เว็บไซต์ของสำนักงานบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ประกาศว่า Tesla กำลังเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และ Model Y ในสหรัฐฯ โดยสมัครใจ จำนวน 376,241 คัน ที่ผลิตออกจำหน่ายตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ – 11 ตุลาคม 2023 ซึ่งติดตั้งซอฟต์แวร์รุ่นเก่า (ก่อนวันที่ 38.3.2023) เนื่องจากพบว่าระบบพวงมาลัยเพาเวอร์มีปัญหา
ในประกาศแจ้งรายละเอียดพบว่าแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไป อาจทำให้ส่วนประกอบที่ควบคุมมอเตอร์บนแผงวงจรต้องรับภาระแรงดันเกินกว่าที่ออกแบบไว้จนอาจเกิดความเสียหาย ซึ่งเมื่อรถยนต์วิ่งช้าลงจนหยุดนิ่งและจากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น อาจทำให้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ทำงาน จึงส่งผลให้ผู้ขับขี่ต้องใช้แรงมากขึ้นในการบังคับเลี้ยว ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการชนกันได้
Tesla แจ้งต่อ NHTSA ว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกรณีนี้ และเสนอการแก้ปัญหาระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ด้วยการให้ลูกค้าอัปเดตซอฟต์แวร์แบบไร้สาย ซึ่งการเรียกคืนในสหรัฐฯ ครั้งนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากมีการตรวจพบและเรียกคืนรถยนต์ของ Tesla ในประเทศจีนด้วยปัญหาเดียวกันกว่า 1,200,000 คัน
หลายปีที่ผ่านมา NHTSA ได้มีการสอบสวนอุบัติเหตุและปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นในรถยนต์ของ Tesla โดยเฉพาะระบบ Autopilot และ FSD (Full Self-Driving) ที่ไม่ได้ขับขี่อัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์สมชื่อ ซึ่งได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายเคสด้วยกัน และเมื่อปลายเดือนมกราคม Tesla ประกาศว่าจะเริ่มทำการทดสอบบริการเรียกรถแท็กซี่ไร้คนขับภายในเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งอุปสรรคที่รอตรงหน้าก็คือการขออนุญาตและการควบคุมดูแลของหน่วยงานรัฐสุดจะเข้มงวด
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนปัญหาเหล่านี้น่าจะไม่เกินความสามารถของซีอีโอ อีลอน มัสก์ เนื่องจากมัสก์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงาน DOGE เพื่อช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งสามารถสืบค้นข้อมูลในหน่วยงานของรัฐบาลกลางได้ และยังได้มีการเลิกจ้างพนักงานของรัฐบาลไปเกือบ 10,000 คน รวมทั้งพนักงานของ NHTSA ด้วย