แม้ว่ากระแสรถ EV จะร้อนแรง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายอดซื้อรถไฮบริดในจีนกลับทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราได้ข้อมูลเชิงลึกจากแบรนด์ BYD ว่า โรงงานในประเทศจีนหลายแห่งสวิตช์สายพานการผลิตจากรถ EV ไปสู่รถ HEV อย่างเร่งด่วน ภายหลังการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง DM-i ที่มาช่วยให้การขับขี่ประหยัดยิ่งขึ้น ซึ่งในไทยเองได้นำเสนอเทคโนโลยีนี้ผ่านรุ่น BYD Sealion 6 DM-i เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด ในงาน Motor Show 2024 ไปแล้ว เราขอขยายความถึงเทคโยโลยี DM-i จาก BYD กันสักหน่อยว่ามันประหยัดได้อย่างไร

อย่างที่หลายคนทราบ เทคโนโลยีไฮบริดคือการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid จาก BYD ก็เช่นเดียวกัน เทคโนโลยีระบบพลังงานและชุดควบคุมการทำงานสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ BYD ซึ่งคำว่า DM ย่อมาจาก Dual Mode หรือระบบการทำงานประสาน 2 ขุมพลังคือมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ส่วน i ย่อมาจาก Intelligent เสริมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะนั่นเอง

จุดเด่นของเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid คือการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก และเสริมด้วยเครื่องยนต์ที่ช่วยในการปั่นไฟ รวมถึงเสริมกำลังขับขี่ เร่งความเร็ว เร่งแซง การขับขี่ทางไกล ไปจนถึงดันขึ้นเนิน เพื่อให้ตัวรถมีการปล่อยคาร์บอนออกมาน้อยที่สุด ขณะเดียวกันยังใช้พลังงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดผ่านตัว Blade Battery และระบบระบายความร้อนอัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับรถไฮบริดโดยเฉพาะ

เทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ออกแบบมาสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เจเนอเรชันที่ 4 ซึ่งพัฒนาจากเจนแรกมานานกว่า 15 ปี ปัจจุบันเทคโนโลยี DM-i นี้ถูกใช้ในรุ่น BYD Sealion 6 DM-i รวมถึงรุ่นอื่น ๆ โดยแบ่งการทำงานของระบบ ดังนี้

  • EV Mode: โหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นหลัก อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ และมอบประสบการณ์ขับขี่นุ่มนวล และไร้เสียงรบกวนเช่นเดียวกับรถ EV
  • Series Mode: โหมด HEV แบบอนุกรม เป็นโหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากเครื่องยนต์ ทำให้ยังคงมีลักษณะการขับขี่คล้ายกับรถ EV อยู่
  • Parallel Mode: โหมด HEV แบบขนาน ซึ่งเป็นโหมดการขับเคลื่อนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าผสานการทำงานกับเครื่องยนต์ เพื่อกำลังสูงสุดในการเร่งแซงและขึ้นเขา

โดยทุกระบบขับเคลื่อนจะอาศัยระบบ Regenerative Braking เก็บพลังงานจลน์กลับเข้าสู่แบตเตอรี่ทุกครั้งเมื่อชะลอหรือเบรก นอกจากนี้ตัวแบตเตอรี่ยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสม ทำให้รถไม่ต้องแบกน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่มากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราการสิ้นเปลืองพลังงานในการขับเคลื่อนมากขึ้นตามไปด้วย รวมถึงยังลดอัตราการปล่อยคาร์บอนได้ดีขึ้นด้วย

ข่าวดีทีมงาน bt กำลังจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมเทคโนโลยี DM-i ของ BYD ถึงต้นกำเนิดที่เมืองซีอาน ประเทศจีน ก่อนที่เจ้าเทคโนโลยีตัวนี้จะมาสู่โรงงานประกอบรถ EV ในไทยที่จังหวัดระยองด้วยในอนาคตด้วย แล้วเราจะมาอัปเดตให้ฟังอีกครั้งว่า เทคโนโลยีไฮบริดของเขาเดินหน้าไปถึงไหนกันแล้ว แบบนี้มีหวังค่ายญี่ปุ่นอยู่ไม่สุขอีกแน่เลย