งาน Shanghai Auto Show 2025 ครั้งที่ 21 ได้เปิดฉากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน งานนี้ BT beartai ได้ไปบุกบูธ BYD และบูธรถแบรนด์อื่นเครือเดียวกัน ทั้ง DENZA YANGWANG และ FANGCHENGBAO แน่นอนว่าภายในงานนี้ทาง BYD ประเทศจีนได้เปิดตัวรถไฮไลต์ของแต่ละแบรนด์ในเครือ BYD ภายในงาน และยังมีการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเฉพาะของ BYD อย่าง Blade Battery และ God’s Eye อีกด้วย มาดูรถเปิดตัวใหม่ที่เป็นไฮไลต์ของงานนี้กัน

BYD Dynasty-D สัมผัสศิลปะจีนผ่านยนตกรรมสุดเรียบหรู

Dynasty-D หนึ่งในรถยนต์ไฮไลต์ของ BYD ที่ได้เปิดตัวภายในงานนี้เป็นครั้งแรก โดยภายใต้ ซีรีส์ BYD Dynasty รถ SUV ขนาดใหญ่ (ความยาว 5.3 เมตร) เน้นความหรูหราเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม แม้จะยังไม่เปิดให้ลองสัมผัส แต่จากดีไซน์ด้านนอกสามารถบอกได้ถึงความพรีเมียมภายในตัวรถ

โดยดีไซน์หน้าของตัวรถได้แรงบันดาลใจมาจากใบหน้าของมังกร สัญลักษณ์ของจักรพรรดิจีน ตามมาด้วยบาร์ไฟด้านหน้าของตัวรถแบบไร้รอยต่อที่มีความยาวถึง 2.4 เมตรที่มีต้นแบบมาจากหนวดมังกรและสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคอนเซปต์ดีไซน์ของ Dynasty-D เท่านั้น

แต่จะฟังดูโบราณ แต่ตัวรถออกมาดูมีความโมเดิร์น เรียบหรู และสง่าภายใต้คอนเซปต์ความงามแบบจีน เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เป็นงานศิลปะก็ว่าได้ Dynasty-D เตรียมเข้าสู่ตลาดในราคาเบื้องต้น 400,000 หยวน หรือราว 2 ล้านบาท 

โดยหน้าจอในห้องโดยสารเชื่อมต่อกันมากถึง 8 จอ และระบบ Interactive สำหรับฟีเจอร์ภายในตัวรถอื่น ๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมามากนัก แต่คาดว่าเน้นการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและระบบอัจฉริยะตามแบบฉบับ BYD

BYD Ocean-S

แม้จะยังไม่ได้เปิดตัวดี แต่งานนี้ BYD ได้นำ BYD Ocean-S รถซีดานดีไซน์หรูตัวใหม่ล่าสุดมาให้ได้ชมกัน สิ่งแรกที่เห็นคืองานดีไซน์ที่มีความเรียบหรู ผสมความเป็นอวกาศ และ Futuristic ซึ่งทาง BYD วาง BYD Ocean-S ไว้เป็นดีไซน์ต้นแบบของรถซีรีส์ Ocean ในอนาคต โดยจะเน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของ BYD Ocean-S คือ Suicide door แบบไร้ที่เปิดที่ช่วยให้รถดูพรีเมียมและให้ความรู้สึกแบบ Spaceship และความเป็นนวัตกรรมมากขึ้น

BYD Ocean Series ที่เตรียมวางขายในจีนเร็ว ๆ นี้

มาดูแมวน้ำ และสิงโตทะเลรุ่นใหม่ที่เปิดตัวใน Shanghai Auto Show 2025 กันบ้าง

BYD SEALION 06

BYD SEALION 06 ที่เปิดตัวใหม่มีให้เลือกทั้งรุ่น DM-i (ปลั๊กอินไฮบริด) และ EV (ไฟฟ้าล้วน) โดยพัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 Evo และเทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5 จาก BYD พร้อมไฟหน้าคู่สีขาวและเหลืองที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ของ BYD SEALION โดยราคาเปิดตัวขอทั้ง 2 รุ่น คาดว่าอยู่ที่ 732,000 บาท

นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงจาก BYD อย่าง ระบบ DiPilot 100 หรือระบบขับขี่อัจฉริยะที่มีเซนเซอร์รอบคันถึง 29 ตัว และ DiSus-C หรือระบบกันสะเทือนอัจฉริยะที่ช่วยเสริมความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คาดว่าจะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ปี 2025

BYD SEAL 06

BYD SEAL 06 EV รถซีดานขนาดกลางไฟฟ้าแท้ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอย่าง DiPilot 100 และ DiSus-C เช่นเดียวกัน ช่วยให้การขับขี่สนุก และมั่นใจมากขึ้น คาดราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 550,000 บาท

BYD SEAL 06 DM-i Travel Edition เป็นรถยนต์แวกอน โดยผสมระหว่างความคล่องตัวของรถซีดาน เข้ากับความกว้างของ SUV โดยรถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี DM รุ่นที่ 5 เลยต่อโจทย์เรื่องความประหยัดน้ำมันและระยะทางที่ยาวไกล เหมาะสำหรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล คาดราคาเปิดตัวอยู่ที่ 559,000 บาท

ทั้ง BYD SEAL 06 EV และ BYD SEAL 06 DM-i Travel Edition จะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ปี 2025

DENZA Z

DENZA หนึ่งในแบรนด์ของ BYD ที่น่าจับตามองด้วยเช่นเดียวกัน ในงาน Shanghai Auto Show 2025 DENZA ได้สร้างความตื่นเต้นในงานด้วยการเปิดตัว DENZA Z Concept Sports Car กับ DENZA Z9 รถสปอร์ตที่ผสานดีไซน์โฉบเฉี่ยวของรถสปอร์ตเข้ากับนวัตกรรมการขับขี่และเทคโนโลยีรถไฟฟ้าอัจฉริยะ

DENZA Z เป็นรถสปอร์ตคันแรกของโลกที่ติดตั้งระบบ DiSus-M เทคโนโลยีล่าสุดจาก BYD ที่เป็นระบบกันสะเทือนแบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปรับการหน่วงได้ในเวลาไม่ถึง 10 มิลลิวินาที ผสานกับระบบสแกนพื้นผิวถนนเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและแม่นยำ ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ได้แบบเหนือชั้น 

มาพร้อมกับระบบการช่วยขี่อื่น ๆ อย่าง Steer-By-Wire ที่ให้การควบคุมที่ฉับไวและแม่นยำด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกับกิมมิกและฟังก์ชันพวงมาลัยพับได้ที่เพิ่มความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และ Intelligent e³ Platform ที่เป็นการใช้ระบบอัจฉริยะ ทั้งพลังงาน การขับขี่ และห้องโดยสาร ซึ่งภายใน 3 ระบบมีอีกหลากหลายเทคโนโลยีอื่นมากมายที่ช่วยในการขับเคลื่อน

DENZA N9

นอกจาก DENZA Z แล้ว DENZA N9 ซึ่งเป็น SUV พรีเมียมรุ่นใหม่ก็เปิดตัวในระดับสากล โดยมาพร้อม Intelligent e³ Platform ระบบ Hybrid 2.0T DM และระบบ DiPilot-300 ที่ใช้ LiDAR เพียงตัวเดียวในการช่วยขับขี่ ซึ่งมีราคาสูงถึง 1.8 ล้านบาท

บริษัท BYD ที่ประเทศจีนยังมีแบรนด์รถอีก 2 แบรนด์ที่คนไทยอาจยังไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่อย่าง YANGWANG แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรูระดับบนสุดของ BYD และ Fangchengbao ที่เน้นการใช้งานออฟโรด ซึ่งก็ได้เปิดตัวรถใหม่ที่เป็นไฮไลต์ของแบรนด์ด้วยเช่นเดียวกัน

YANGWANG U8L รถ SUV ฟูลไซซ์ ขนาด 6 ที่ใช้เทคโนโลยีระดับท็อปของแบรนด์ อย่าง e⁴ Platform, ระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-P

BAO 5 รถ SUV ออฟโรดขนาดกลาง ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง อย่างการรวมระบบ BYD DiPilot เข้ากับ Huawei Advanced Driving System (Huawei ADAS) ช่วยให้รถประมวลผลสภาพแวดล้อม และเข้าสู่โหมดควบคุมรถกึ่งอัตโนมัติได้คล่องตัวยิ่งขึ้น

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถยนต์ในเครือ BYD ภายในงาน Shanghai Auto Show 2025 เท่านั้น โดยสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การเปิดตัวรถยนต์ใหม่คงหนีไม่พ้นความเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ BYD ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น และก็ต้องบอกก่อนเลยว่ารถทั้งหมดที่เล่ามานี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะนำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ ต้องรอติดตามข่าวกันต่อไป