เดี๋ยวๆ ทีมงาน ราคานี้เขียนมาถูกต้องแล้วใช่ไหม HUAWEI Sound Joy ขายแค่เกือบห้าพัน แต่ให้เสียงได้แบบนี้เลย นี่มันน้อง ๆ Devialet Phantom เลยนะ

หลังจากที่ผมเคยรีวิว Devialet Phantom I ลำโพงราคาแสนกว่าบาทกันไป จนหลายคนทักมาถามว่า Devialet ทำลำโพงพกพาตัวเล็กๆ ออกมาบ้างไหม วันนี้เป็นจริงแล้วครับกับ HUAWEI Sound Joy ที่เขียนไว้ตั้งแต่หน้ากล่องเลยว่า Co-Engineered with Devialet คือแบรนด์เครื่องเสียงจากฝรั่งเศสนี้เป็นคนออกแบบระบบเสียงให้ เห็นแค่นี้ก็ต้องหวังว่าเสียงต้องดีแล้วแหละ แต่จะดีแค่ไหน แล้วมีฟังก์ชันอัจฉริยะแบบ HUAWEI ยังไงบ้าง วันนี้เราแบไต๋กันละเอียด

ดีไซน์

ดูดีไซน์กันก่อน HUAWEI Sound Joy นั้นเป็นลำโพงทรงกระบอก ดีไซน์ยอดนิยมของลำโพงสายสปอร์ต มีน้ำหนัก 680 กรัม ก็ไม่หนักเกินไป แต่ก็ไม่ได้เบาจนรู้สึกก๊อกแก็ง

ลำโพงรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือสีเขียว Spruce Green และสีดำ Obsidian Black เลือกซื้อตามความชอบได้เลย

วัสดุด้านนอกนี้เป็นผ้าทอแบบพิเศษ Ultra-3D ให้สัมผัสในการจับถือแบบผ้าเนื้อหยาบ ซึ่งก็ให้สัมผัสสาก ๆ แต่มีความนุ่มนวลแบบผ้าอยู่ด้วย จับแล้วรู้สึกดีครับ

ด้านบนของลำโพงนี้เป็นไฟวงแหวน สามารถเปิด-ปิดได้โดยกดปุ่ม Play/Pause ค้างไว้ 3 วินาที ซึ่งจะเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ระหว่างเล่นเพลง และสามารถใช้บอกระดับความดังของลำโพงได้ด้วยเวลาเรากดปุ่มเร่งเสียง-ลดเสียงด้านข้างนี้ครับ ปุ่มเด่นมาก!

ซึ่งเราแยกด้านบน-ด้านล่างของลำโพงนี้จากไฟวงแหวน นี่คือด้านบนนะครับ ส่วนด้านล่างจะมีขาตั้งที่มีช่องโปร่งแบบนี้เพื่อให้เวลาตั้งแล้วระบายเบสออกมาได้

ส่วนถ้าวางนอนจะมีปุ่มยาง 2 ปุ่มตรงนี้เพื่อให้ลำโพงไม่กลิ้งไปมา ซึ่งองศาการวางก็จะให้เสียงออกมาดีที่สุดด้วย
อย่างที่ผมเล่าไปว่า HUAWEI Sound Joy เป็นลำโพงสายสปอร์ต จึงมาพร้อมความสามารถในการกันน้ำระดับ IP67 ด้วย คือลงน้ำได้ 1 เมตรนาน 30 นาทีครับ เผื่อไปเปิดเพลงริมทะเลแบบที่ทีมงานแบไต๋เอาไปเทสต์ให้ดูครับ ลำโพงกลิ้งขลุก ๆ ในคลื่นเลย โดนน้ำเค็ม โดนทรายแต่ก็ไม่พัง ก่อนมานี้เอาไปล้างน้ำอีกรอบมาอีกรอบแล้วด้วย เสียงก็ยังออกดีเหมือนเดิมครับ

แต่ผมต้องย้ำว่าถ้าสุดท้ายลำโพงเกิดพังเพราะน้ำจริงๆ ก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันนะครับ ความสามารถในการกั้นน้ำนี้มีไว้ใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่ได้ให้คุณเอาไปเล่นเพลงใต้น้ำนะครับ

