วันศุกร์ที่ 7 มกราคม อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้ทวีตเผยว่าเทสลาจะปรับขึ้นราคา FSD (Full Self-Driving) ระบบรถยนต์ขับขี่ด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบอยู่ที่ 12,000 เหรียญ (403,560 บาท) ในวันที่ 17 มกราคม 2022
มัสก์ได้บอกเพิ่มเติมว่าจะขึ้นราคาเฉพาะลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และจะปรับขึ้นราคาสำหรับสมาชิกรายเดือนเมื่อ FSD ถูกปล่อยให้ใช้งานในวงกว้าง
การขึ้นราคา FSD ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกได้ปรับขึ้นราคาจาก 8,000 เหรียญ (269,040 บาท) เป็น 10,000 เหรียญ (336,300 บาท) เมื่อปี 2020 และผ่านมาเกือบ 2 ปีก็จะปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 2 อีก 2,000 เหรียญ (67,260 บาท) คิดเป็น 20%
FSD เป็นระบบรถยนต์ขับขี่ด้วยตนเองในระดับ 2 ที่สามารถเร่งความเร็ว เบรก และเปลี่ยนเลน โดยคนขับรถจะต้องจดจ่ออยู่กับถนนและเตรียมพร้อมที่จะควบคุมรถ พฤษภาคม 2020 เทสลาประกาศปรับขึ้นราคา FSD ครั้งแรกในราคา 10,000 เหรียญ (336,300 บาท) พร้อมเปิดฟีเจอร์เด็ด ได้แก่ การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic lane changes), การจอดรถขนานกับถนน (Parallel parking) และ Smart Summon การกดปุ่มที่แอปบนสมาร์ตโฟนสั่งให้รถมารับหรือไปจอดโดยหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อัตโนมัติในระยะทางสูงสุด 200 ฟุตและอนาคตจะมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมคือการควบคุมรถตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุดได้อัตโนมัติ
เดือน ก.ค. 2020 มัสก์เผยมั่นใจว่า FSD จะไปสู่ระดับ 5 ขับขี่ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องมีคนขับควบคุมภายในปี 2020 จากนั้นก็เลื่อนมาเป็นช่วงต้นปี 2021 และได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเดือนพฤษภาคม ต่อมาต้นเดือน ก.ค. ได้ปล่อยการอัปเดตซอฟต์แวร์ FSD รุ่นเบต้า 9 และ 9.1 แก่สมาชิกที่ร่วมโครงการทดลองใช้ก่อนเปิดตัวเท่านั้น อีกทั้งยังได้เสนอตัวเลือกการซื้อ FSD แบบจ่ายเป็นรายเดือนในราคา 199 เหรียญ (6,523 บาท)
เดือน ส.ค. เทสลาได้ปล่อย FSD รุ่นเบต้า V9.2 ต่อมาก็ได้ประกาศข้าม V9.3 แล้วปล่อย V10 ในเดือน ก.ย. จากนั้นไม่นานได้อนุญาตให้สมาชิกที่ซื้อ FSD ทุกคนคลิกปุ่มขอใช้ Beta V10.1 ได้แต่จะต้องผ่านการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ และเดือน ต.ค. ได้ปล่อย FSD รุ่นเบต้า 10.2 ออกสู่กลุ่มผู้ทดสอบและเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับคะแนนความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมด้วยการขับขี่ในระยะทางที่มากกว่า 100 ไมล์ (160.93 กม.)
สรุปง่าย ๆ เทสลาได้เร่งพัฒนา FSD มาอย่างต่อเนื่องโดยได้ปล่อยซอฟต์แวร์รุ่นเบต้าออกมาให้ทดสอบเห็นความคืบหน้ากันแล้ว ดังนั้นต้องติดตามดูต่อไปว่าหลังจากการขึ้นราคาครั้งใหม่และปล่อย FSD ใช้งานในวงกว้างแล้วจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ออกมาหรือจะไปสู่ระดับ 5 ที่สมบูรณ์ได้หรือไม่
ที่มา : engadget
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส