หลังจาก Porsche Taycan เปิดตัวในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Porsche ในปี 2019 ผ่านพ้นมา 5 ปี Taycan ได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชันใหม่ ที่มีสมรรถนะและระยะทางขับขี่มากขึ้น รวมถึงรองรับการชาร์จได้รวดเร็วขึ้นสูงสุด 320 kw โดยเฉพาะการมาของสีใหม่ในชื่อ Celestial Jade ที่เป็น Taycan Turbo S คันเดียวในโลกที่ใช้สีนี้

Taycan Turbo S Celestial Jade สีพิเศษออกแบบโดย Sonderwunsch ระหว่างความร่วมมือของ Porsche Exclusive Manufaktur และ Porsche Asia Pacific ที่เป็นตัวแทนของยนตรกรรมไฟฟ้าที่อัปเกรดใหม่ในทุกด้าน พร้อมจัดงานเปิดตัวครั้งใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สี Celestial Jade ที่ได้มาจากเทคโนโลยี ChromaFlair คือการผสมเม็ดสีที่มีความบางเพียง 1 ไมโครเมตร (บางกว่าเส้นผมมนุษย์ 50 เท่า) เข้าด้วยกัน ระหว่างสี “Urban Bamboo” เป็นสีเขียวสดใสที่มีโทนสีเหลืองและทอง และสี “Shifting Carbon” เป็นสีเทาดำที่มีโทนสีดำและน้ำเงิน โดยใช้เวลาพ่นนานกว่า 80 ชั่วโมง ส่วนชื่อสี Celestial Jade มาจากชื่อของหยก หรืออัญมณีของเอเชียนั่นเอง

Porsche Taycan เวอร์ชัน 2024 จะมีด้วยกัน 7 รุ่นย่อย และมีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ทรงสปอร์ตซีดาน และสไตล์ Cross Turismo มีการออกแบบไฟหน้าใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี HD Matrix และแถบไฟท้ายดีไซน์ 3 มิติ พร้อมออปชันเสริมเป็นไฟส่องสว่างประกอบแอนิเมชันต้อนรับเวลาปลดล็อกรถ

Porsche Taycan มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ ให้กำลังสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 80 kW และน้ำหนักเบาขึ้น 10.4 kg จึงทำให้อัตราเร่งลดลงจาก 0-100 km/h เพียง 4.8 วินาที (เร็วกว่าเดิม 0.6 วินาที) โดยเฉพาะรุ่น Turbo S จะใช้เวลาเพียง 2.4 วินาทีเท่านั้น (เร็วขึ้น 0.4 วินาที) นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ Sport Chrono ที่เพิ่มกำลังมอเตอร์ขึ้นอีก 70 kW นาน 10 วินาที เพื่อรีดสมรรถนะในชั่วขณะหนึ่ง เสริมกำลังรถในจังหวะเร่งแซงได้ดีขึ้น เหมือนกับการกดปุ่มไนตรัส ซึ่งรองรับเพียง Taycan บางรุ่นเท่านั้น

Porsche Taycan มาพร้อมแบตเตอรี่ Performance Battery Plus เทคโนโลยี 800V ในรุ่นเริ่มต้นมีขนาดแบตเตอรี่ 89 kWh ขับขี่ได้สูงสุด 566 km (มาตรฐาน WLTP) และรุ่นที่แบตฯ ใหญ่ 105 kWh (เพิ่มขึ้นจากเดิม 93 kWh) สามารถขับได้ไกล 678 km ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 35% เลยทีเดียว แถมยังรองรับการชาร์จ DC 320 kW ทำให้ชาร์จจาก 10-80% ได้เวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารมาพร้อม Porsche Intelligent Range Manager เบาะนั่งปรับได้ 14 ทิศทาง ระบบควมคุมอุณหภูมิ 4 โซน ระบบเสียงจาก BOSE รวมถึงวัสดุหนัง 10 เฉดตัดกับสีตะเข็บ 15 สี สำหรับมาตรฐานใหม่ของ Taycan ทุกรุ่นย่อย ลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งสีเองได้ตามโปรแกรมที่ต้องการ
Porsche Taycan มีราคาเริ่มต้นที่ 6,690,000 บาท ราคาไล่ขึ้นไปตามความแรงของตัวรถ ส่วนเจ้า Taycan Turbo S Celestial Jade คันเดียวในโลกจะเริ่มเดินสายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย แฟน ๆ Porsche รอชมกันได้เลย