หากใครยังจำกันได้ BMW เคยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ เปลี่ยนสีได้ 32 เฉดที่งาน CES 2023 อย่าง BMW i VISION Dee เราเคยเห็นคันจริงมาแล้วที่ Shanghai Auto Show 2023 ซึ่งไม่ได้มีเพียงคันนี้เท่านั้น ทาง BMW ได้สานต่อความล้ำด้วย Vision Neue Klasse X ในสไตล์เอสยูวี ที่เขาว่าใช้งบพัฒนาสูงที่สุดของรถ BMW ก็ว่าได้
BMW Vision Neue Klasse X หรือ BMW Vision New Class X ในภาษาอังกฤษ ตัวแทนภาพลักษณ์แห่งอนาคตของรถตระกูล X Class ด้วยการผสานเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ การขับขี่ เข้ากับวัสดุรีไซเคิลรีไซเคิลทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร การผลิตโดยไม่ใช้น้ำมัน ลดการสร้างคาร์บอนฟุตปริ้นต์ และสามารถรีไซเคิลได้เมื่อตัวรถสิ้นอายุขัย ถึงขนาดที่ BMW ยกให้เป็นรถที่ฉลาดและปลอดภัยที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู
ตัวรถดีไซน์กระจังหน้าใหม่ แต่ยังคงลักษณะของไตคู่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น BMW X ในปี 1960 คั่นระหว่างไฟหน้า LED พาดยาวซ้อนเลเยอร์กัน ที่สามารถปรับแต่งได้ เลือกลักษณะการกระพริบทั้งแนวตั้งและแนวนอน (ไฟแนวตั้งทำหน้าที่บอกปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ด้วย) ท้ายรถดีไซน์ไฟท้ายลากยาวมาเกือบกลางรถ ยังคงให้กลิ่นอายของรถตระกูล X อยู่
ภายในห้องโดยสารยังเปิดรับแสงจากทุกทิศทางรวมถึงหลังคาพาโนรามาด้านบนและด้านข้าง สังเกตได้จากขนาดของกระจกที่ค่อนข้างเปิดให้เห็นทัศนียภาพกว้างขวาง รับแสงเข้าทุกทิศทาง ผสานวัสดุสีส้มขาวของวัสดุรีไซเคิลที่ได้จากพืชและพลาสติกในทะเลกว่า 30% รวมถึงปราศจากการใช้น้ำมันในกระบวนผลิต นอกจากนี้ยังปรับแสงในห้องโดยสารได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ได้ว่าอยากให้บรรยากาศภายในรถเป็นแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ต ผ่อนคลาย ไปจนถึงระดับลักชัวรี
BMW Vision Neue Klasse X โดดเด่นด้วยหน้าจอที่มีลักษณะเฉียงๆ เอียงๆ เข้าหาฝั่งผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับ AI ที่ช่วยในการขับขี่ รวมถึงจอไกลๆ ที่เป็นแนวยาวนั้นคือ Panoramic Vision ในลักษณะ 3D ที่แสดงผลข้อมูลต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ มาพร้อมระบบช่วยขับขี่ที่ฉลาดที่สุด อาทิ ระบบ ACC Stop & Go สามารถหยุดรถตามสัญญาณไฟจราจรได้เลย
BMW Vision Neue Klasse X มาพร้อมระบบปฏิบัติการ BMW iDrive และระบบขับเคลื่อน eDrive เจน 6 ที่ขับขี่ไฟฟ้าได้ไกลขึ้น 30% (เขาว่าสูงสุด 600 กม.ต่อการชาร์จ) ชาร์จไฟไวขึ้น 30% และประสิทธิภาพการขับขี่สูงขึ้น 25% ยังมีข้อมูลว่ามอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนจะเป็นอย่างไร แต่คาดว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อการขับขี่ที่ได้สมรรถนะสูงสุด ตัวแบตรุ่นใหม่รองรับการชาร์จแบบ 2 ทาง ทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์กักเก็บพลังงานได้
นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังทำได้มากกว่าแค่จ่ายพลังงานให้กับตัวรถ แต่ยังออกแบบการใช้งานจ่ายไฟด้วย 3 แนวคิด คือ Vehicle to Home, Vehicle to Grid และ Vehicle to Load ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น รวมถึงส่งพลังงานคืนไปยังแผงโซลาร์เซลล์ ไปจนถึงจ่ายไฟกลับเข้าบ้าน (ทำงานร่วมกับ BMW DC Wallbox Professional) ได้อีกด้วย ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟและลดการใช้พลังงานลงได้
BMW Vision Neue Klasse X มีแผนทำการตลาดในปี 2025 เราต้องมาดูกันว่ารถที่เป็นภาพลักษณ์แทนอดีต ปัจจุบันและอนาคตของ BMW จะเปิดตัวด้วยราคาประมาณเท่าไหร่