แม้ว่า Toyota ยังคงรักษาตำแหน่งของผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยด้วยยอดจองกว่า 7,245 คัน ในงาน Motor Expo 2023 แต่ดูเหมือนบริษัทแม่ของ Toyota กำลังประสบปัญหาจากบริษัทลูกในเครืออย่าง Daihatsu ที่อาจจะหยุดการขนส่งรถยนต์ทุกคัน ด้วยปัญหาเรื่องความปลอดภัยจากการตรวจสอบรถยนต์กว่า 64 รุ่น

โซอิชิโร โอกุไดระ ประธานบริษัท Daihatsu

Daihatsu เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ลูกของ Toyota ที่มักจะผลิตรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกรถประเภทนี้ว่า เคอิ (kei) ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Daihatsu ถูกสอบสวน เพราะล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Daihatsu ได้เข้ารับการทดสอบความปลอดภัยจากการชนด้านข้าง (side-collision tests) สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก 88,000 คัน และผลการสอบสวนระบุถึงเรื่องอื้อฉาวที่อาจทำให้ชื่อเสียงของผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอาจมัวหมองได้

ทั้งนี้ทาง Toyota ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวว่า “Daihatsu ต้องการการปฏิรูปตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จึงไม่ใช่งานที่ทำให้สำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งจำเป็นต้องมีการทบทวนทั้งในเรื่องการจัดการและการดำเนินธุรกิจ ไปจนถึงระดับโครงสร้างขององค์กรด้วย”

จากการตรวจสอบความปลอดภัย พบว่า ชุดควบคุมถุงลมนิรภัยในรถ Daihatsu บางรุ่นแตกต่างจากในรุ่นที่ขายทั่วไปในตลาด ซึ่งยังไม่มีการระบุถึงอุบัติเหตุจากปัญหาดังกล่าว แต่ผลของการทดสอบการชนด้านข้าง ทำให้รถของ Daihatsu 2 รุ่นอาจไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด แม้จะผ่านคุณสมบัติที่ควรจะเป็นก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการพาดพิงถึงปัญหาเรื่องการกระแทกของพนักศีรษะและความเร็วรถที่ไม่ตรงตามความจริง จากการทดสอบในปี 2014 ด้วย

จากการตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 64 รุ่น ภายใต้แบรนด์ Daihatsu และ Toyota พบปัญหาเรื่องความปลอดภัยดังกล่าวถึง 24 รุ่นด้วยกัน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรุ่นที่ขายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, กัมพูชาและเวียดนาม และประเทศในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ได้แก่ เม็กซิโก, เอกวาดอร์, เปรู, ชิลี, โบลิเวียและอุรุกวัย

ทาง Daihatsu เองก็ออกมายอมรับถึงความร้ายแรงของปัญหาดังกล่าว และระงับการส่งออกต่างประเทศในทันที จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ Dauhatsu ได้ผลิตรถยนต์กว่า 1.1 ล้านคันในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2023 และมียอดขายกว่า 660,000 คันทั่วโลก คิดเป็นยอดขายกว่า 7% ของ Toyota ในช่วงเวลาเดียวกัน เรื่องอื้อฉาวนี้จะจบลงอย่างไร เราคงต้องมาติดตามกันต่อไป

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส