วันอังคารที่ 2 เมษายน เทสลา (Tesla) ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่1 ปี 2024 มียอดส่งมอบรถยนต์ 386,810 คัน ลดลง 20% จากไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ที่ 484,507 คัน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลงเป็นปีแรกในรอบ 3 ปี ทั้งนี้บริษัทอ้างว่าเกิดจากเหตุถูกลอบวางเพลิงที่จิกะเบอร์ลินจนต้องหยุดการผลิต 2 สัปดาห์ และการขนส่งหยุดชะงักจากกลุ่มฮูตีในเยเมนโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง รวมทั้งการผลิตที่ลดลงเพื่อเปลี่ยนไปผลิต Model 3 รุ่นอัปเกรด 2024
เดือนมกราคมที่ผ่านมา เทสลาเคยเตือนว่ายอดขายของบริษัทอาจลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปี 2024 เนื่องจากประสบความสำเร็จด้วยการลดราคาในปี 2023 และอ้างว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเติบโต 2 เรื่องสำคัญ คือ การพยายามเพิ่มการผลิตรถกระบะไฟฟ้า CyberTruck และการเร่งดำเนินการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นราคาประหยัด นั่นก็คือ Redwood รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ราคา 25,000 เหรียญ หรือไม่เกิน 900,000 บาท
เทสลาได้ตกอยู่ในวงล้อมแห่งการแข่งขันในประเทศจีนที่สุดโหด เมื่อค่ายรถยนต์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างกระโดดกันเข้ามาแข่งขันสร้างรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ซึ่งมีรายงานว่าเดือนที่ผ่านมา เทสลาได้ลดกำลังการผลิตที่จิกะเซี่ยงไฮ้เนื่องจากยอดขายที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน
นอกจากนี้ ปลายเดือนมีนาคม เทสลาได้งัดลูกเล่นทางการตลาดเพื่อสร้างยอดขาย ด้วยการให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้ FSD ได้ฟรี 1 เดือน และย้ำว่าจะปรับขึ้นราคารถยนต์เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เพื่อให้คนที่สนใจอยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารีบตัดสินใจซื้อภายในเดือนมีนาคม กะจะดันยอดขายในไตรมาสที่ 3