สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานว่า Vingroup กลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม กำลังขาย Vincom Retail ธุรกิจห้างสรรพสินค้าและค้าปลีก ซึ่งมีห้างขนาดใหญ่กว่า 80 แห่งที่ตั้งอยู่บนทำเลทองทั่วเวียดนามและเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท รวมทั้งได้เตรียมนำ VinFast ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ขาดทุนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นโดยการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อรักษากระแสเงินสดในอนาคตของกลุ่มบริษัท

เดือนมีนาคมที่ผ่านมา Vingroup ประกาศจะขายหุ้นบริษัท SDI ซึ่ง SDI ได้ถือหุ้นมากกว่า 99% ใน Sado ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 41.5% ใน Vincom Retail โดยในเดือนมีนาคม Vingroup ได้ขายหุ้น SDI ไปแล้ว 55% และที่เหลืออีก 45% คาดว่าจะขายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าราคาโอนทั้งหมดอยู่ที่ 1,500 ล้านเหรียญ (55,177 ล้านบาท)

นอกจากนี้เมื่อปี 2019 Vingroup ได้ขาย VinCommerce ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตออกไปก่อนแล้ว และเดือนเมษายนที่ผ่านมา Vingroup เผยว่าจะเสนอขายหุ้น IPO บริษัท Vinpearl ที่ดำเนินธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวและรีสอร์ตภายในสิ้นปีนี้

เดือนเมษายน ที่งานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ฟาม นัท เวือง (Pham Nhat Vuong) ผู้ก่อตั้ง Vingroup กล่าวว่า VinFast คือภารกิจและอนาคตของ Vingroup ดังนั้นจะไม่มีวันปล่อยมือจาก VinFast เด็ดขาด ซึ่งเป็นการย้ำกับผู้ถือหุ้นว่ากลุ่มบริษัทจะมุ่งเน้นไปยังธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า

VinFast มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนมกราคม – มีนาคม จำนวน 9,689 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.4 เท่าจากปีที่แล้ว และมียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2021 จำนวน 50,000 ค้น อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงงานในอินเดียและอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะมีการลงทุนในปีนี้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ (36,785 ล้านบาท)

นิกเคอิเปิดเผยว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ VinFast ในปี 2023 เกือบ 15% มาจากคูปองส่วนลดจากการซื้อบ้านของ Vinhomes บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่ม และยอดขายอีก 70% ในปี 2023 มาจาก GSM บริษัทแท็กซี่อีวีที่เป็นของคุณเวืองผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ดังนั้นจึงคาดกันว่ายอดขายมากกว่า 80% มาจากการสนับสนุนในกลุ่มบริษัท

นอกจากนี้ Vingroup มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปลายเดือนธันวาคมสิ้นปี 2023 ติดลบ 20 ล้านล้านดอง (28,953 ล้านบาท) และกระแสเงินสดอิสระใกล้ติดลบ 50 ล้านล้านดอง (72,382 ล้านบาท) อีกทั้งมีรายงานว่าบริษัทกำลังพยายามหาเงินทุนหรือรีไฟแนนซ์หนี้ 85% ที่ครบกำหนดภายในสิ้นปีนี้ โดยจะขยายเวลาไถ่ถอนพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์บางส่วน

เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือ คุณภาพของรถยนต์ไฟฟ้า VinFast ซึ่งในช่วงปี 2022 มีการเรียกคืนรถยนต์ 4 ครั้ง และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา VinFast ได้มีการเรียกคืนรถยนต์มากกว่า 11,000 คัน ซึ่งเทียบได้เกือบ 25% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และล่าสุดมีรายงานว่าโรงงานประกอบรถยนต์ของ VinFast ในสหรัฐฯ จะถูกเลื่อนออกไปเสร็จในปีหน้า นอกจากนี้มีผู้ถือหุ้นบางรายสงสัยว่า Vinhomes กำลังจะปล่อยเงินกู้ให้กับ VinFast หรือไม่ แต่ก็ถูกปฏิเสธว่า VinFast สามารถระดมทุนได้ด้วยตัวเอง