หากพูดถึงยนตรกรรมหรูจากฝั่งตะวันออกที่พอเทียบชั้นกับแบรนด์ยุโรปได้ ต้องมีชื่อของเลกซัส (Lexus) เป็นหนึ่งในนั้น เลกซัสคือแบรนด์ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมียมที่แตกไลน์การผลิตออกมาเพื่อสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากโตโยต้า โดยเน้นการผลิตยนตรกรรมออกมาให้ตอบโจทย์อินไซต์ของผู้ใช้งานทั้งในด้านดีไซน์และฟังก์ชั่น จนกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ข้ามทวีปไปตีตลาดรถยุโรปและอเมริกาได้ ด้วยมาตรฐานการผลิตแบบญี่ปุ่นจากช่างฝีมือระดับสูง เสริมด้วยแนวคิดการให้บริการแบบ ‘Omotenashi’ ที่ใส่ใจตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงสมรรถนะในการใช้งานที่ทำให้รถทุกคันของ เลกซัสกลายเป็นรถคู่บ้าน ยานพาหนะคู่เรือน ในราคาคุ้มค่ากับสิ่งที่เจ้าของรถยนต์จะได้รับ
นั่นจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราอยากแนะนำ Lexus IS รถสปอร์ตซีดานหรูรุ่นล่าสุดของแบรนด์ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท ในรุ่น Luxury และยังมีรุ่น Premium และ F Sport ในรุ่นท็อป ที่มีการปรับจูนสมรรถนะภายใน รวมถึงปรับโฉมภายนอกใหม่โดยดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นอย่างเคนอิชิ ฮิราอิ (Kenichi Hirai) นักออกแบบประจำของเลกซัสที่ดึงความงดงามทั้งภายนอกและภายในของตัวรถออกมาได้อย่างเหนือชั้น
สปอร์ตซีดานแห่งความเรียบหรู
Lexus IS โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Spindle Grille และไฟท้าย LED รูปตัว L ยาวตลอดแนวท้ายรถดูเฉียบคมมากขึ้น มีโหมดการขับขี่ให้เลือกคือ Eco, Normal และ Sport (ในรุ่น F sport จะมีโหมด Sport + เพิ่มขึ้นมาอีกโหมด) ภายในห้องโดยสารออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย และการใช้งานที่เหมาะกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก โดยใช้วัสดุหนังเย็บตะเข็บอย่างละเอียดให้ความรู้สึกนุ่มสบาย มาพร้อมหน้าจอเครื่องเล่นสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay รวมถึงระบบเสียงระดับพรีเมียมด้วยลำโพงทั้ง 10 ตัวรอบคัน และยังสามารถเพิ่มลดเสียงด้วยระบบนิ้วสัมผัส เอาใจผู้ที่รักเสียงเพลงโดยเฉพาะ
ช่วงล่างแห่งความนุ่มนวล
นอกจากเรื่องการดีไซน์แล้ว Lexus IS ที่มาพร้อมการขับเคลื่อนล้อหลัง ยังให้ความสำคัญกับช่วงล่างเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายตั้งแต่ก้าวขาขึ้นไปบนตัวรถ โดยช่วงล่างในรุ่น Luxury เน้นความนุ่มนวลในการทำความเร็วระดับกลาง ทั้งนี้ก็ยังรู้สึกมั่นใจได้ทุกครั้งเมื่อใช้ความเร็วสูง ในขณะที่ช่วงล่าง AVS ในรุ่น F Sport สามารถปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการขับขี่แบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม Lexus IS รุ่น Luxury ก็ยังเป็นรถที่มีความพอดี ขับสนุกและมั่นใจ ไปจนถึงใช้งานได้จริงทั้งในเมืองหรือยามขับขี่ทางไกล โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาระหว่างทาง
นี่จึงเป็นอีกตัวเลือกของรถยนต์ในเซกเมนต์สปอร์ตซีดาน ที่ให้ทั้งความสปอร์ต หรูหรา การขับขี่คล่องตัวและความคุ้มค่าที่ทำให้ใช้งานได้ราบรื่น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-i พละกำลังสูงสุด 220 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผสานฟีลลิ่งการขับขี่ที่หรูหราตามสไตล์แดนปลาดิบและสมรรถนะเทียบเท่ารถยุโรปไว้ในคันเดียวกัน
ราคาของ Lexus IS รุ่น Luxury อยู่ที่ 2.69 ล้าน เรียกได้ว่าราคาใกล้เคียงกับรถในเซกเมนต์เดียวกันอย่าง Mercedes-Benz C-Class หรือ BMW Serie 3 แต่สิ่งที่เหนือกว่าของ Lexus IS คือเป็นรถประกอบนอกทั้งคัน จึงได้มาซึ่งความประณีตจากช่างฝีมือญี่ปุ่นเต็ม ๆ แถมเลกซัสยังมีไม้เด็ดเป็นบริการหลังการขาย ที่เรียกได้ว่า ‘ให้’ มากกว่า ‘รับ’ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้เลกซัส จนได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องบริการคุณภาพสูงจากแบรนด์เสมอมา
Lexus ทุกคันประกอบในญี่ปุ่นและนำเข้ามาจำหน่ายในไทยแบบทั้งคัน เพื่อให้สามารถคงความพรีเมียมและมาตรฐานการผลิตจากคนญี่ปุ่นไว้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ใช้รถยนต์ Lexus จึงใช้งานได้ทนทานและมักจะไม่ประสบปัญหาจุกจิกเหมือนรถคันอื่น นอกจากนี้ความเป็นรถไฮบริดของ Lexus IS ที่ทำงานควบคู่ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ยังช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่เพียง 19.23 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งรถทุกคันของ Lexus จะแถมมาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ดี มีค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถในเซกเมนต์เดียวกัน ช่วยเพิ่มความมั่นใจกับลูกค้าที่อยากได้รถสปอร์ตหรูพรีเมียม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายระยะยาว นี่จึงอาจเป็นตัวเลือกของรถสปอร์ตหรูประกอบนอกของคนฉลาดเลือก และถ้าอยากรู้ว่าเป็นเจ้าของเลกซัสซักคันมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่างกันยังไง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดส่วนนี้เพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ https://bit.ly/3DlH0CS
