แผนกยานยนต์ของแคลิฟอร์เนีย (DMV) ประกาศว่ากำลังจะออกกฎระเบียบใหม่สำหรับการทดสอบและใช้งานรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรับความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับร่างกฎระเบียบสำหรับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ที่ครอบคลุมตั้งแต่รถขนาดเล็ก คือ แท็กซี่ไร้คนขับ เช่น Waymo ไปจนถึงรถขนาดใหญ่ คือ รถบรรทุกไร้คนขับ เช่น Plus.AI ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน และจะสิ้นสุดในวันที่ 9 มิถุนายน 2025 รวมเวลาเป็น 45 วัน จากนั้นก็พิจารณาความคิดเห็น ก่อนจะออกกฎระเบียบขั้นสุดท้ายต่อไป
DMV เผยว่ากฎระเบียบที่เสนอร่างขึ้นมานี้ครอบคลุมการดำเนินงานของรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติที่สุดในสหรัฐฯ เพื่อต้องการปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะให้ดีขึ้น ส่งเสริมนวัตกรรมในการพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งสร้างกรอบในการทดสอบและใช้งานรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติอย่างมั่นคง
DMV ได้โพสต์ต์ร่างกฎระเบียบสำหรับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ที่มีขั้นตอนการขอใบอนุญาต 3 ขั้นตอน ได้แก่ การขอใบอนุญาตทดสอบที่มีคนขับควบคุม โดยจะต้องวิ่งทดสอบตามระยะทางที่กำหนด จากนั้นต้องขอใบอนุญาตทดสอบโดยไร้คนขับ และสุดท้ายต้องขอใบอนุญาตนำไปวิ่งใช้งานจริงในแคลิฟอร์เนีย
นอกจากนี้ยังอนุญาตให้มีการทดสอบวิ่งรถบรรทุกขับขี่อัตโนมัติ (น้ำหนัก 10,001 ปอนด์หรือ 4,536 กิโลกรัมขึ้นไป) บนถนนสาธารณะ และยังมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น ผู้ผลิตต้องรายงานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ และรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของรัฐในการสื่อสารหรือปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
ปี 2021 สำนักงานบริหารความปลอดภัยบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ออกคำสั่งให้ผู้ผลิตและผู้ดำเนินการรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติมาตรฐาน SAE ระดับ 3 – 5 หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง มาตรฐาน SAE ระดับ 2 เช่น Tesla และ Cruise จะต้องรายงานข้อมูลอุบัติเหตุว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน การบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ส่วนร่างกฏระเบียบใหม่ของแคลิฟอร์เนียได้เผยแพร่หลังจากที่ NHTSA มีการผ่อนปรนคำสั่งที่ออกมาเมื่อปี 2021 ซึ่งได้ลดข้อกำหนดในบางประการลง เช่น รายงานเฉพาะอุบัติเหตุรุนแรงเท่านั้น และลดความถี่ในการรายงานลงจากทุกครั้งเหลือเป็นรายไตรมาส เพื่อต้องการลดภาระให้กับผู้ผลิตรถยนต์
Tesla มีสำนักงานด้านวิศวกรรมตั้งอยู่ในเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้ประกาศแผนเกี่ยวกับรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติและบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมานานหลายปีแล้ว แต่บริษัทไม่เคยได้รับใบอนุญาตการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับในแคลิฟอร์เนีย เพราะระบบ FSD ที่มีอยู่เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติแค่ระดับ 2+ และเมื่อปี 2022 ได้ถูก DMV ฟ้องเกี่ยวกับ Autopilot และ FSD ว่าโฆษณาหลอกลวง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าสามารถขับขี่ได้อัตโนมัติ สรุปง่าย ๆ ว่า Tesla เป็นน้องใหม่มากในวงการแท็กซี่ไร้คนขับ
ไม่กี่วันที่ผ่านมา Tesla ได้เริ่มทดสอบบริการเรียกรถที่ใช้ FSD แบบมีคนขับควบคุมกับพนักงานในออสติน และพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เพราะได้ขอใบอนุญาตทดสอบแบบมีคนขับควบคุมเอาไว้แล้ว ขั้นต่อไปจะทดสอบระบบ FSD Unsupervised ไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบ และมีแผนจะให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์หรือแบบเก็บเงินในปลายปี 2026
ส่วนคู่แข่งที่ได้รับใบอนุญาตจาก DMV ได้แก่ Waymo ได้รับใบอนุญาตทดสอบแบบไร้คนขับ แล้วต่อด้วยใบอนุญาตใช้งานรถยนต์ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ใน ซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิส และเขตซานมาเทโอ, Zoox ได้รับใบอนุญาตทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับแบบไร้คนขับ และทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับกับผู้โดยสาย แต่ยังไม่ถึงขั้นเก็บเงิน อีกรายคือ WeRide ของจีนได้รับใบอนุญาตทดสอบแบบไร้คนขับ และทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับกับผู้โดยสาย แต่ยังไม่ถึงขั้นเก็บเงินเช่นกัน
สรุปว่ากฎระเบียบใหม่ของ DMV มีประโยชน์สำหรับ Tesla ซึ่งมีโครงสร้างในการออกใบอนุญาตที่ชัดเจน สังเกตว่าสอดคล้องกับไทม์ไลน์การทดสอบที่ Tesla ประกาศไว้ นอกจากนี้ยังได้รับการผ่อนปรนจาก NHTSA ในการรายงานอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ลดความเสี่ยงทางกฎหมายในการถูกฟ้องร้อง และเป็นการแข่งขันที่เป็นธรรม นอกจากนี้ Tesla ยังสามารถทดสอบรถบรรทุกไร้คนขับได้อีกด้วย ดังนั้นข่าวนี้ได้ช่วยทำให้ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นทันที่ 10% เมื่อวันศุกร์