การเชื่อมต่อลำโพงเพื่อเล่นเพลงก็ง่ายมาก ถ้ามือถือของคุณรองรับ NFC เช่น HUAWEI P50 Pro ตัวนี้ แค่เอาหลังเครื่องไปแตะบริเวณที่มีไอคอนรูปคลื่นตรงนี้ ก็เชื่อมต่อได้แล้ว ใช้งานครั้งต่อ ๆ ไป เมื่อเปิดลำโพง Bluetooth ก็จะไปจับกับลำโพงเอง หรือจะสลับการเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ใหม่ ก็เอาหลังเครื่องมาแปะ NFC เหมือนเดิม ก็ได้แล้ว

ส่วนถ้าใช้มือถือที่ไม่รองรับ NFC เช่น iPhone ก็แค่กดปุ่มรูป Bluetooth นี้ค้างไว้ ก็จะเข้าสู่โหมดจับคู่ตามปกติ แล้วก็เปิดเมนู Bluetooth ของมือถือแล้วหาชื่อ Sound Joy เพื่อเชื่อมต่อได้เลย

สเปกเสียง

สเปกด้านเสียงของ HUAWEI Sound Joy ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet นั้นก็ต้องไม่ธรรมดาครับ มีเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง SAM หรือ Speaker Active Matching ที่มีอยู่ในลำโพงซีรีส์ท็อปอย่าง Devialet Phantom มาด้วย ซึ่ง SAM จะทำให้เสียงที่ออกจากลำโพงใกล้เคียงกับเสียงที่บันทึกมามากที่สุด

แล้วเห็นเป็นลำโพงขนาดย่อมๆ ภายในมีดอกลำโพง 2 ตัวนะครับ คือแถว ๆ โลโก้หัวเว่ยนี้เป็นไดร์เวอร์แบบ Full Range ให้เสียงทุกย่าน 1 ตัว แล้วเหนือขึ้นไปตรงนี้เป็นไดร์เวอร์เสียงสูงหรือ Tweeter อีก 1 ตัว

ส่วนด้านบนกับด้านล่างเป็น Passive Radiators โดยใช้ดีไซน์แบบ Push-Push จาก Devialet ให้แรงกระแทกบน-ล่างพร้อมกัน เพื่อหักล้างแรงสั่นสะเทือนจากเบสของลำโพงให้ลดลง เปิดบนโต๊ะไม้ โต๊ะก็ไม่ได้สั่นมากเมื่อเทียบกับความหนักแน่นของเสียงเบสที่ได้ ซึ่งระหว่างเปิดเพลง โลโก้ Devialet ที่ Passive Radiators จะเคลื่อนที่อย่างน่าชมเลย

จากแหล่งกำเนิดเสียงทั้ง 4 ในลำโพง ทำให้ HUAWEI Soundjoy ตอบสนองความถี่ได้ในช่วง 50 – 20,000 Hz คือให้เสียงเบสได้ลึกกว่าลำโพงไซส์นี้ทั่วๆ ไป แถมรองรับ Bluetooth 5.2 และรองรับ Codec เสียง SBC กับ AAC ด้วย ทำให้ส่งเสียง Bluetooth ได้อย่างมีคุณภาพครับ เชื่อมต่อกับ Android หรือ iPhone ก็ให้เสียงดีที่สุดอยู่

