‘Netflix TV’ พอเอิร์นจั่วหัวมาแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ทีวีที่เล่นแต่ Netflix หรอ ? แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ
วันนี้เอิร์นจะมาแบไต๋ Aconatic Netflix TV รหัส 50US400AN สมาร์ตทีวีจอ 50 นิ้วที่ราคาไม่ถึงหมื่น ! แล้ว Netflix TV มันคืออะไรกันแน่ ไปชมกันเลยค่า
คลิปนี้เป็นคลิปที่ 3 ในซีรี่ส์ ทีวี “3 ซีรีย์ – 3 แพลตฟอร์ม” ของทาง Aconatic แล้วนะคะ โดยที่ผ่านมา มีแพลตฟอร์ม Android TV ที่พี่หนุ่ยได้รีวิวไปแล้ว แพลตฟอร์มถัดมาคือแพลตฟอร์ม webOS TV ที่พี่แพนได้รีวิวตามมา และอย่างสุดท้ายก็คือแพลตฟอร์ม Netflix TV รุ่นประหยัดสุด ที่เอิร์นรีวิวอยู่นี่แหละค่ะ
ก่อนที่เราจะรีวิวตัวทีวีกัน หลายคนคงสงสัยใช่ไหมคะว่า Netflix TV คืออะไร NetflixTV คือ ทีวีที่ได้รับการรันตีจากเน็ตฟลิกซ์ ว่าจะสามารถรับชม Netflix ได้อย่างลื่นไหล ได้เวอร์ชั่นล่าสุด เวอร์ชัน 5.3 และได้รับการรับรอง Netflix Recommended TV ให้ทุกคนสามารถรับชมด้วยความคมชัดระดับ 4K ให้ภาพและสีสันที่สดใสเสมือนจริง ดูเป็นธรรมชาติ และรับชมความบันเทิงต่าง ๆ แบบไม่สะดุดนั่นเองค่ะ
จุดเด่นอย่างแรกที่เอิร์นเห็นเลยตั้งแต่เริ่มเปิดทีวีเลยก็คือความ ‘เรียบง่าย’ ของการใช้งานนี่แหละค่ะ เพราะว่าในทีวีนั้นมีมาให้ทั้ง Netflix และ YouTube มาให้เรียบร้อย โดยที่เราไม่ต้องลำบากโหลดอะไรเพิ่มทั้งนั้นเลยค่ะ
ตอนที่เอิร์นเปิดทีวีนี้ครั้งแรก ในหน้าจอก็จะให้เอิร์นนั้นล็อกอินไอดีของ Netflix จากตอนตั้งค่าเลยด้วยค่ะ ซึ่งหลังจากได้ลองล็อกอินไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้ามาหน้าหลักที่จะมีรายการหลัก ๆ ของ Netflix แทรกอยู่ในหน้าหลักของเราเลย สะดวกจริง ๆ ค่ะ
นอกจากนั้นบนรีโมตของ Aconatic Netflix TV ก็มีปุ่มที่ให้เรากดเข้า Netflix หรือ YouTube ได้ง่าย ๆ เลยด้วยนะคะ เดี๋ยวเอิร์นจะลองกดเข้าไปที่ Netflix ดูนะคะ นี่เลยค่ะ แล้วเราก็ไล่ดูหนัง ซีรี่ส์ของ Netflix ทุกเรื่องได้แบบ 4K HDR คมชัดและสีสดได้เลยด้วยน้า !
แล้วก็อย่างที่บอกไว้เลยค่ะว่า Aconatic Netflix TV นั้นมีปุ่ม YouTube บนรีโมตเลย เพราะงั้นถ้าเอิร์นอยากจะดู YouTube ก็แค่กดปุ่ม YouTube แค่นั้นเองค่ะ ก็จะเข้ามา Youtube ได้เลย แถมยังสามารถดูแบบ Premium หรือจะเชื่อมสมาร์ตโฟนของเรามาเปิดคลิปดูก็ได้ง่าย ๆ เช่นกันค่า แล้วก็ยังดูแบบ 4K HDR ได้ด้วยนะ
แม้ว่านี่จะเป็นสมาร์ตทีวีรุ่นประหยัดที่สุดของซีรี่ส์ทีวี 3 แพลตฟอร์ม แต่ทีวีรุ่นนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ Screen Cast ด้วยนะคะ วิธีทำก็ไม่ยากเลย เพียงแค่กดเข้าไปที่แอป Screencast ของทีวี ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ ก็แค่ใช้ฟีเจอร์ Wireless Projection หรือการฉายภาพแบบไร้สาย และก็จับคู่ให้เรียบร้อย อย่าลืมต่อ Wi-Fi เดียวกันทั้งคู่ด้วยนะคะ
ทีนี้พอเราต่อสมาร์ตโฟนออกจอแล้ว จะเอามาฉายอะไรจากสมาร์ตโฟนอย่างไรก็ได้เลยค่ะ จะเอามาร้องเพลงก็ได้นะคะ
โดย Aconatic Netflix TV ที่วางขายในท้องตลาด จะมีให้เลือก 5 ขนาดหน้าจอด้วยกันค่ะ เริ่มต้นที่ไซซ์ 32 นิ้ว 40 นิ้ว 42 นิ้ว 43 นิ้ว และ 50 นิ้ว ที่เอิร์นรีวิวอยู่นี่แหละค่ะ
โดยทุกรุ่นที่เป็น Netflix TV จะเป็นพาแนลแบบ VA ทั้งหมดเลยค่ะ ซึ่งจะมี Ram ขนาด 1 GB และก็หน่วยความจำ 4GB ค่ะ ด้านซอฟต์แวร์ จะเป็น Linux OS ของ NetRange ค่ะ
ทีวีทุกรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะรองรับความละเอียดขนาด HD Ready และ Full HD เท่านั้นนะคะ จะมีแค่รุ่นจอ 50 นิ้วตรงหน้านี้เท่านั้นที่จะมีความละเอียด 4K ซึ่งก็จะมีฟีเจอร์ที่เมื่อเราเปิดหนังหรือคลิปที่รองรับ HDR ระบบก็จะปรับโปรไฟล์ให้อัตโนมัติเหมือนรุ่นพี่เลย อย่างที่เอิร์นลองเปิดคลิป YouTube HDR ภาพก็จะปรับให้เองแบบนี้เลยค่ะ
ด้านวัสดุตัวเครื่องของ Aconatic Netflix TV รุ่น 50US400AN นั้นจะเป็นพลาสติกรอบตัวเครื่องเลยค่ะ แต่ก็จะมีขาตั้ง 2 ข้างที่จะเป็นขาคู่แยกกัน ส่วนขาตั้งนี้ทำจากเหล็กนะคะ
สำหรับ Port ในการเชื่อมต่อของทีวีรุ่นนี้อยู่ด้านหลังของทีวีนะคะ โดยจะมี ช่อง HDMI 3 ช่อง เป็นแบบธรรมดา 1 ช่อง แบบ ARC หรือเป็นทั้งอินพุตและเอาต์พุตเสียง 1 ช่อง อันนี้เหมาะกับการต่อออกซาวน์บาร์เลยนะคะ และอีกช่องเป็นแบบ UART นั่นเอง / USB 2 ช่อง สำหรับเสียบแฟลชไดร์ฟเพื่อเล่นไฟล์วิดีโอหรือเพลงต่าง ๆ / AV In 1ช่อง / พอร์ต LAN 1 ช่อง ใช้สำหรับต่ออินเทอร์เน็ต/ Audio Out 1 ช่อง และ Optical 1 ช่องค่ะ
แม้จะมีพอร์ต LAN สำหรับต่ออินเทอร์เน็ต แต่เอิร์นว่าทุกคนน่าจะต่อ Wi-Fi กันมากกว่านะคะ แต่ว่ารุ่นนี้จะรองรับแค่ Wi-Fi ที่ย่านความถี่ 2.4 Ghz เท่านั้นนะคะ
ข้อสังเกต
ต่อไปก็จะเป็นข้อสังเกตที่พวกเราชาวแบไต๋ นำมาฝากคุณผู้ชมอยู่เสมอเลยนะคะ อย่างแรกก็คือความสามารถในการเป็นสมาร์ตทีวีของรุ่นนี้ ที่อาจจะยังดีไม่เท่ารุ่นพี่ แอปสตรีมมิ่งอื่น ๆ อาจจะยังไม่สามารถใช้งานได้ แต่ก็สามารถใช้งานได้ครบถ้วนมากพอสำหรับคนที่ต้องการความง่ายในการใช้งาน ถ้าใช้งานแค่ Netflix Youtube และ Digital TV หรือเอาไว้ใช้ท่องอินเทอร์เน็ตก็ได้นะคะ
ต่อมาก็คือฟีเจอร์ Screencast เท่าที่ลองมายังใช้กับอุปกรณ์ ios ไม่ได้นะคะ คาดว่าทาง Aconatic น่าจะมีการปรับแก้ให้ใช้ได้ในอนาคตด้วยค่ะ อดใจรอกันหน่อยน้า
ส่วนขาตั้งของทีวีนั้น จะอยู่ห่างกันเป็น 2 ข้าง ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถวางบนโต๊ะที่แคบหน่อยได้นะคะ ต้องมีพื้นที่โต๊ะหรือชั้นวางที่ใหญ่พอสมควรด้วย แต่ถ้าเอาไปแขวนผนังละก็ ปัญหานี้ก็จะหมดไป แถมประหยัดพื้นที่อีกด้วยนะคะ
อย่างสุดท้ายก็จะเป็นด้านหลังของตัวทีวีค่ะ เนื่องจากสายของทีวีรุ่นนี้เป็นสายที่ไม่สามารถถอดออกได้ ดังนั้นถ้าสายของมันขาดขึ้นมา ก็จะเปลี่ยนสายได้ยากขึ้นด้วยค่ะ
รีวิวที่ดีต้องมีราคา
โดย Aconatic Netflix TV หน้าจอ 50 นิ้ว รหัส 50US400AN รุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 9,990 บาทเท่านั้นค่ะ โดยจะมีรุ่นที่ถูกกว่านี้ ขนาดจอ 32 นิ้วจะมีราคาเริ่มต้นที่ 5,990 บาทเท่านั้นค่ะ
แล้ว Aconatic Netflix TV นี้ยังรับประกันสูงสุด 3 ปีด้วยนะคะ และมีบริการ Home Service โดยเงื่อนไขและรายละเอียดก็จะแตกต่างกันไปตามรุ่นเลย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Aconatic World ได้เลยนะคะ
การมีทีวีฟังก์ชั่นดี ๆ ฟีเจอร์แบบจัดเต็มซักเครื่องนึงเนี่ย สามารถทำให้เรารับชมความบันเทิงต่าง ๆ ได้อินสุด ๆ แถมยังราคาสบายกระเป๋าอีกด้วยนะคะ ใครที่สนใจ หรืออยากสั่งซื้อ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่เฟซบุ๊ก Aconatic World ได้เลยนะคะ