หุ้น Tesla (TSLA) พุ่งขึ้นแรงถึง 9.8% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์หุ้นขึ้นรวมแล้วกว่า 18% หลังจากที่มีข่าวดีหลายเรื่องเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะการที่กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ (DoT) ประกาศกฎระเบียบใหม่สนับสนุนรถยนต์ไร้คนขับอย่างเป็นทางการ

สาระของกฎใหม่ มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนในการรายงานข้อมูลของรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติหรือช่วยเหลือผู้ขับขี่ และเปิดช่องทางให้นำรถยนต์ไร้คนขับที่ผลิตในสหรัฐฯ เข้าสู่กระบวนการทดสอบได้เร็วขึ้น พร้อมแข่งขันกับประเทศจีนในสนามแห่งนวัตกรรมนี้

ด้าน อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla กล่าวในการประชุมผลประกอบการล่าสุดว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มให้บริการรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนโฉมธุรกิจ Tesla ให้เป็นผู้นำตลาดรถยนต์อัตโนมัติ

“อนาคตของ Tesla อยู่ที่การผลิตรถยนต์และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อัตโนมัติขนาดใหญ่จำนวนมากในราคาที่ต่ำ หากทำสำเร็จตามแผนจะทำให้มูลค่าบริษัทสูงขึ้นอย่างมหาศาล” มัสก์กล่าวเสริม

ขณะเดียวกัน การที่มัสก์ประกาศลดบทบาทในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงอย่างมีนัยสำคัญ ยังเป็นปัจจัยสำคยที่ทำให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้แบรนด์ Tesla ได้รับผลกระทบเชิงลบจากความสัมพันธ์ทางการเมืองของมัสก์กับรัฐบาลทรัมป์ โดยเฉพาะในยุโรปที่ส่งผลต่อยอดขายรถในช่วงที่ผ่านมา

โดยนักวิเคราะห์จาก Wedbush อย่าง แดน ไอฟส์ (Dan Ives) มองว่า การที่มัสก์ถอยออกจากบทบาททางการเมืองในครั้งนี้ จะช่วยให้ Tesla กลับมาโฟกัสที่ธุรกิจหลักอีกครั้ง โดยเฉพาะด้านรถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์ ซึ่งถือเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับบริษัท