วันอังคารที่ 15 ธันวาคม Septian Hario Seto รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเดินเรือและการลงทุนของอินโดนีเซียได้บรรยายสรุปผ่านวิดีโอออนไลน์ว่า CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรีของจีนมีแผนที่จะลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานแบตเตอรีลิเธียมที่อินโดนีเซีย ซึ่งจะเปิดโรงงานเริ่มการผลิตในปี 2024 หลังจากที่ CATL ได้ลงนามข้อตกลงว่าจะสร้างโรงงานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
รัฐมนตรีช่วยฯ ได้เผยความคืบหน้าว่า CATL ได้เซ็นสัญญากับ PT Aneka Tambang บริษัททำเหมืองและผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย โดยต้องการให้ CATL รับรองว่า 60% ของนิกเกิลจะถูกแปรรูปผลิตเป็นแบตเตอรีในอินโดนีเซีย ซึ่งไม่ต้องการให้นำไปแปรรูปในต่างประเทศ เพราะต้องการให้อินโดนีเซียเป็นแหล่งผลิตแบตเตอรีและศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
เดือนมิถุนายนคณะกรรมการประสานงานการลงทุนของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า LG Chem ผู้ผลิตแบตเตอรียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้กำลังพิจารณาลงทุนมูลค่า 9,800 ล้านดอลลาร์ในโรงงานแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าที่รวมกับโรงหลอม และต่อมาเดือนกันยายน LG Chem ก็ได้ลงนามข้อตกลงสร้างงานแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้ากับอินโดนีเซียเช่นเดียวกัน
เป้าหมายของอินโดนีเซียยิ่งใกล้มากขึ้น เมื่อ Tesla ได้เจรจากับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อจะเข้ามาลงทุนผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีตัวเลือกหนึ่งคือการตั้งโรงงานที่จังหวัดชวาเตงกะห์ ซึ่ง Tesla จะส่งคณะผู้แทนมาเยือนอินโดนีเซียเพื่อหารือกันในเดือนมกราคม 2021
สรุปง่าย ๆ ว่าก่อนหน้านี้ CATL และ LG Chem ได้แค่ลงนามข้อตกลงกับอินโดนีเซียเท่านั้น ซึ่งโอกาสจะพลิกเกมเปลี่ยนใจก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่มาครั้งนี้ถือว่าเป็นความหน้าไปอีกขั้นเมื่อ CATL ได้ลงนามเซ็นสัญญาผูกมัดกับบริษัทเหมืองนิเกิลของอินโดนีเซียอย่างแน่ชัด เชื่อได้ว่าโอกาสที่อินโดนีเซียจะเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าคงอีกไม่ไกล
ที่มา : reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส