Our score
8.9รีวิว Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe คาเยนน์ที่ถูกที่สุด ประกอบมาเลเซีย จบที่ 6.29 ล้านบาท
จุดเด่น
- Porsche Cayenne ที่ถูกที่สุดที่เคยขายมา
- ออปชันกว่า 9 แสนบาทตกแต่งมาให้แล้ว
- สมรรถนะแรงขึ้น ประหยัดพลังงานมากขึ้น
จุดสังเกต
- ไม่สามารถเลือกออปชันเพิ่มได้ เลือกได้แค่สีภายนอกและภายใน
- กล้องรอบคันดูยากไปนิด มีความเบี้ยวๆ อยู่
-
คาเยนน์ที่ถูกที่สุด ขับสนุก ช่วงล่างแน่นกริบ ออปชันมาครบ
8.9
ไม่บ่อยนักที่เราได้มีโอกาสทดลองขับขี่แบบฟรีสไตล์กับรถ Porsche รถสปอร์ตหรูในฝันของใครหลายคน วันนี้ Porsche ประเทศไทยที่จัดจำหน่ายโดย AAS Group ต้องการทำตลาดใหม่ด้วยรถโมเดลเดิมนั่นคือ Cayenne รถเอสยูวีทรงสปอร์ต ที่ปรับเปลี่ยนแหล่งที่มาเป็นการนำเข้ารถประกอบจากประเทศมาเลเซีย (แต่เดิมประกอบเยอรมัน) ปรับแต่งออปชันมาให้สำหรับขายคนไทยโดยเฉพาะ (ตัวเลือกนี้คนมาเลก็ซื้อที่ประเทศตัวเองไม่ได้นะ) พร้อมลดระยะเวลารอรถจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่สำคัญราคายังหายไปอีกล้านกว่าบาท ใครล่ะจะไม่ซื้อ
Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe เป็นรถเอสยูวีทรงคูเป้ท้ายลาด ขุมพลังไฮบริด ที่สามารถชาร์จไฟจากภายนอกเข้าสู่ตัวรถได้ด้วย Porsche มีตัวเลือกรุ่น Cayenne E-Hybrid และ Cayenne E-Hybrid Coupe เดิมอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจคัสตอมดีเทลทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่สำหรับ Cayenne E-Hybrid Coupe รุ่นประกอบมาเลเซียนี้ สามารถเลือกได้แค่สีภายนอก 3 สี ได้แก่ ขาว เทาและดำ และสีภายใน 2 สีคือดำและแดง ที่เหลือทาง Porsche จัดออปชันมาให้แบบจัดเต็ม ที่คิดมูลค่าของแต่งอย่างเดียวก็ปาไปเกือบ 900,000 บาทแล้ว
ดีไซน์ภายนอก
ตัวรถ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe เป็นรถสไตล์คูเป้ ที่ด้านท้ายลาดให้ความรู้สึกสปอร์ต พร้อมสปอยเลอร์ที่ปรับยกขึ้นอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้านนอก Porsche Entry ที่ช่วยเปิดประตูท้ายอัตโนมัติเมื่อยื่นเท้าไปใต้รถทางซ้ายหน่อย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับประตู Soft-close ปิดแบบนุ่มนวลให้ด้วย
ภายนอกของ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe ยังตกแต่งมาให้พร้อมตั้งแต่ชุดไฟหน้า HD-Matrix LED (ราคา 158,000 บาท) ที่เป็นชุดไฟสุดฉลาดของ Porsche สามารถปรับไปเลี้ยวตามการเดินที่ของตัวรถได้ ปรับลดแสงไฟคู่หน้าอัตโนมัติเมื่อขับสวนเลน เสียดายที่การขับขี่วันนี้อยู่ในช่วงกลางวัน เลยไม่ทันได้ทดสอบประสิทธิภาพของชุดไฟ นอกจากนี้ยังมากับชุดแต่งล้อ 20 นิ้ว พร้อมคาริปเปอร์เบรกสีแดง (ราคา 122,000 บาท)
Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 25.9 kWh ถือว่าขนาดค่อนข้างใหญ่ ขับในโหมดไฟฟ้าได้ไกล 88 กม. เป็นรองแค่ BMW X5 ที่ให้ขนาด 29.5 kWh ขับโหมดไฟฟ้าได้ 113 กม. แต่สิ่งที่ทดแทนได้คือกำลังการชาร์จไฟ AC 11 kW ซึ่งสูงที่สุดในรถเซกเมนต์เดียวกันและใช้เวลาชาร์จเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาที ช่องชาร์จอยู่ทางซ้ายตัวรถ พร้อมช่องเติมน้ำมันทางขวา
ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัย GT Sports (ราคา 38,000 บาท) และเบาะนั่งเรียบหรู มีให้เลือกสีดำและสีแดง (ราคา 273,000 บาท) พร้อมด้วยแป้นคันเร่งและเบรกสแตนเลสสตีล (ราคา 10,000 บาท) ที่ปกติจะใช้สีดำ ทำให้ดูพรีเมียมขึ้น รวมถึงชุดแพ็คเกจสูบบุหรี่ (ราคา 4,000 บาท) ที่ติดมาให้ในรถด้วย
Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe คันที่เราได้มาทดสอบภายในเป็นตัวเลือกสีแดงบอร์โด (Bourdueaux Red) บริเวณคอนโซลกลางจะเป็นปุ่มควบคุมและปรับอุณหภูมิภายในรถ ด้านหน้าเป็นช่องสำหรับชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย และมีช่องเสียบ USB เพิ่มเติมอีก นอกจากนี้สิ่งที่ทาง Porsche จัดมาให้คือนาฬิกาคลาสสิกที่ปอร์เช่ดีไซน์ (ราคา 73,000 บาท) มาให้ด้วย
ฟิลลิ่งการขับขี่
Porsche ก็ยังคงเป็น Porsche สมชื่อรถสปอร์ตใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แม้เราจะไม่ได้มีโอกาสขับ Porsche บนถนนบ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่ได้จับพวงมาลัย เติมคันเร่งในตอนเร่งแซง เข้าโค้งแบบเนียนกริ๊บ ล้วนมีความสุขทุกครั้ง เช่นเดียวกับ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe ที่แม้จะเป็นรถเอสยูวี แต่สมรรถนะไม่มีที่ติ แน่นเฟิร์ม เข้าโค้งมั่นใจ แม้อยู่ในช่วงความเร็วสูงหรือขับชิล ๆ ในเมือง
Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe มีขนาดตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ตามสไตล์รถเอสยูวี ซึ่งอาจจะติดขัดในการกะระยะบ้างช่วงแรก ๆ แต่บอกได้เลยว่าขับไม่นานก็สามารถควบคุมได้ดั่งใจ เราชอบการปรับโหมดขับเคลื่อน ซึ่งมีปุ่มแยกทางขวาล่างของพวงมาลัย มีให้เลือก 5 โหมด แต่โหมดที่เหมาะกับการใช้งานปกติคือ E-power ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า สูงสุด 88 กม. ซึ่งวันนี้เราก็ใช้จนหมด อีกโหมดคือ Sport Plus ที่ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์เข้ามาในรถเลย แถมอัตราเร่งยังปรู๊ดปร๊าดขึ้น ช่วงล่างแน่นขึ้น พวงมาลัยตอบสนองได้ดีขึ้น สามารถเลือกปรับระดับการตอบสนองของช่วงล่างและพวงมาลัยได้ด้วย ขับสนุกขึ้นจริง ๆ แม้ขับขี่ในเมืองก็ตาม
หลังจากการใช้งานมีส่วนที่เราติดใจอยู่จุดเดียวคือเรื่องกล้องรอบคันที่ติดมาให้กับตัวรถ โดยเฉพาะกล้องหลังรถจะมีความเบี้ยวอยู่ระดับหนึ่ง ไม่ได้ตรงตามที่ตาเห็นเท่าไหร่ ทำให้เวลาถอยรถอาจจะต้องทำความคุ้นชินสักเล็กน้อย หรือใช้เพียงแค่กระจกมองข้างอาจสะดวกกว่าสำหรับบางคน
ส่วนเรื่องการประหยัดพลังงาน Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe เขาเคลมไว้ว่ามีอัตราสิ้นเปลือง 50 km/l (ลดลงจากรุ่นก่อนที่ 52.63 km/l) หรือประมาณ 2 l/ 100 km ซึ่งเราลองใช้งานทั้งขับขี่ปกติและลองเหยียบถนนโล่งพบว่าอัตราสิ้นเปลืองจริงอยู่ที่ประมาณ 4.6 – 6.6 l/ 100 km ซึ่งก็มากกว่าตัวเลขที่เคลม 2-3 เท่าตัว แต่เมื่อเทียบจากตัวเลขแล้วสามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 1,100 กม. เลยทีเดียว
สุดท้ายเราว่า Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe จะเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งขับขี่ในเมือง ขนของสัมภาระต่าง ๆ รวมถึงการเดินทางไกลต่างจังหวัดก็ตอบโจทย์ ด้วยออปชันที่ให้มาครบ ไม่ต้องแต่งเพิ่ม ในราคาที่ลดลงเกือบล้านบาท ซึ่งทาง AAS Group แจ้งว่าลอตแรกที่นำเข้าจากมาเลเซียจำนวน 300 คัน ขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากใครที่เป็นแฟน Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe สามารถติดตามลอตต่อ ๆ ไปได้เลย คงไม่มี Cayenne ไหนที่จะถูกว่าและได้ออปชันมากเท่ากับรุ่นนี้อีกแล้วล่ะบอกเลย