คุณภาพเสียง

คุณภาพเสียงที่ได้ บอกได้เลยเด่นตั้งแต่เบสที่ลงได้ลึก กระชับ หนักแน่นกว่าลำโพงไซส์นี้ทั่วไป หรือย่านเสียงสูงที่ขับออกมาได้สดใส แม้เป็นใช้แบบลำโพงตัวเดียวก็ยังให้รายละเอียดเสียงออกมาได้ดี คือเวลาฟังถ้าเราไม่เห็นตัวลำโพง ก็จะจินตนาการว่าลำโพงที่เล่นเสียงแบบนี้ได้ต้องตัวใหญ่แน่ ๆ เลยเซอร์ไพรส์เมื่อเห็นขนาดลำโพงจริง
ซึ่งเราสามารถปรับลักษณะเสียงได้ 3 โหมดในแอป HUAWEI AI Life โดยค่ามาตรฐานจะอยู่ที่โหมด Hi-Fi ซึ่งจะให้เสียงแหลมที่ปลายเปิดมากหน่อย ให้ประสบการณ์แบบคอนเสิร์ต อีกโหมดคือ Voice อันนี้เน้นเสียงพูดเลย เหมาะสำหรับการฟัง Podcast มากกว่า และแบบสุดท้ายคือ Devialet Mode ที่เสียงแหลมไม่ได้เปิดกว้างเท่า Hi-Fi แต่ให้รายละเอียดเสียงกลางและต่ำได้ดีขึ้น

ซึ่ง Devialet Mode ก็คือเสียงโทนเดียวกับ Devialet Phantom II ตัวที่โชว์อยู่นี้ ซึ่งราคาเริ่มต้นสูงกว่า HUAWEI Soundjoy 10 เท่า แบบเป็นลูกพี่ลูกน้องกันเลย เพียงแต่ว่าความโปร่ง ความลึกและรายละเอียดของเบสยังสู้รุ่นพี่ที่ใช้วูฟเฟอร์แท้ ๆ 2 ตัวมาอัดอากาศเข้าหากันไม่ได้นะ

ความดังของลำโพง

สิ่งหนึ่งที่ผมต้องบอกเกี่ยวกับ HUAWEI Soundjoy คือมันเป็นลำโพงที่เสียงดังนะครับ ใช้ในบ้าน เปิดไม่ถึงครึ่งก็ดังมากพอแล้ว ถ้าพูดในเชิงสเปกคือลำโพง 1 ตัวให้เสียงดังสุด 79 dB ที่ระยะ 2 เมตร หรือดังพอ ๆ กับเครื่องดูดฝุ่นสมัยก่อน

และลำโพงนี้ใช้สั่งงานด้วยเสียงได้ด้วยนะครับ กดปุ่มรูปไมค์เพื่อเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะจากสมาร์ตโฟนมาสั่งงานได้เลย หรือใช้เป็น Speaker Phone ก็ได้ด้วยนะครับ ใครโทรมาก็กดปุ่ม Play เพื่อรับสายได้เลย

ซึ่งคุณภาพเสียงจากไมค์ 3 ตัวของ HUAWEI Sound Joy เป็นแบบนี้ เวลาอัดเสียงไฟวงแหวนจะเป็นสีเขียวด้วย ผมเปิดเสียงรบกวนเสมือนว่าพูดอยู่ริมถนนไว้ด้วย ให้ได้ยินชัด ๆ ว่าถ้าไม่ใช่ห้องเงียบเสียงที่อัดได้จะเป็นยังไง ชอบไม่ชอบยังไง คอมเมนต์มาได้นะครับ

แต่เดี๋ยว ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้แค่ HUAWEI Soundjoy ตัวเดียว เราสามารถจับลำโพง 2 ตัวที่เปิดแล้ว มาเขย่าแบบนี้เพื่อให้เชื่อมกันแบบสเตอริโอ แล้วเอาไปวางไว้ในจุดที่ต้องการ เพื่อให้ได้เสียงสเตอริโอแบบกว้างขวาง ให้มิติเสียงดีมาก ซึ่งคุณสามารถพกลำโพงคู่นี้ไปที่ไหนก็ได้เพื่อสร้างประสบการณ์ฟังเพลงที่ดี เหมือนยกห้องฟังเพลงจากบ้านติดตัวไปด้วย หรือจะเชื่อมต่อ Bluetooth กับกล่อง Android TV เพื่อให้ดูทีวีแล้วเสียงกระหึ่มน้อง ๆ ซาวน์บาร์ก็ได้ครับ

