Our score
8.9

รีวิว Volvo EX30 น้องเล็กขับขี่สนุก มุดได้คล่องตัว ช่วงล่างดี จอดรถอัตโนมัติได้ มี One Pedal จบ

จุดเด่น

  1. แรงกำลังดี ช่วงล่างแน่น คล่องตัวสไตล์รถเล็ก
  2. ระบบความปลอดภัยมั่นใจได้ ฟีเจอร์ช่วยจอดใช้งานดี มี One pedal
  3. ออกแบบลูกเล่นในรถไม่เหมือนใคร
  4. ระบบเสียงดีจาก harmon/kardon

จุดสังเกต

  1. ขนาดรถอาจจะดูเล็กไปหน่อย เหมาะกับการใช้งาน 2+1 คน
  2. ตำแหน่งวางขาที่นั่งด้านหลังสูงไป เพราะรถสูง + แบตเตอรี่
  • รถเล็ก แต่ครบเครื่อง ทั้งฟีเจอร์และสมรรถนะ

    8.9

หลังจาก Volvo ประเทศไทย ประกาศยอดขายกลุ่ม EV เติบโตขึ้น 56% ในปี 2023 โดยแบ่งเป็นรุ่น XC40 Recharge Pure Electric ประมาณ 30% ของยอดขาย และ Volvo C40 Recharge Pure Electric 26% ของยอดขาย ทำให้ปี 2024 Volvo เดินหน้าในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการเปิดตัว Volvo EX30 น้องเล็กสุดในเซกเมนต์ แต่ยังคงสไตล์ SUV ที่เรามีโอกาสได้ไปทดสอบขับขี่บนถนนมาหมาด ๆ

ดีไซน์

จุดเริ่มต้นของ Volvo EX30 ถูกสร้างขึ้นให้มิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดคันหนึ่ง เพราะเป็นรถที่ผลิตคาร์บอน ฟุตปรินต์น้อยที่สุดเท่าที่ Volvo เคยผลิตมา (วัดการขับขี่ระยะทาง 200,000 กม. Volvo EX30 ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการชาร์จไฟต่ำกว่า 30 ตัน) ทำให้เราได้เห็นการใช้วัสดุรีไซเคิลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังอะลูมินัมรีไซเคิล 25% เหล็กรีไซเคิล 17% และพลาสติกรีไซเคิล 17% ไปจนถึงวัสดุภายในที่นำชิ้นส่วนต่างๆ จากรีไซเคิลมาใช้ เช่น เบาะหนัง แผงประตูและคอนโซล ไปจนถึงพรมรองเท้า

แม้ Volvo จะยืนหยัดเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างหนักแน่น แต่การดีไซน์ตัวรถก็ยังคงดีไซน์แบบสแกนดิเนเวียนเช่นเดิม ด้วยไฟหน้า LED แบบ Thor’s Hammer และไฟท้าย LED ทรงสี่เหลี่ยม ไม่เหมือนใคร รวมถึงดีไซน์กระจกข้างไร้ขอบที่ค่อนข้างเตะตาและเต็มตา เพราะมีเทคโนโลยีตัดแสงอัตโนมัติเวลาขับขี่ของฝั่งคนขับด้วย

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะไฟฟ้าปรับได้ปลายทิศทาง หลังคาพาโนรามิคกลาสรูฟให้ความโปร่ง หลังจากลองขับขี่ในช่วงกลางวันรู้สึกถึงความร้อนพอสมควร นอกจากนี้ยังมีไฟตกแต่งห้องโดยสาร 5 เฉดสี เลือกธีมได้ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแถบสีของสแกนดิเนเวียนนั่นเอง

