Tesla ซึ่งเป็นผู้ผลิต EV ชั้นนำของโลกถูกแย่งชิงบัลลังก์อันดับหนึ่งในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 โดย BYD แม้ว่า Tesla จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ แต่คู่แข่งหลักก็คือ BYD
รายงานรายได้ของ BYD เพิ่มขึ้น 15.1% สู่ระดับ 8,670 ล้านหยวนอย่างน่าประหลาดใจ เทียบเท่ากับ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยิ่งไปกว่านั้นคือมูลค่าสุทธิของ BYD เพิ่มขึ้น 80.7% เป็น 30,040 ล้านหยวน
การครอบงำของ Tesla ในตลาด EV ถูกขัดขวางในพริบตาจากรถยนต์ค่ายยักษ์แดนมังกร เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ BYD เป็นที่สนใจของสาธารณชนก็คือราคาที่เอื้อมถึงได้ เนื่องจากรถยนต์ที่ถูกที่สุดของ Tesla คือรุ่น Model 3 ซึ่งมีราคาประมาณ 40,000 เหรียญสหรัฐ (~1.45 ล้านบาท) และรถยนต์ที่ถูกที่สุดของ BYD คือรุ่น Seagull ซึ่งมีราคาประมาณ 9,700 เหรียญสหรัฐ (~350,000 บาท) ต่างกันถึง 4 เท่า!
เราจึงเห็นได้ว่าทำไม BYD จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับลูกค้าหลายคนที่ต้องการใช้รถ EV ในราคาที่ต่ำกว่า ณ ขณะนี้ BYD กำลังเพิ่มการผลิตทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ และกำลังสร้างโรงงานในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตภายในสิ้นเดือนเมษายน ไม่เพียงเท่านั้น BYD ยังตั้งเป้าที่จะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ฮังการี อินโดนีเซีย และบราซิลอีกด้วย