GWM เผยสเปก All New GWM HAVAL H6 ประจำปี 2025 เรียบร้อยแล้ว รอบนี้มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ (Major Change) กับการอัปเกรดรอบด้าน ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกและภายใน, ระบบช่วงล่างใหม่ตามคำเรียกร้อง, อัปเกรดระบบขับเคลื่อนให้วิ่งด้วยไฟฟ้าไกลถึง 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) สูงสุดในตระกูล Compact SUV และกล้องรอบคัน 540 องศา พร้อมระบบความปลอดภัย โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือ เครื่องยนต์ไฮบริด (HEV) ในรุ่น PRO และเครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) ในรุ่น PRO และรุ่น ULTRA

ปรับโฉมดีไซน์ใหม่ สปอร์ตกว่าเดิม

ALL NEW GWM HAVAL H6 ในทั้ง 3 รุ่นย่อย มาพร้อมกับการอัปลุคใหม่ให้ดูทันสมัย เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยโทนสีเข้ม ตั้งแต่ กระจังหน้าและกันชนหน้าสี Smoke Chrome ตัดกับไฟหน้า LED แบบรมดำ คู่กับไฟ Signature Light แบบ Waterfall ที่เป็นเอกลักษณ์, คิ้วประตู คิ้วฝาท้าย หน้าต่าง ด้านข้างของรถ และราวหลังคา สีเป็นเปียโนแบล็ก ที่แมตช์กับไฟท้าย LED Light Strip แบบรมดำ, ล้ออัลลอยสีดำลายขนาด 19 นิ้ว สปอร์ตที่เห็นคาลิเปอร์เบรกสีแดง (เฉพาะ PHEV รุ่น ULTRA) สุดท้ายโลโก้ก็เปลี่ยนจากคำว่า HAVAL เป็น GWM ให้ดูมีความเป็นอินเตอร์เนชันแนล

ภายในปรับ UX – UI ใหม่ คู่ความสะดวกสบาย

ภายในปรับเรื่อง User Experience (UX) และ User Interface (UI) ให้ดีกว่าเดิม เพื่อตอบโจทย์การใช้เดินทางในครอบครัว เริ่มตั้งแต่หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto (ใช้ได้หลัง 1 ก.ย. 68) และมีเครื่องเสียงคุณภาพ Amor Luxury HiFi System กับโพง 8 จุด (รุ่น ULTRA เพิ่ม Sub-Woofer ให้เสียงเบสที่ตึบขึ้น)​

ด้านซอฟต์แวร์ก็มีการปรับโฉมด้วย Coffee OS 3.0 ที่ทำงานผ่าน QUALCOMM Snapdragon 8155 ส่งผลให้ควบคุมง่ายและลื่นไหลขึ้น และมีระบบนำทาง Huawei Petal Map ไปยังปลายทางได้โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ตโฟน แถมยังดาวน์โหลดแอปฯ ใหม่ ๆ จาก GWM App Store ได้อีกด้วย

จอแสดงผลการขับขี่ก็มีขนาด 10.25 นิ้ว ที่นอกจากจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับรถแล้ว ยังใช้ดูเส้นทางและรองรับการสั่งการด้วยเสียง ที่ช่วยลดการกดปุ่มในขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบอัตโนมัติที่ช่วยให้การใช้งานรถสะดวกขึ้น เช่น ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระซ้าย-ขวา ที่มีกรองอากาศ CN95 รองรับการเชื่อมต่อไวไฟและระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Wireless Charger) แบบ 50W

ระบบไฟฟ้าประกอบด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ใช้งานได้หลากหลาย,​ ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบ Electronic Shifter ที่ติดตั้งบริเวณหลังพวงมาลัยง่ายต่อการใช้งาน, ประตูหลังเปิด-ปิดไฟฟ้า และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิกเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า (เฉพาะใน PHEV รุ่น ULTRA) นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB Type A และ C สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลังรวม 5 จุด และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ 1 จุด และจุดชาร์จไฟ 12V อีก 1 จุดด้วย

วิ่งด้วยไฟฟ้าไกลสุดในเซกเมนต์ และปรับช่วงล่างตามคำเรียกร้อง

ALL NEW GWM HAVAL H6 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น HEV) และพละกำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์ หรือ 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น PHEV ผ่านระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ที่สามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบกันสะเทือนที่มาตามคำเรียกร้อง ทั้งด้านหน้าที่เป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลเวลาเจอถนนขรุขระ

  • ALL NEW GWM HAVAL H6 รุ่น PHEV มีระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ไกลที่สุดในเซกเมนต์ ถึง 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium Ion กับความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 27.54 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ไม่ต้องชาร์จบ่อย ทำให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหัวชาร์จประเภท CCS Type 2 combo ซึ่งรองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงถึง 41 กิโลวัตต์ รวดเร็วทันใจในการชาร์จกว่ารถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดในเซกเมนต์เดียวกัน
  • ALL NEW GWM HAVAL H6 รุ่น HEV เสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยการปรับเซตระบบช่วงล่างใหม่ที่ถูกพัฒนาจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตอบโจทย์ความต้องการขับขี่ของชาวไทยมากยิ่งขึ้น มอบการขับขี่ที่มั่นคง มั่นใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสบายในทุกสถานการณ์
  • ALL NEW GWM HAVAL H6 ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และพื้นหิมะ โดยรุ่น PHEV ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อีก 2 ระบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (น้ำมัน + ไฟฟ้า) และโหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนอีกด้วย

โดย ALL NEW GWM HAVAL H6 มีมิติตัวรถที่มีความยาว 4,703 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร ความสูง 1,730 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ 170 มิลลิเมตร ระยะห่างของล้อคู่หน้าและหลัง 1,631 / 1,640 มิลลิเมตร (HEV / PHEV) อีกทั้งยังมาพร้อมกับความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ให้มาถึง 61 ลิตร ในรุ่น HEV และ 55 ลิตร ในรุ่น PHEV ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว

กล้อง 540 องศา กับระบบความปลอดภัยที่อุ่นใจยิ่งกว่า

ALL NEW GWM HAVAL H6 ทั้ง 3 รุ่น จะมากับเทคโนโลยีความปลอดภัย 31 รายการ เช่น กล้องแสดงภาพความละเอียดสูงรอบทิศทาง 540 องศา (กล้องรอบคันและด้านใต้ท้องรถ) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) และอื่น ๆ อีกทั้งยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) และอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น

ค่าตัวรอลุ้นใน Motor Show 2025 นี้

สำหรับราคา ALL NEW GWM HAVAL H6 ทั้ง 3 รุ่น พร้อมเผยราคาอย่างเป็นทางการภายใน Motor Show วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพคชาเลนเจอร์ ที่กำลังจะถึงนี้ สอบถามข้อมูลได้ที่ GWM application, www.gwm.co.th หรือ GWM Contact Center 02-668-888