Omotenashi ปรัชญาการให้บริการแบบญี่ปุ่น
“เราต้อนรับแขกของเราอย่างไร รถยนต์เลกซัสต้อนรับเจ้าของเช่นนั้น” เป็นคำอธิบายลักษณะของรถยนต์ Lexus IS ได้ดี เพราะสามารถถ่ายทอดปรัชญา ‘Omotenashi’ หรือ ‘จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น’ ที่มองเห็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ และตอบสนองสิ่งนั้นได้ดังใจ
เช่นเดียวกับการสร้างรถหนึ่งคันของเลกซัส จึงตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันการใช้งานและสุนทรียศาสตร์ไปในตัว สะท้อนผ่านรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกคิดมาแล้วอย่างดีโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แม้กระทั่งเสียงปิดประตูที่ฟังแล้วยังรู้สึกหรูหรามากที่สุดเลยทีเดียว
แนวคิด ‘Omotenashi’ ยังสอดแทรกเข้าไปในกระบวนการผลิตรถยนต์เลกซัสทุกคัน รวมถึง Lexus IS รถสปอร์ตซีดานคันนี้ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ ก็ผ่านกระบวนการคิดและพัฒนาขึ้นมาด้วยหลักการเดียวกัน โดยผสมผสานเทคโนโลยีล้ำยุคเข้ากับงานคราฟต์อันละเอียดอ่อนที่ตกแต่งอยู่ภายในได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นว่าคนขับรถเลกซัสไม่ได้เพียงเลือกแค่ตัวรถ แต่ยังเผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่ดูดี น่าเชื่อถือจากแบรนด์อีกด้วย
บริการหลังบ้านเป็นเลิศ
การบริการแบบ ‘Omotenashi’ ยังส่งต่อมาถึงรูปแบบการให้บริการหลังการขายที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ารายบุคคลเหมือนเวลารับรองแขกมาเยี่ยมบ้านทุก ๆ ครั้งที่มารับบริการ โดยเจ้าหน้าที่มักจะจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้าทุกคนได้ อาทิ ชอบดื่มอะไรหรือชอบนั่งบริเวณไหน รวมถึงความใส่ใจในการบริการจากช่างซ่อม คอยถ่ายภาพอะไหล่ที่ชำรุดให้ลูกค้าตรวจดูก่อนซ่อมทุกครั้ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจริง ๆ
นอกจากนี้ในช่วงโควิด-19 เลกซัสยังเสริมบริการเรื่องความปลอดภัยและความสบายใจให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจ โดยเพิ่มบริการ At Home Service ที่มีทั้งการรับ-ส่งรถยนต์เข้าศูนย์บริการถึงบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงของลูกค้า ทั้งหมดนี้เป็นวิธีคิดของเลกซัสที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และทำให้เห็นว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่ดีนอกเหนือจากแค่การเป็นเจ้าของรถยนต์เพียงอย่างเดียว
เลกซัสยังมี Lexus Exclusive Package (LXP) หรือโปรแกรมบำรุงรักษาและรับประกันคุณภาพรถยนต์ของเลกซัสทุกรุ่น ข้อดีของแพ็กเกจ LXP นี้คือ ช่วยให้คุณออกแบบการรับประกันให้เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ของตัวเองและประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว ตลอดจนการรับประกันคุณภาพ 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงฟรีค่าแรงบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแลรถให้ตลอดการใช้งานแบบ 24 ชั่วโมง
กล่าวโดยสรุป Lexus IS เป็นรถที่น่าใช้งาน ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความเรียบ หรู สมรรถนะดี และบริการที่คุ้มค่าครบจบเพียงพอต่อการใช้งานระยะยาว ส่วนในเรื่องการขับขี่เรียกได้ว่าคุ้มค่าทั้งในด้านความทนทานจากการประกอบอย่างประณีตโดยช่างญี่ปุ่น ไปจนถึงความสบายใจที่ไม่เกิดปัญหาจุกจิกระหว่างการใช้รถ แม้รุ่น Luxury จะออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป แต่ก็ยังมีตัวเลือกในรุ่นท็อปอย่าง Premium และ F Sport ที่เพียบพร้อมด้วยช่างล่างและสมรรถนะเร้าใจกว่า ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะสมกับการการใช้งานและภาพลักษณ์ของตัวเองได้
โดย Lexus IS มีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน คือ Luxury คันนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 2,690,000 บาท และยังมีเกรด Premium และ F Sport ที่หากท่านไหนสนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทดลองขับ Lexus IS ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง
● บริษัท เลกซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม 9) โทร 0 2716 8999
● บริษัท เลกซ์ส ออโต้ซิตี้ จำกัด สำนักงานใหญ่ รามอินทรา (กม. 2) โทร 0 2521 1111
● บริษัท เลกซ์ส ออโต้ซิตี้ จำกัด สาขา สุขุมวิท (ซอย18) โทร 0 2260 8123
รวมถึงสามารถใช้งาน Lexus Service Corners ในศูนย์บริการของโตโยต้าครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศในภาคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าจะได้รับบริการระดับเดียวกันกับการเข้าศูนย์เลกซัสในกรุงเทพฯ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3lxhFjc
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส