เทสลา (Tesla) ได้รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของปี 2024 โดยรวมยอดขายทั่วโลกทั้งหมด 1,789,226 คัน ซึ่งน้อยกว่าปี 2023 ที่มียอด 1,808,581 คัน ลดลงมา 19,355 คัน คิดเป็น 1.07% ต่ำกว่าที่ซีอีโอ อีลอน มัสก์ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ซึ่งสังเกตว่ายอดส่งออกจากจีนลดลงถึง 24% เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปได้ยกเลิกหรือลดการอุดหนุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฮบริดที่ราคาถูกกว่าและการแข่งขันที่รุนแรงอย่าง BYD ของจีน แต่ก็ยังโชคดีที่เทสลามียอดขายในจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 657,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

จีนจัดว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเทสลา โดยมีสัดส่วนจากยอดขายของปี 2024 ที่ 36.7% ซึ่งสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดในจีนมาจากยอดที่โดดเด่นของเดือนธันวาคมที่ 83,000 คัน เพิ่มจากเดือนพฤศจิกายนที่ 78,856 คัน คิดเป็น 12.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และมียอดส่งออกรถยนต์ประมาณ 10,870 คัน เพิ่มขึ้น 103% จากยอดของเดือนพฤศจิกายนที่ 5,366 คัน แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีก่อน 41% จาก 18,334 คัน และยอดส่งออกจากจีนทั้งปี 2024 ลดลง 3.3% เหลือประมาณ 260,000 คัน

แม้ว่ายอดขายทั่วโลกของเทสลาในปี 2024 จะลดลงอยู่ที่ 1.79 ล้านคัน แต่ก็โชคดีที่ยังได้มากกว่า BYD ที่มียอดขาย 1.76 ล้านคัน ซึ่งพบว่า BYD มียอดขายที่เติบโตขึ้น 12.1%

ล่าสุด 24 พฤศจิกายน เทสลาได้ต่อสู้กับสงครามราคาในจีนโดยการมอบส่วนลด 10,000 หยวน (47,130 บาท) จากการชำระเงินงวดสุดท้ายสำหรับรถยนต์รุ่นขายดีคือ Model Y และขยายระยะเวลาผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 5 ปี สำหรับ Model 3 และ Model Y บางรุ่นจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2025

นอกจากนี้ปี 2024 เทสลาได้เพิ่มจุดชาร์จ Supercharger ทั่วโลกมากกว่า 11,500 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 19% ทำให้ปัจจุบันเทสลามี Supercharger รวมทั้งหมดทั่วโลกมากกว่า 67,000 เครื่อง และมีแผนจะติดตั้ง Supercharger V4 ในจีนโดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2025

สุดท้าย ไตรมาสที่ 4 เทสลาประสบความสำเร็จสามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์จัดเก็บพลังงาน 11.0 จิกะวัตต์ชั่วโมง จัดว่าเป็นสถิติสูงสุดทั้งในด้านการส่งมอบและการใช้งาน และมียอดรวมทั้งปี 31.4 จิกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิต Megapack ชุดแบตเตอรี่สำหรับจัดเก็บพลังงานในโครงการขนาดใหญ่ ที่โรงงาน Megafactory ในเมืองลัททรอป รัฐแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้เทสลายังได้สร้างโรงงาน Megafactory ในเซี่ยงไฮ้ และจะเริ่มดำเนินการผลิต Megapack ในไตรมาสแรกของปี 2025