หลายสัปดาห์ก่อนเคยมีประเด็นเกี่ยวกับท่อแคท (Catalytic) ในรถยนต์ ที่มีเคสเพื่อนยืมรถไปขับแล้วแอบถอดท่อแคทโดยที่เจ้าของรถไม่รู้ จนกระทั่งเข้าศูนย์ถึงรู้ว่าอะไรหายไป แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเจ้าท่อแคทนี้ทำหน้าที่อะไร รวมถึงมีค่าแค่ไหนในตลาด เรามาอัปเดตไปพร้อม ๆ กัน
ท่อแคท หรือท่อแคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ (Catalytic converter) เป็นท่อที่มีไส้กรองคล้ายรังผึ้ง อยู่ติดกับท่อไอเสีย ซึ่งมีโลหะอย่างแพลตินัม (Platinium) แพลเลเดียม (Palladium) และโรเดียม (Rhodium) เป็นส่วนประกอบหลัก ทำหน้าที่ในการเร่งปฏิกิริยา Reduction และ Oxidation อย่างไนโตรเจนออกไซด์, คาร์บอนมอนอกไซด์ และไฮโดรคาร์บอนลดน้อยลง พูดง่าย ๆ ว่าช่วยลดมลพิษที่เกิดจากเครื่องยนต์นั่นเอง
ท่อแคท เป็นอุปกรณ์ที่รถยนต์ทุกคันต้องมีตามกฎหมาย ไม่ว่าจะในอเมริกาที่ออกกฎหมายบังคับใช้การติดตั้งท่อแคทเพื่อลดมลพิษ ตั้งแต่ปี 1974 หรือญี่ปุนเองก็มีกฎหมายบังคับใช้ปี 1975 เช่นกัน รวมถึงไทยเองก็มีการออกกฎหมายบังคับใช้รถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินในปี 1993 มาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ท่อแคทเองก็มีอายุการใช้เหมือนกัน อยู่ที่ 150,00 – 200,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 5 ปี เนื่องจากอาจเกิดการอุดตันและทำให้ระบบไอเสียและเครื่องยนต์มีปัญหาได้ ซึ่งการถอดท่อแคทออกก็ช่วยให้ระบายไอเสียและเร่งเครื่องได้ดีขึ้น แต่จะทำให้ตัวรถปล่อยไอเสียที่แย่กว่าเดิมสู่ท้องถนน เหมือนเวลาที่เราเห็นรถควันดำ ๆ และเหม็น ๆ ขับผ่าน
ส่วนเหตุผลที่ทำไมคนถึงต้องขโมยท่อแคทจากรถคันอื่น เนื่องจากส่วนประกอบของท่ออย่างแพลตินัม หรือทองคำขาว ที่คนไทยคุ้นเคยกัน ท่อแคทส่วนใหญ่จะมีปริมาณแพลตินัมประมาณ 3-7 กรัมต่อ 1 ท่อ ซึ่งราคาของแพลตินัมอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,000 เหรียญ/ออนซ์ (ประมาณ 35,000 บาท/ออนซ์) ทำให้ราคาท่อแคทอยู่ที่หลักพัก – หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับชนิดของโลหะในท่อเลยทีเดียว
ดังนั้นหากใครไม่แน่ใจว่ารถของตัวเองยังมีท่อแคทอยู่ไหม เวลาเข้าศูนย์รอบหน้าก็ลองเช็กกันดูด้วย หากใกล้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้วก็ควรจะเปลี่ยนให้เรียบร้อย จะไม่ได้ต้องมานั่งกังวลว่ารถฉัน ทำไมเร่งไม่ค่อยขึ้นกันนะ