Great Wall Motor ชื่อนี้คนไทยเริ่มคุ้นหูมากขึ้น นับตั้งแต่เข้าซื้อโรงงานของ General Motors จังหวัดระยองเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2020 และบรรลุข้อตกลงการซื้อโรงงานเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 และเดินหน้าสำรวจความต้องการของลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศ เพื่อพัฒนารถยนต์เพื่อตรงความต้องการลูกค้ามากที่สุด ในวันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2021) Great Wall Motor ได้จัดงานแถลงแผนธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวทำตลาดภายในปี 2021
มร. เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดประเทศจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเอสยูวีและรถกระบะ มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยการสร้าง DNA ของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นจนได้รับการยอมรับจากผู้ใช้เกือบ 10 ล้านคนทั่วโลก เราไม่เพียงแต่มุ่งมั่นที่จะผลิตและส่งมอบรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค แต่ยังใส่ใจในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าอันล้ำสมัย เพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พร้อมขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนทั่วโลกผ่านทางนวัตกรรม อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยี 5G การขับขี่อัตโนมัติและ V2X การพัฒนาแบรนด์เทคโนโลยีทั้ง GWM LEMON, GWM TANK และ GWM COFFEE INTELLIGENCE ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้กับผู้บริโภค”
มร. เอลเลียต จาง ยังเสริมว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุกตลาดทั่วโลกด้วยรถยนต์ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ HAVAL ORA WEY และ GWM Pick up เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายไปยังกว่า 60 ประเทศทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ Globalization รวมไปถึงการจัดตั้งโรงงานแบบ “12+5″ คือ โรงงานผลิตเต็มรูปแบบ 12 แห่งรวมถึงโรงงานล่าสุดของเราที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีน นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาใน 10 แห่งใน 7 ประเทศทั่วโลก ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความสามารถในการผลิตยานยนต์ที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีคุณภาพสูง การันตีด้วยยอดขาย 1.11 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท”
ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์เป็นรายแรกของโลก จากการริเริ่มคิดค้นพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่ปริซึมเคลือบลามิเนตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์ NMX อย่างเป็นทางการ นับเป็นการตอกย้ำความเป็นเลิศด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับความยึดมั่นของบริษัทในการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการพัฒนาระบบนิเวศของโลกอย่างยั่งยืนสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เริ่มขยายธุรกิจตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดตั้งโรงงานที่จังหวัดระยองให้เป็น “โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)” ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ แต่ในความท้าทายนั้นยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะเติบโต เกรท วอลล์ มอเตอร์ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของประชาชนชาวไทย เรามีการสำรวจความคิดเห็น เก็บข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบแผนการดำเนินธุรกิจรวมถึงรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งนี้ทาง Great Wall Motor ได้วางกลยุทธ 3 ด้าน ในการทำตลาดเมืองไทย
1. xEV Leader ผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรูปแบบ ทั้งแบบ Hybrid / Plug-in Hybrid และ BEV (Battery Electric Vehicle) เนื่องจากลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจจากรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 99.31% ผ่านการสำรวจจากนิด้าโพล ทั้งนี้ทาง GWM ได้วางแผนแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้ภารกิจ “9 in 3” ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยรถยนต์แทบทั้งหมดจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เมืองไทยด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะ สร้างนิยามใหม่ของความสนุกและคุ้มค่าในการขับขี่เพื่ออนาคต
2. Great Wall Motor ให้ความสำคัญเรื่องการรับฟังเสียงของผู้บริโภคชาวไทยมาตั้งแต่การเริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ผู้ผลิตสามารถรับฟังเสียงที่แท้จริงจากผู้บริโภคได้โดยตรงและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Great Wall Motor ได้ใช้กลยุทธ์การรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นหลักในการวางแผนธุรกิจ และนำมากำหนดแนวทางการทำการตลาดและการให้บริการ เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับการให้บริการในทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ดีที่สุด
3) New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่างๆ มาทำ New User Experience Concept ผ่านขบวนการ Design Thinking เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภคที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบรุ่นรถ การทดสอบรถ การเลือกซื้อรถ การขอสินเชื่อ การส่งมอบรถ การบริการ และการสร้างความสุขตลอดการเป็นเจ้าของรถผ่านกิจกรรมต่างๆ แบบ O2O (Online-To-Offline) และประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำ New User Experience นี้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้บริโภค โดย New User Experience ถูกสร้างบนความเชื่อ 3 ข้อ คือ 1) Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง 2) Transparency: ลูกค้าต้องการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และ 3) Happiness & Loyalty : ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ
ทั้งนี้ GWM Thailand เตรียมเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 9 รุ่น ภายใน 3 ปี โดยมีแบรนด์ย่อยทั้งหมด 4 ยี่ห้อ ที่ทำตลาดในประเทศไทย ได้แก่ HAVAL (จำหน่ายรถยนต์ SUV) ORA (จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า) POER (จำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์) WEY (จำหน่ายรถยนต์พรีเมียม) โดยในปี 2021 GWM เริ่มต้นด้วยการนำ 2 แบรนด์แรกคือ HAVAL และ ORA แผนงานในปี 2021 จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ซึ่ง 2 รุ่นที่เปิดเผยในการแถลงข่าวในครั้งนี้คือ
All New HAVAL H6 รถเอสยูวียอดนิยม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดจีนและตลาดโลกซึ่ง All New HAVAL H6 นี้ จะเป็นรถยนต์ HAVAL H6 Generation 3 รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งนี้แบรนด์รถยนต์ HAVAL นับได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายรวมของรถยนต์ภายใต้แบรนด์นี้มากกว่า 6 ล้านคัน และเพิ่งทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นรถที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานกับดีไซน์อันโดดเด่น สำหรับสเปกที่จำหน่ายในประเทศจีนจะมีขุมพลังให้เลือก 2 ขนาด คือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo 163 แรงม้า และ 2.0 ลิตร Turbo 193 แรงม้า ส่วนประเทศไทยคาดว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ประมาณล้านต้น ๆ
และอีก 1 รุ่นที่จะเปิดตัวคือ ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอร์รี่รุ่นแรกที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทั้งในสื่อต่างๆ และทุกช่องทางออนไลน์ ORA Good Cat จะเข้ามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ ทั้งในด้านคุณภาพอันเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันและดีไซน์ที่ล้ำสมัยแนวเรโทร futuristic สำหรับคนไทยทุกคน” สำหรับสเปกที่จำหน่ายในประเทศจีนจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 163 แรงม้า ชาร์จ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกล 401 กิโลเมตร สำหรับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 47.8 kWh และ 501 กิโลเมตร สำหรับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 59.1 kWh (มาตรฐาน NEDC) ส่วนราคาของ ORA Good Cat ที่จำหน่ายในประเทศไทยคาดว่าจะสามารถทำราคาได้ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
นายณรงค์ สีตลายน ยังได้กล่าวปิดท้ายด้วยการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่น จริงจัง และจริงใจ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการนำเสนอ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับคนไทย รวมไปถึงความพร้อมในการเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมีศักยภาพ
ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)” เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบยานยนต์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทย และพร้อมที่จะช่วยผลักดันการสร้างอีโคซิสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และศักยภาพของบุคลากรไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลและเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส