เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของเทสลา (Tesla) ได้เปลี่ยนป้ายปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าในสหรัญฯ รวดเดียว 3 รุ่น ได้แก่ Model Y, Model X และ Model S ลงมาถึง 2,000 เหรียญ (73,000 บาท) ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 ที่มียอดส่งมอบน้อยกว่าที่คาดการณ์
รอบนี้เทสลาได้ปรับลดราคา Model Y รุ่นพื้นฐานลงเหลือ 42,990 เหรียญ (1,582,461 บาท) ในขณะที่ Model Y Long Range ลดลงลงเหลือ 47,990 เหรียญ (1,766,511 บาท) และ Model Y Performance ลงลงเหลือ 51,490 เหรียญ (1,895,346 บาท)
อีลอน มัสก์ โพสต์บน X ว่า Model Y รุ่นเริ่มต้นมีมูลค่าอยู่ที่ 29,490 เหรียญ (1,085,526 บาท) เท่านั้น หลังจากหักเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และค่าน้ำมันโดยประมาณแล้ว
ส่วนรถระดับหรูเริ่มจาก Model S รุ่นพื้นฐานลดราคาลงเหลือ 72,990 เหรียญ (2,686,761 บาท) และ Model S Plaid ลดราคาลงเหลือ 87,990 เหรียญ (3,238,911 บาท) ต่อมาคือ Model X รุ่นพื้นฐานลดราคาลงเหลือ 77,990 เหรียญ (2,870,811 บาท) และปิดท้ายด้วย Model X Plaid ลดราคาลงเหลือ 92,900 เหรียญ (3,419,649 บาท)
นอกจากนี้บัญชี Tesla North America ได้โพสต์บน X ว่าจะยุติสิทธิประโยชน์ของ Referral Program ส่วนลดที่ผู้ซื้อจะได้รับจากการอ้างอิงการแนะนำจากลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งจะเริ่มในทุกตลาดหลังจากวันที่ 30 เมษายน
เมื่อวันเสาร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มัสก์ได้เลื่อนแผนการเดินทางไปเยือนอินเดีย เพื่อไปพบปะหารือกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดีย เกี่ยวกับแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเอเชียใต้ โดยอ้างว่ายุ่งติดงานของเทสลาที่หนักมากในช่วงนี้ และจะเลื่อนไปอินเดียในช่วงปลายปี
เทสลาก้าวสู่ปีที่ไม่ค่อยสวยงามเหมือนก่อน เริ่มตั้งแต่ต้นปีด้วยยอดส่งมอบรถยนต์รวมทั้งหมดของปี 2023 อยู่ที่ 1,808,581 คัน จึงทำให้เสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกให้กับ BYD แม้ว่าเทสลาจะสร้างกระแสโดยประกาศแผนจะผลิตรถยนต์รุ่นราคาถูก Model 2 แต่เมื่อต้นเดือนเมษายนก็มีข่าวลือว่าเทสลาจะยกเลิกแผนผลิตรถยนต์ราคาถูก จนซีอีโอต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และกลบข่าวด้วยการประกาศแผนเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับใน 8 สิงหาคม 2024 ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ เทสลามีแผนปลดพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10% ซึ่งมีผลโดยตรงกับพนักงานอย่างน้อย 14,000 คน