วันนี้แบไต๋จะไปบุก ! ถึง HUAWEI Thailand Exhibition Center ที่พระราม 9 นี่เองล่ะครับ แต่วันนี้ ผมหนุ่ย-พงศ์สุขมากับนี่ ! HUAWEI MateBook D14 รุ่นใหม่ล่าสุด ปี 2022 จากทางหัวเว่ย !
คุณผู้ชมอาจจะคิดว่าผมจะมารีวิวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่นี้ แต่ถูกครึ่งเดียวครับ เพราะวันนี้ผมจะมารีวิวฟังก์ชั่น HUAWEI Super Device ซึ่งเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกตัวของหัวเว่ย หมดนี่ เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานแบบ ‘สมาร์ต ออฟฟิศ’ แบบใหม่ที่ไร้รอยต่อยิ่งกว่าเดิม ด้วย HUAWEI MateBook D14 ครับ !
โดย HUAWEI Super Device เป็นฟังก์ชันใหม่ของทาง HUAWEI ที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก HUAWEI Share ใน HUAWEI MateBook รุ่นเก่านี่แหละครับ ปัจจุบัน HUAWEI Share ก็เป็นหนึ่งในความสามารถของSuper Device Concept ไปด้วยนั่นเองครับ
ซึ่งในครั้งนี้ที่ผมจะสาธิตการใช้งาน HUAWEI Super Device โดยจะใช้ HUAWEI MateBook D Series เป็นอุปกรณ์หลักเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ให้การทำงานนั้นง่ายกว่าเดิม ภายใต้แนวคิด Super Device, Super Creativity ลากเพื่อเชื่อมต่อ สร้างผลงาน และความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร้รอยต่อนั่นเองครับ
แล้วก็ตามที่บอกเลยนะครับกับคำว่า ‘ลากเพื่อเชื่อมต่อ’ นั่นแปลว่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าไปยัง HUAWEI MateBook D14 นี้จะทำได้ง่ายดายมากครับ
การเริ่มเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน HUAWEI Super Device ครั้งแรกนั้นก็ไม่ยากครับ เพียงแค่นำสมาร์ตโฟน HUAWEI ที่ใช้ EMUI 12.0 ขึ้นไป, แท็บเล็ต HUAWEI ที่ใช้ HarmonyOS 2.0 ขึ้นไป หรืออุปกรณ์เสริมของ HUAWEI นี้ ล็อกอินเข้า HUAWEI ID เดียวกัน จากนั้นก็เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ทั้งคู่ โดยในครั้งแรกก็จะต้องค้นหาอุปกรณ์ผ่าน PC Manager ก่อน แล้วเข้าสู่ฟังก์ชั่น HUAWEI Super Device ผ่านแถบการตั้งค่าด้านล่างขวาของ HUAWEI MateBook D14 แล้วบนจอก็จะทำการค้นหาอุปกรณ์ใน ecosystem เดียวกัน แล้วเราก็แค่ ลากอุปกรณ์นั้น เข้ามาเชื่อมต่อครับ ง่ายแค่นี้เอง
ซึ่งแต่ละอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ การทำงาน และประโยชน์ของมันก็แตกต่างกันด้วย โดยจะทำได้ทั้งหมด 4 รูปแบบนั่นก็คือ PC+Mobile, PC+Tablet, PC+Monitor และ PC+Vision นั่นเองครับ เดี๋ยวเราจะมาลองทีละอย่างกันเลยครับ
อย่างแรกที่เราจะมาลองกันก็คือการเชื่อมต่อกับกล้องโทรได้อย่าง HUAWEI P50 Pro นี่แหละครับ โดยการเชื่อมต่อกันผ่าน HUAWEI Super Device นี้จะเปลี่ยน P50 Pro เครื่องนี้ให้กลายเป็น External Drive ที่เชื่อมต่อกับแล็ปท็อป HUAWEI MateBook เอาไปบันทึก ถ่ายโอน และแก้ไขไฟล์ข้ามอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย วิธีการก็ง่าย ๆ แค่ลากไอคอนเข้าเครื่องนี่แหละครับ
นอกจากนี้ก็ยังแสดงหน้าจอของสมาร์ตโฟนของเรา เพื่อใช้งานทั้งสมาร์ตโฟนและโน้ตบุ๊กพร้อมกัน แล้วยังใช้งานแอปพร้อมกันได้ถึง 3 แอปพร้อมกันอีกด้วย แถมเสียงจากในสมาร์ตโฟนก็มาดังในโน๊ตบุ๊กด้วยนะครับ แหม่ สะดวกจริง ๆ ใช้งานโน๊ตบุ๊กกับมือถือพร้อมกันได้แบบนี้
นอกจากนั้นยังสามารถรับสายและวิดีโอคอลของสมาร์ตโฟนผ่าน HUAWEI MateBook ได้อีกด้วยนะ ผมลองให้ดูเลย ถ้าใครอยากโทรหาคนอื่นแล้วไม่อยากให้มีคนได้ยินที่เราคุยกัน ก็มาต่อกับนี่ครับ (หยิบหูฟังมาเชื่อมต่อ – เห็น Pop-Up หน้าจอโน้ตบุ๊ก) นี่คือวิธีการเชื่อมต่อหูฟัง HUAWEI FreeBuds Lidstick หูฟังทรงลิปสติกนี้ ผ่านฟังก์ชั่น Pop-Up Pairing ครับ ง่ายนิดเดียว
จริง ๆ นอกจากลำโพงแล้ว อุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ ของ HUAWEI ก็เชื่อมต่อได้แบบง่าย ๆ เช่นกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นหูฟัง ลำโพง หรือแม้กระทั่งเมาส์บลูทูธด้วยครับ
ต่อมาก็คือการเชื่อมต่อกับแท็บแล็ตครับ โดยเราจะใช้ HUAWEI MatePad 11 แท็บเล็ตที่มาพร้อมปากกา M-Pencil รุ่นที่ 2 เครื่องนี้ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นครับ
สามารถเชื่อมต่อผ่านการทำงาน 3 โหมด ได้แก่ Mirror Mode, Extend Mode และ Collaborate Mode ครับ
โหมดแรก Mirror Mode ก็ตามชื่อเลยครับ Mirrior ก็คือการสะท้อน หรือก็คือสะท้อนภาพของโน้ตบุ๊กเรา เข้าไปอยู่ในแท็บเล็ต HUAWEI MatePad เครื่องนี้นั่นเองครับ
เมื่อเปิด Mirror Mode หน้าจอแล็ปท็อปที่ถูกแสดงขึ้น จะสามารถใช้ในการเขียน หรือวาดรูป บนแท็บเล็ตด้วย M-Pencil แล้วก็จะแสดงผลไปยังหน้าจอแล็ปท็อปได้ทันที นี่คือตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานการออกแบบอย่างมืออาชีพได้เลยครับ
อธิบายการทำงานแล้วเรามาลองใช้จริงกันเลยดีกว่าครับ
- เวลาสะท้อนภาพมาแล้วมันลื่นไหลมาก ไม่มีความหน่วงใด ๆ เลย
- ใช้หน้าจอ MatePad แทนจอทัชสกรีนของ MateBook ได้เลย
- แถมยังใช้ได้กับทุกโปรแกรมอีกด้วย เพราะสะท้อนภาพมาเต็ม ๆ เลย
- โหมดต่อมาก็คือ Extend Mode หรือโหมดขยายหน้าจอ อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เพิ่มหน้าจอให้ HUAWEI MateBook ของเรานี่แหละครับ
โหมดสุดท้ายก็คือ Collaborate Mode นั่นเองครับ แทนที่จะให้แท็บเล็ตทำหน้าที่เป็นจอที่ 2 เราก็ทำงานในแท็บเล็ตไปพร้อมกันเลยสิครับ ! แท็บเล็ตและโน้ตบุ๊กสามารถใช้เมาส์และคีย์บอร์ดร่วมกันได้ สามารถลากเอาไฟล์ส่งผ่านไปมาระหว่างสองอุปกรณ์ได้ง่ายดาย จะส่งไฟล์จากโน้ตบุ๊กลงแท็บเล็ต หรือแท็บเล็ตลงโน้ตบุ๊ก ก็สะดวกรวดเร็วสุด ๆ เลยครับ
- สามารถใช้คุมแท็บเล็ตได้อย่างดี
- ใช้งานกับแอปที่โหลดผ่าน Gspace ได้อย่างสบาย
ลองนึกภาพตามนะครับ หลังจากเราถือ HUAWEI MateBook D14 ไปทำงานนอกบ้านมาเรียบร้อย แล้วเราก็กลับมาที่โต๊ะทำงานของเรา กลับมาตัดวิดีโอต่อ แต่ผมไม่มีสาย HDMI ซะอย่างนั้น แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ ตอนนี้ผมอยู่กับ HUAWEI MateView จอคอมพิวเตอร์ของทาง HUAWEI นั่นเองครับ เจ้า HUAWEI Super Device นี่ก็สามารถที่จะเชื่อมต่อ HUAWEI MateBook D14 ของเราเข้ากับ HUAWEI MateView ได้อย่างง่ายดายด้วยวิธีเดียวกันนี้เลยครับ แบบไม่ต้องใช้สายเลยด้วย ! ใช้ได้ทั้ง Mirrior Mode และ Extend Mode เลยนะ
