วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน จีเอ็ม (GM) และ ฮุนได (Hyundai) ได้ทำ MOU ในการร่วมมือกันประสานกำลังใช้ประโยชน์จากขนาดและจุดแข็งของทั้งสองบริษัทมาสร้างกลยุทธ์สำหรับอนาคต ได้แก่ การลดต้นทุน การแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนารถยนต์และเทคโนโลยีที่หลากหลายออกสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกได้มีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะคู่แข่งจากจีนที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ใหม่ต้องใช้ต้นทุนจำนวนมากหลายหมื่นล้านเหรียญ (ล้านล้านบาท) ดังนั้นบริษัททั้งสองจึงจับมือกันพัฒนาเพื่อลดต้นทุนให้น้อยลง รวมทั้งยังช่วยแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโดยการช่วยกันจัดหาชิ้นส่วนและวัตถุดิบ เช่น เหล็กและแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี่ ให้เพียงพอสำหรับการผลิตด้วย
นอกจากนี้ บริษัททั้งสองจะพัฒนารถยนต์ร่วมกัน ได้แก่ การผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (หมายถึง รถบรรทุก และรถโดยสาร) เครื่องยนต์น้ำมัน เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น ระบบส่งกำลังไฟฟ้าและไฮโดรเจน รวมทั้งเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ
กลยุทธ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อเดือนเมษายน 2022 จีเอ็มได้ประกาศจับมือกับฮอนด้าในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตออกมาหลายล้านคันในปี 2027 เพื่อแข่งขันกับเทสลา แต่ต่อมาเดือนตุลาคม 2023 ทั้งสองบริษัทได้ประกาศล้มเลิกแผนดังกล่าวที่ได้ตกลงจะทำงานร่วมกันในโครงการมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญ (167,900 ล้านบาท)