นอกจากนี้ยังนำเสนอแบรนด์ใหม่ที่เตรียมเข้ามาทำตลาดในไทยอย่าง Hyper ชูดจุดเด่นของประตูปีกนกครบทุกรุ่น ตั้งแต่ Hyper SSR ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า ดีไซน์สปอร์ตที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (cd) เพียงแค่ 0.146 ที่ผสมผสานวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน ทำให้น้ำเบาขึ้นเหล็กทั่วไป 2.5 เท่า โดดเด่นประตูเปิดแบบปีกนกแบบปุ่มกด หรือใช้การเหยียบเบรกจนสุด พร้อมสปอยเลอร์หลังทำงานอัตโนมัติ
Hyper SSR มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,230 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 2.3 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G นอกจากยังเป็นซูเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ ที่วางขายในประเทศจีนอีกด้วย เปิดราคา 7,890,000 บาท พร้อมเปิดจองเริ่มต้น 100,000 บาท
ถัดมา Hyper HT สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ที่ทาง GAC AION วิจัยและพัฒนาขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มาพร้อมดีไซน์ประตูเปิดข้างแนวตรงในสไตล์เอสยูวีทรงสปอร์ต ที่มาพร้อมพื้นที่สัมภาระสูงสุด 1,802 ลิตร เส้นสายโค้งมน
Hyper HT มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย กำลังสูงสุด 180 – 250 kW และแรงบิด 355 – 430 Nm พร้อมอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 5.8 – 6.8 วินาที ขับขี่ได้สูงสุด 600 – 770 km พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Xingling ซึ่งจะมาพร้อมกับเซนเซอร์มากถึง 39 ตัว ทำงานควบคู่กับกล้อง LIDAR 3 ตัว ให้ความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ขับและผู้โดยสาร
อีกทั้งยังมี Hyper GT มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 340 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.9 วินาที ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 80 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 710 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)
นอกจากนี้ยังได้ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ NDA ทำงานควบคู่กับกล้อง LIDAR 3 ตัวที่สามารถปรับโฟกัสสำหรับการตรวจหาวัตถุได้ทั้งในระยะใกล้และระยะไกล พร้อมด้วยชิปประมวลผล AI คุณภาพสูงจาก Huawei มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับและผู้โดยสาร
ในงานนี้ GAC ยังนำ AION ES ว่าที่แท็กซี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของไทย ขับขี่ได้สูงสุด 442 กม. (มาตรฐาน NEDC) มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ 13.6 kWh/ 100 km ที่มาพร้อมระบบ i-pedal และรองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับจากการเบรก Aion ES ราคา 850,000 บาท (สำหรับลูกค้าทั่วไป) พร้อม Home Charger ฟรีค่าติดตั้ง และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม. และ 929,900 บาท (เฉพาะแท็กซี่ EVme จำกัด 2,000 คัน)
AION กำลังก่อตั้งโรงงานจังหวัดระยอง ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 2,300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 50,000 คันต่อปี แบงเป็น 2 เฟส คาดว่าโครงการเฟสแรกจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2024 ปัจจุบันมีศูนย์บริการแล้วกว่า 35 แห่งทั่วประเทศ พร้อมขยายเป็น 50 แห่งภายในปี 2023
AION Y Plus มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 490 Elite ราคา 899,900 บาท และ รุ่น 490 Premium ราคา 999,900 บาท (ราคาเฉพาะจองในงาน Motor Expo 2023) รวมถึงรุ่น 550 Ultra ราคา 1,299,900 บาท
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส