จากกระแสความเปรี้ยงปร้างของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดจีน รุกลามไปถึงหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ทำให้เจ้าตลาดรถยนต์เดิมอย่างค่ายรถญี่ปุ่นเริ่มสะดุดในการดำเนินธุรกิจ แม้แต่ในไทยเองก็ถอนตัว ปิดโรงงานแล้วเปลี่ยนไปเป็นการนำเข้าไปหลายค่าย ส่วนในจีนบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ที่เป็นบริษัทกิจการร่วมค้ากับบริษัท ตงเฟิง มอเตอร์ คอร์ป ในเมืองอู่ฮั่น ได้สั่งหยุดการผลิตชั่วคราวทั้ง 3 โรงงาน เพื่อลดปริมาณการผลิตรถยนต์ใหม่ที่มากเกินไปออกสู่ตลาด

บริษัท ตงเฟิง ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด ตัดสินใจหยุดการดำเนินงานผลิตชั่วคราวในโรงงานทั้ง 3 แห่งในเมืองหูเป่ย ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม – 18 กันยายนนี้ เนื่องจากมีสินค้าคงคลังจำนวนมาก สวนทางกับยอดขายที่ลดลง ซึ่งบริษัทกิจการร่วมค้านี้มีกำลังการผลิตรวม 720,000 คันต่อปี นอกจากนี้บริษัทกิจการร่วมค้ายังมีแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 2,000 คน ในอนาคตอีกด้วย

ปัจจุบันยอดขายรถยนต์ของ Honda ในจีนลดลงอย่างมากในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตกลงกว่า 44.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ท่ามกลางความรุนแรงของสงครามราคารถ EV รวมถึงยอดขายรถพลังงานทางเลือก (โดยเฉพาะรถไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลจีน

นอกจากนี้บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นยังเล็งยุติสายการผลิตรถที่โรงงาน Dongfeng Honda 1 แห่ง และโรงงาน GAC Honda Automobile Co. ซึ่งเป็นโรงงานกิจการร่วมค้ากับ กว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน อีก 1 แห่ง ภายในปี 2024 อีกด้วย