ตัวรถมีการดีไซน์จุดต่าง ๆ ที่ค่อนข้างแตกต่างจากรถคันอื่น ๆ เช่น ซาวน์บาร์ทั้งชิ้นยาวติดอยู่ด้านหน้าสุดของคอนโซลกลาง ให้เสียงกระหึ่มของ Harman Kardon Premium Sound ทั่วทั้งห้องโดยสาร ปุ่มล็อกรถและกระจกรถบริเวณกลางคอนโซลระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารแถวหน้า พร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง รวมถึงตำแหน่งลิ้นชักเก็บของที่อยู่ตรงกลางคอนโซล ด้านล่างจอแสดงผลเลย เปิดได้จากหน้าจอ ก็เป็นดีไซน์ที่แปลกดี

ที่เราชอบใน Volvo EX30 คือการให้จุดชาร์จภายในรถมาค่อนข้างเยอะ ทั้งที่ชาร์จไร้สายฝั่งที่นั่งข้างคนขับ รวมถึงช่องชาร์จ USB-C 2 ตำแหน่งด้านหน้า และ 2 ตำแหน่งด้านหลัง มาพร้อมระบบปรับอากาศที่มีตัวกรอง PM 2.5 ให้ด้วย จอแสดงผลค่อนข้างใช้งานได้ลื่น ไม่สะดุดและเข้าใจง่าย ไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก รองรับซิม 5G และ Google built-in ให้สามารถชม YouTube หรือใช้ Google Map ได้เลย สะดวกมาก ๆ

การขับขี่

ต้องบอกก่อนว่า Volvo EX30 รุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในไทยมี 3 รุ่นย่อย คือ Single Motor รุ่นเริ่มต้น (Core) กับรุ่นท็อป (Ultra) และรุ่น Ultra Twin Motor หรือ Performonce ซึ่งเรามีโอกาสทดสอบรุ่นท็อป Single Motor และ Twin Motor การทดสอบวันนี้เราได้ขับขี่ในเส้นทางกทม. – สามพราน ระยะทางประมาณ 140 กม. หลังจากใช้งานพบว่าตัวรถมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 15.3 kWh/ 100 km ในรุ่น Ultra Single Motor และกินไฟมากขึ้นเล็กน้อยในรุ่นมอเตอร์คู่ประมาณ 17.6 kWh/ 100 km ในรุ่น Ultra Twin Motor

เมื่อนำตัวเลขกินไฟมาคิดกับปริมาณแบตเตอรี่ 69 kWh ของทั้งสองรุ่น จะพบว่าขับขี่ได้จริงประมาณ 390-450 กม.ในแต่ละรุ่น ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอกับรถขนาดเล็ก ใช้งานในเมืองแบบนี้ อีกอย่างที่เราประทับใจคือระบบต่าง ๆ ภายในรถ ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทั้งการจ่ายไฟในการขับขี่ การออกตัว เบรก เร่งความเร็วล้วนแล้วแต่เนียนสมูท ใช้งานง่ายขึ้นด้วยระบบ One Pedal ที่ตอบสนองได้ทันใจ ใช้แป้นคันเร่งเดียวในการขับขี่ ไม่ต้องมีโหมดขับขี่มาให้ปรับวุ่นวาย นิยามด้วยคำสั้น ๆ ว่า ‘Just Drive’ ได้เลย

ระบบความปลอดภัย

ตัวรถมีระบบความปลอดภัยมาให้ใช้งานครบ ทั้ง Pilot Assist และ Adaptive Cruise Control ที่ช่วยให้การขับขี่สบายขึ้น ปรับความเร็วขึ้นลงได้ที่พวงมาลัย มีระบบ Park Pilot Assist ช่วยจอดรถอัตโนมัติแบบที่ไม่ต้องจับพวงมาลัย ขอแค่จอดใกล้เส้นไม่เกิน 1 เมตร แล้วกดปุ่มเดียวบนหน้าจอ รวมถึงระบบเตือนเมื่อจะเปิดประตูช่วยตรวจจับวัตถุที่มาจากทางด้านหลังได้ด้วย ทำงานร่วมกับกล้อง 360 องศาที่ค่อนข้างชัดเจน

ใครสังเกตเห็นกล่องดำ ๆ หลังพวงมาลัย ไม่ใช่จอสำหรับขับขี่นะครับ แต่คือเซนเซอร์ที่ตรวจจับท่าทางของผู้ขับขี่ว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน มีสมาธิในการขับขี่หรือไม่ หรือมีอาการง่วงระหว่างขับขี่หรือไม่ จะช่วยเตือนบนหน้าจอ (เป็นรูปถ้วยกาแฟ) ได้ด้วย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนนมากขึ้น

นอกจากนี้ตัวรถยังทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Volvo EX30 ที่แยกออกมาจากแอป Volvo Car ช่วยควบคุมตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น ล็อกรถ, หาตำแหน่งรถ, ตั้งเวลาอัปเดต OTA หรือตั้งเวลาชาร์จ พร้อมบันทึก Driving Journal ว่าเดินทางไปไหนบ้างในแต่ละวัน แต่เหตุที่ต้องแยกแอปออกมาเพราะเป็นรถที่ร่วมพัฒนาระหว่าง Volvo และ Geely ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์คนละตัวกับรุ่นทั่วไป ทาง Volvo กล่าวว่ามีแผนจะรวบแอปในอนาคต แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเมื่อไหร่

Battery Center

ในโอกาสนี้เรายังได้มีอัปเดตเพิ่มเติมจากทาง Volvo เกี่ยวกับเรื่อง Bettery Center หรือศูนย์วิจัยและรีไซเคิลแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ลงไม่ต่ำกว่าครึ่ง รวมถึงลดระยะเวลาในการซ่อมได้เร็วขึ้นแบบชัดเจน (Volvo เล่าว่า สามารถเปลี่ยนแบตรถได้ภายใน 2 วัน)

Volvo กล่าวว่าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ Volvo จะแบ่งอายุการใช้งานออกเป็น 3 ประเภท คือ แบตเตอรี่ก้อนใหม่ใช้งานในรถยนต์ของ Volvo ซึ่งจะมี State of Health หรือมาตรฐานแบตอยู่ที่ประมาณ 70% ถึงควรเข้ามาเปลี่ยนกับทางศูนย์ (Volvo เรียกว่าการรีแมนูแฟกเจอริง) เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ Volvo มองว่า แม้ตัวแบตเตอรี่จะยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่อาจจะมีบางโมดูลที่ทำงานได้ไม่เต็มที่และส่งผลต่อแบตเตอรี่โดยรวมได้

แบตเตอรี่ประเภทที่สองคือ แบตใช้งานแล้ว แต่ยังสามารถใช้งานอย่างอื่นได้ เช่น กักเก็บพลังงาน ทาง Volvo จะนำตัวแบตไปใช้ในกรณีอื่นอย่างใช้กักเก็บไฟในอาคารและโรงงานของ Volvo เพื่อลดการผลิตคาร์บอนเพิ่มขึ้น และแบตเสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็นแบตหลังหมดรับประกัน 8 ปีหรือแบตที่ใช้งานจนหมดสภาพ จะถูกนำไปรีไซเคิล (ปัจจุบัน Volvo รีไซเคิลแบตกับบริษัทระดับโลกที่ประเทศสิงคโปร์) เพื่อนำแร่ธาตุสำคัญอย่างลิเธียม, แมงกานีสและโคบอลต์ไปใช้งานต่อไป ซึ่งเราอาจได้เห็น Bettery Center ในช่วงปลายปี 2024

Volvo EX30 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย Core Single Motor ราคา 1,590,000 บาท รุ่น Ultra Single Motor ราคา 1,790,000 บาท และ Ultra Twin Motor Ultra 1,890,000 บาท พบคันจริงได้ในงาน Motor Show 2024 เราต้องมาดูว่าปี 2024 ที่ Volvo ตั้งเป้าขายรถ EV 83% จะทำได้หรือไม่