วันพุธที่ 2 ตุลาคม เทสลา (Tesla) ได้รายงานยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ด้วยจำนวน 462,890 คัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาถึง 14.4% ที่จำนวน 443,956 คัน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่จำนวน 435,059 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทสลากำลังพลิกฟื้นกลับมาทำยอดส่งมอบได้เพิ่มขึ้น หลังจากไตรมาสที่ 1 เทสลามียอดส่งมอบลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 และแม้ว่ายอดส่งมอบในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ใด ๆ ก็ตามยอดส่งมอบในไตรมาสนี้ยังทำได้น้อยกว่ายอดประมาณการที่จำนวน 463,310 คัน
เมื่อส่องดูรายละเอียดพบว่ายอดส่งมอบส่วนใหญ่มาจากรุ่น Model 3 และ Y ยอดรวม 439,975 คัน ส่วนที่เหลือระบุว่าอื่น ๆ ซึ่งหมายถึงรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู S/X, รถกระบะไฟฟ้า Cybertruck และรถเทรลเลอร์ไฟฟ้า Tesla Semi ด้วยยอดรวม 22,915 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มียอดของ Cybertruck เข้ามาช่วยด้วย แต่ก็น่าเสียดายที่บริษัทไม่ได้แยกตามรุ่นให้เห็นกันอย่างชัดเจน
ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 อยู่ที่จำนวน 469,796 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาที่จำนวน 410,831 คัน และเพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่จำนวน 430,488 คัน
ปัจจุบันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาโดยรวมยังคงเติบโตช้ากว่าหลายปีก่อน เนื่องจากลูกค้าได้แห่กันไปซื้อรถยนต์ไฮบริดแทนรถยนต์ไฟฟ้า BEV ซึ่งเทสลาไม่มีรถยนต์รุ่นเหล่านี้จึงเสียโอกาสในการสร้างยอดขายไปเล็กน้อย นอกจากนี้ต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่มียอดขายเติบโตขึ้น เช่น BYD ทำสถิติยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ในเดือนกันยายน 419,426 คัน เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และ Geely มียอดขายในเดือนกันยายน 201,949 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 21%
อย่างไรก็ตาม ใครที่ต้องการทราบตัวเลขรายได้ ผลกำไร และทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถติดตามดูข้อมูลที่สมบูรณ์ได้ผ่านการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ในวันที่ 23 ตุลาคม แต่ใครที่ต้องการดูผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตของเทสลาในด้านเอไอและหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ก็สามารถดูได้ก่อนในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งซีอีโอ อีลอน มัสก์ จะมาเปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ที่เลื่อนมาจาก 8 สิงหาคม