Nissan Motor Co. มีแนวโน้มจะปฏิเสธข้อเสนอของ Honda Motor Co. ในการเข้าซื้อกิจการและทำให้ Nissan กลายเป็นบริษัทย่อยของ Honda ซึ่งอาจทำให้การเจรจาควบรวมของทั้งสองบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นต้องชะงักลง
Honda และ Nissan ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ
เดิมทีแผนควบรวมของ Honda และ Nissan คือการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกันเพื่อรักษาอัตลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ ตั้งเป้าหมายควบรวมกันเพื่อขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก แต่ความคืบหน้ายังล่าช้า เหตุเพราะ Honda ได้เปลี่ยนข้อเสนออย่างกะทันหันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นการเข้าซื้อกิจการแบบสมบูรณ์ (full acquisition)
ซึ่งทำให้ Nissan ตกอยู่ในสถานะบริษัทย่อยของ Honda ข้อเสนอนี้ถูกส่งมาแบบ “Take it or leave it” หรือยอมรับหรือปฏิเสธไปเลย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้บริหาร Nissan ทั้งสองบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาตั้งแต่เดือนธันวาคม
โดยล่าสุดเลื่อนออกไปอีกหลายสัปดาห์ คาดว่าการควบรวมจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน และมีแผนจดทะเบียนบริษัทโฮลดิ้งร่วมกันในเดือนสิงหาคม 2026
ฝั่ง Honda มีมูลค่าตลาดสูงถึง 7.3 ล้านล้านเยน (ประมาณ 47,000 ล้านเหรียญ หรือราว 1.64 ล้านล้านบาท) ซึ่งมากกว่า Nissan เกือบ 5 เท่า ทำให้การควบรวมอาจส่งผลให้ Honda เป็นฝ่ายครองอำนาจมากกว่า
ปัจจัยที่อาจขัดขวางดีล
- Renault อาจไม่เห็นด้วย Nissan มี Renault SA เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สัดส่วน 36% โดยเมื่อปลายเดือนมกราคม Renault ได้ส่งตัวแทนมายังญี่ปุ่นเพื่อแสดงความกังวลและเรียกร้องให้ได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมหากดีลนี้เกิดขึ้น
- Mitsubishi อาจถอนตัว Mitsubishi Motors Corp. ซึ่งเป็นพันธมิตรของ Nissan ก็ยังไม่ตัดสินใจเข้าร่วมดีลนี้ โดยระบุว่าจะรอความชัดเจนจาก Honda และ Nissan ก่อน
- ปัจจัยผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาด ราคาหุ้น Honda ปรับขึ้น 3.2% ในช่วงเปิดตลาดวันพุธ ขณะที่ Nissan ปรับตัวลงก่อนฟื้นตัวขึ้น 2.7%
หาก Nissan ตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอของ Honda จริง อาจทำให้การควบรวมครั้งนี้ต้องล้มเลิกไป ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น และการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว