สำนักข่าว Financial Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ทางการจีน ซึ่งก็คือกระทรวงพาณิชย์ได้ชะลอการอนุมัติสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ของ BYD ในเม็กซิโกเอาไว้ก่อน เนื่องจากมีความกังวลว่าจะมีการลักลอบหรือเข้าถึงข้อมูลเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD รั่วไหลข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อก่อนจีนถูกกล่าวหาว่าชอบลอกเลียนแบบสินค้าของชาวบ้านแล้วขายตัดราคาเพื่อเอาชนะคู่แข่ง จนมาถึงตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้าของจีนได้แซงหน้าสหรัฐฯ จึงเริ่มมีความกลัวว่าคู่แข่งจะลอกเลียนแบบของตัวเองบ้าง

ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 BYD มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 526,409 คัน สามารถแซง Tesla ที่ขายได้ 484,507 คัน เนื่องจาก BYD ลดราคาอย่างมากในจีน รวมทั้งได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ต่อมาปี 2024 สหรัฐฯ และยุโรปกังกลว่าหากรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD บุกตลาดในประเทศของตน จะทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ของตนจะแย่ จึงได้ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนบริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ต้องการลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากจีนด้วย

BYD ต้องการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไปยังอเมริกาเหนือรวมถึงสหรัฐฯ จึงพยายามจะเข้าไปตั้งโรงงานในเม็กซิโก เพราะว่าข้อตกลงการค้า USMCA ส่งเสริมการค้าระหว่างสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา จะช่วยลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ได้ แม้ว่า BYD จะต้องใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือ แต่ค่าแรงในเม็กซิโกถูกกว่าในสหรัฐฯ ดังนั้นต้นทุนและราคารถยนต์ของ BYD จะถูกกว่าของสหรัฐฯ นอกจากนี้เม็กซิโกก็เต็มใจต้อนรับ BYD เพื่อสร้างอาชีพและทักษะให้แรงงานในประเทศ

ปี 2024 BYD มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 1,764,992 ค้นตามหลัง Tesla ที่มียอดขาย 1,789,226 คัน ไม่ห่างกันมาก แต่ถ้าดูยอดขายรถยนต์ของ BYD ทั้งหมดทุกสายพันธุ์ทำได้มากกว่า 4,000,000 คัน ส่วนยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BYD ทำได้ 1,777,965 คัน มากกว่า Tesla อยู่ที่ 1,777,965 คัน

BYD ก่อตั้งในปี 1995 โดยเริ่มต้นจากการผลิตแบตเตอรี่ ต่อมาได้หันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจนประสบความสำเร็จ และเมื่อ 17 มีนาคม 2025 BYD ได้เปิดตัว Super e-Platform สามารถชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าให้ระยะวิ่ง 400 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 5 นาที ด้วยกำลังไฟสูงสุด 1 เมกะวัตต์ นอกจากนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ BYD ได้เปิดตัว God’s Eye ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะที่คล้ายกับฟีเจอร์ FSD ของ Tesla ซึ่งประกาศว่าอนาคตจะติดตั้งมากับรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัททั้งรุ่นราคาแพงและรุ่นราคาถูก

ด้วยความสำเร็จของ BYD จึงทำให้ทางจีนมีความกังวลว่าหากเทคโนโลยีของ BYD รั่วไหลไปยังคู่แข่ง อาจส่งผลให้สูญเสียความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ นอกจากนี้รัฐบาลเม็กซิโกมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้นการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในเม็กซิโกอาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อดูองค์รวมแล้วตอนนี้คาดว่าทางการจีนจึงต้องการชะลอโครงการนี้เอาไว้ก่อน