วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม Uber ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่าได้ร่วมมือกับ WeRide บริษัทรถยนต์ไร้คนขับของจีน เพื่อเปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับบนแพลตฟอร์มของ Uber ในอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นการให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับนอกพื้นที่สหรัฐฯ เป็นครั้งแรก และยังเป็นบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ และจีนอีกด้วย

บริหารแท็กซี่ไร้คนขับในอาบูดาบีจะวิ่งให้บริการบนเส้นทาง เกาะอัลซาดิยาต เกาะยาส รวมถึงเส้นทางไปและกลับจากสนามบินนานาชาติอาบูดาบี ซึ่งการให้บริการในช่วงเริ่มต้นแท็กซี่ไร้คนขับทุกคันจะมีคนขับนั่งควบคุมอยู่ด้านหลังพวงมาลัย เพื่อรับประกันประสบการณ์ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ และมีกำหนดที่จะให้บริการเชิงพาณิชย์ที่ไร้คนขับอย่างสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2025

WeRide เป็นบริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติตั้งแต่ระดับ 2 ถึงระดับ 4 รวมทั้งมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไร้คนขับในจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยผ่านการทดสอบการขับขี่อัตโนมัติในกว่า 30 เมือง ใน 7 ประเทศทั่วโลก และนานกว่า 1,700 วัน

ในการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 Uber ได้นำเสนอต่อผู้ถือหุ้นว่า บริษัทได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับมากกว่า 10 บริษัท ซึ่งทิศทางธุรกิจในด้านนี้กำลังได้ผล และบริษัทเหล่านี้ก็อยากร่วมมือกับ Uber เพื่อนำรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทเหล่านี้ไปใช้งาน

โฆษกของ Uber เผยกับสำนักข่าว CNBC ว่าก่อนจะมาเปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับในอาบูดาบี บริษัทได้ให้บริการแก่ผู้คนในสหรัฐฯ มาแล้วหลายหมื่นเที่ยวต่อเดือน ซึ่งเป็นการย้ำให้มั่นใจว่าได้รับทั้งใบอนุญาตและใช้งานจริงในสหรัฐฯ มาแล้ว ดังนั้นชาวอาบูดาบีไม่ต้องเป็นห่วงปลอดภัยแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หุ้นของ Uber ร่วงลง 10% เนื่องจาก Waymo บริการเรียกรถอัตโนมัติในเครือของ Alphabet ประกาศว่าบริษัทจะขยายบริการแท็กซี่ไร้คนขับไปยังไมอามี รัฐฟลอริดา หลังจากก่อนหน้านี้ได้ให้บริการเดินทางแล้ว 150,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในฟีนิกซ์ ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และออสติน ซึ่งมีผลกระทบต่อ Uber พอสมควร เพราะบริการเรียกรถอัตโนมัติของ Uber ต้องอาศัยคนขับ ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าผู้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับที่ไม่ต้องมีค่าแรงคนขับ

จริง ๆ แล้ว Uber และ Waymo เป็นพันธมิตรกัน ซึ่งเดือนกันยายนที่ผ่านมาประกาศว่าได้ขยายบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo One ไปยังเมืองออสตินและแอตแลนตาผ่านแอปฯ Uber เท่านั้น โดยจะเริ่มในช่วงต้นปี 2025 ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่า Uber จะเหมาะกับตำแหน่งเป็นผู้รวบรวมผู้ให้บริการรถยนต์ไร้คนขับไปยังผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยรถยนต์ไร้คนขับสามารถขยายตลาดได้เป็นอย่างมาก สรุปว่าวินวินทั้งคู่ เพราะ Uber เคยมี Aurora รถยนต์ไร้คนขับของตัวเอง แต่การพัฒนามีต้นทุนที่สูง จึงได้ตัดสินใจขายทิ้งไปเมื่อปี 2020

อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญในตลาดแท็กซี่ไร้คนขับอาจจะมาถึงในอนาคต หาก Tesla ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติและแท็กซี่ไร้คนขับได้สำเร็จ ซึ่งจากการผลิตรถยนต์เป็นของตัวเอง คาดว่าอาจสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดแท็กซี่ไร้คนขับได้