และด้วยความที่ HUAWEI MateView รองรับ ความละเอียด 4K+ และขอบเขตสีระดับโรงภาพยนตร์ DCI-P3 ทำให้ได้ภาพที่สมจริง และอัตราส่วนไม่เพี้ยน พร้อมทำงานด้วยครับ
ไม่ใช่แค่ต่อเข้ากับจอคอมพิวเตอร์เท่านั้นนะครับ แต่จอโทรทัศน์อย่าง HUAWEI Vision S นี่ก็เช่นกันครับ แล้วจอใหญ่ ๆ แบบนี้ เหมาะกับการประชุมสุด ๆ ไปเลยครับ เพราะนี่ ที่จอมีกล้องที่พร้อมใช้ประชุมผ่านวิดีโอคอลได้เลย โดยที่เราก็สามารถใช้ HUAWEI MateBook ของเรา พิมพ์เนื้อหาของการประชุมไปพร้อมกันได้แบบไม่ติดขัดอีกด้วยครับ วิธีก็เหมือนเดิมเลยครับ :
สเปก
พูดถึงฟีเจอร์กันแล้ว เรามาพูดถึงสเปกกันบ้างครับ โดย HUAWEI MateBook D14 ปี 2022 เครื่องนี้มาพร้อมกับ CPU Intel Core i5-1135G7 แรม 8GB หน่วยความจำเป็น SSD nVME ขนาด 512 GB แล้วยังมาพร้อมการ์ดจอ Intel iris Xe ที่พร้อมทำงานทุกรูปแบบอีกด้วย เป็นการอัปเกรดจากรุ่นที่ผ่าน ๆ มาสุด ๆ เลยครับ !
ข้อสังเกต
ข้อสังเกตที่ทางกองบรรณาธิการแบไต๋เจอมาเนี่ย ขอไล่ตามแต่ละวิธีการต่อเลยนะครับ เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ
ฟังก์ชัน Super Device นั้นสามารถเชื่อมต่อจับคู่ได้แค่ทีละอุปกรณ์้ท่านั้น
ถ้าต่อกับสมาร์ตโฟนแล้ว บางแอปพลิเคชันหรือแอปที่เข้าผ่าน Gspace จะไม่สามารถแยกออกมาเปิดอีกหน้าจอได้ แล้วในการถ่ายโอนไฟล์ ไฟล์บางประเภทยังไม่สามารถลากจากสมาร์ตโฟน เข้า Huawei MateBook ได้
ถ้าต่อกับแท็บเล็ตแล้ว ใน Collaborate Mode นั้นเรายังไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยในแท็บเล็ตจาก HUAWEI MateBook ของเราได้ ต้องพิมพ์ผ่านแท็บเล็ตเท่านั้น และ Collaborate Mode ยังมีข้อจำกัดในการส่งข้อมูลข้ามอุปกรณ์ในบางแอป การส่งรูปข้ามอุปกรณ์สามารถใช้ได้แค่บางแอป
ถ้าเชื่อมต่อเข้า HUAWEI Vision S นั้น จะยังไม่สามารถเชื่อมต่อกล้องของ HUAWEI Vision S ได้ คาดว่าจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เพิ่มเติมในอนาคต
รีวิวที่ดีต้องมีราคา
HUAWEI MateBook D Series นั้นมีอยู่ด้วยกันสองขนาด นั่นคือ HUAWEI MateBook D14 และ D15 ตามขนาดของจอนั่นแหละครับ โดยราคาเริ่มต้น อยู่ที่ 22,990 บาท นั่นเองครับ ! ถือว่าราคาดีเลยสำหรับฟีเจอร์ที่เพียบพร้อมขนาดนี้ ! วางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 25 มีนาคม 2565
แต่ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ! เพราะวันนี้แบไต๋มีโปรมาบอก ! เมื่อซื้อ HUAWEI MateBook D14 หรือ HUAWEI MateBook D15 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 15 เมษายน นี้ รับฟรีไปเลย HUAWEI Band 6 และ HUAWEI Backpack เอ้า ! รออะไรกันอยู่ล่ะครับ รีบตามไปใช้โปรกันได้เลย ช้าหมดอดนะคร้าบ !