ในปี 2024 ตลาดรถยนต์ทั่วโลกมีการแข่งขันสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง Tesla ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วย Model Y ซึ่งสามารถทำยอดขายสูงสุดทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน แม้ว่าในช่วงต้นปี 2025 จะเริ่มมีสัญญาณของยอดขายที่ลดลง ทำให้เกิดความกังวลในแวดวงยานยนต์ว่า Tesla อาจถูกคู่แข่งไล่แซงได้ในอนาคตอันใกล้
ทางด้าน Toyota ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ก็ยังคงแสดงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถนำรถยนต์เข้าติดอันดับ Top 10 ได้มากถึง 3 รุ่น ได้แก่ Toyota Corolla, Toyota RAV4 และ Toyota Camry โดยเฉพาะ Toyota Corolla และ RAV4 นั้นเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก มียอดขายที่สูสีและใกล้เคียงกับ Tesla Model Y อย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงการวางกลยุทธ์ของ Toyota ในการผสมผสานเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับการยอมรับและความนิยม รวมถึงเทคโนโลยีรถยนต์ไฮบริดที่ยังเป็นที่ชื่นชอบในตลาดหลัก ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป
ในขณะที่ BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ทั่วโลกจับตามองในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรุ่น BYD Song รถยนต์ SUV ครอสโอเวอร์ที่มีจุดเด่นในเรื่องความหลากหลาย เพราะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน, ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้าล้วน ซึ่งทำให้ BYD Song สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้างและได้รับความนิยมในหลายตลาดโลก เช่น ในยุโรปที่ทำตลาดในชื่อ BYD Seal U และในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับโอเชียเนียภายใต้ชื่อ BYD Sealion 6 โดยเฉพาะที่ออสเตรเลีย Sealion 6 ได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดขายสูงสุดแห่งปี 2024
Tesla ที่เริ่มถูกคู่แข่งตีตื้นขึ้นมาในช่วงนี้ ก็ได้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัว Model Y รุ่นปรับโฉมใหม่ภายใต้ชื่อ “Juniper” ที่ได้รับการปรับปรุงทั้งในด้านการออกแบบภายนอก ภายใน และฟีเจอร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดและดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามา
นอกจากสามแบรนด์ใหญ่ที่กล่าวมา ยังมีแบรนด์รถยนต์อื่น ๆ ที่เข้ามาติดอันดับรถยนต์ขายดีในปีนี้ เช่น Ford, Honda และ Hyundai ซึ่งต่างก็มีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว
ภาพรวมของการแข่งขันในตลาดรถยนต์ปี 2024 ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการแข่งขันนี้ ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย คุณภาพของรถยนต์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและหลากหลายขึ้น และยังเป็นที่น่าจับตาว่าในปีต่อ ๆ ไป แบรนด์ใดจะสามารถปรับตัวและครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง
นี่คือ 10 รุ่นรถยนต์สุดฮิตทั่วโลกในปี 2024
แบรนด์ | จากประเทศ | รุ่น | จำนวนที่ขายได้ในปี 2024 |
Tesla | 🇺🇸 U.S. | Model Y | 1,090,000 คัน |
Toyota | 🇯🇵 Japan | Corolla | 1,080,000 คัน |
Toyota | 🇯🇵 Japan | RAV4 | 1,020,000 คัน |
Ford | 🇺🇸 U.S. | F-Series | 900,000 คัน |
Honda | 🇯🇵 Japan | CR-V | 740,000 คัน |
Chevrolet | 🇺🇸 U.S. | Silverado | 640,000 คัน |
Hyundai | 🇰🇷 S. Korea | Tucson | 610,000 คัน |
Toyota | 🇯🇵 Japan | Camry | 580,000 คัน |
BYD | 🇨🇳 China | Song | 570,000 คัน |
Volkswagen | 🇩🇪 Germany | Tiguan | 540,000 คัน |