แบตเตอรี่

อีกเรื่องที่ดีมากคืออายุแบตเตอรี่ หัวเว่ยเคลมว่าฟังต่อเนื่องได้นาน 26 ชั่วโมง เปิดทั้งวันทั้งคืนแบตก็ไม่หมด เพราะในลำโพงมีแบตขนาดใหญ่ 8800 mAh เราทดลองใช้วันละ 3-4 ชั่วโมงติดกัน 4 วัน แบตเตอรี่ยังลดไปราวครึ่งเดียวเอง ก็คือใช้ลืมชาร์จเลยแหละ

ซึ่งวิธีดูปริมาณแบตเตอรี่ก็ทำได้ง่าย ๆ แค่เปิดลำโพงแล้วกดปุ่ม power 1 ครั้ง ก็จะแสดงจำนวนแบตเตอรี่ที่เหลือผ่านวงแหวนไฟด้านบนนี้ครับ

ส่วนถ้าต้องการชาร์จ สามารถชาร์จผ่านช่อง USB-C ตรงนี้ได้ หัวเว่ยเคลมว่ารองรับความเร็วสูงสุด 40 W ชาร์จแค่ 10 นาทีก็ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมงแล้ว แต่เราทดสอบพบว่าถ้าใช้หัวชาร์จ USB-PD ทั่วไป จะชาร์จที่ความเร็ว 10 W ครับ ส่วนถ้าใช้หัวชาร์จ HUAWEI SuperCharge ที่มากับโน้ตบุ๊กหรือมือถือของหัวเว่ยถึงจะชาร์จได้เร็วประมาณ 40 W ครับ ซึ่งลำโพงไม่ได้แถมหัวชาร์จมาให้นะครับ ต้องหาหัวชาร์จ USB-C มาชาร์จกันเอง

แน่นอนว่า Sound Joy มาจากแบรนด์ HUAWEI ก็ต้องมีความสามารถในการเชื่อมต่อที่ดีด้วย คือนอกจากเราจะใช้ NFC แตะที่ลำโพงเพื่อเชื่อมต่อได้แล้ว สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ของหัวเว่ย เช่นสมาร์ตโฟนหรือโน้ตบุ๊กอย่าง HUAWEI Matebook D14 ตัวนี้ เพียงแค่เปิดลำโพงขึ้นมา ก็จะขึ้นหน้าต่าง Pop-up มาให้เราเชื่อมต่อได้ทันที

จุดสังเกต

อย่างแรกคือลำโพงนี้ไม่ใช่ลำโพงแบบ 360 องศานะครับ ถึงหน้าตามันจะเป็นทรงกระบอกก็เถอะ เสียงที่ดีที่สุดจะออกจากลำโพงด้านโลโก้ HUAWEI นี้ เพราะฉะนั้นเวลาใช้ก็หันลำโพงให้ถูกทางเพื่อให้เสียงดีที่สุดนะครับ

และอีกเรื่องคือตัวแอป HUAWEI AI Life ที่ใช้ร่วมกับลำโพงนี้เพื่ออัปเดตเฟิร์มแวร์ หรือปรับโหมดเสียงต่าง ๆ นั้นสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ทั้งบนสมาร์ตโฟน HUAWEI, Android และ iOS ก็จริง แต่บางทีก็มีปัญหาแอปไม่เชื่อมต่อกับลำโพง ทั้ง ๆ ที่ต่อ Bluetooth ได้แล้ว เสียงก็ออกที่ลำโพงแล้ว แต่แอปใช้ไม่ได้ซะงั้น โดยเฉพาะกับ iOS ที่ดูจะเชื่อมต่อยากหน่อยครับ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สุดท้ายรีวิวที่ดีต้องมีราคา HUAWEI Sound Joy ตั้งราคาไว้ 4,999 บาท ราคานี้ผมขอจัด 2 ตัวให้ได้เสียงแบบสเตอริโอไปเลยครับ ไม่ถึงหมื่น! ซึ่งถ้าซื้อในช่วง 15 ถึง 29 เมษายนนี้ จะได้สิทธิฟังเพลงจากคลังเพลง HUAWEI Music ฟรี 3 เดือนด้วยครับ ใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ HUAWEI Store, HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการครับ