ถ้าพูดถึง ASUS หลายคนก็คงรู้อยู่แล้วว่าเด่นเรื่องฮาร์ดแวร์และโน้ตบุ๊ก เป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก แต่รู้หรือไม่ช่วงหลัง ๆ มานี้ เขาก็เด่นเรื่องคอมตั้งโต๊ะด้วยเหมือนกัน เพราะมีโซลูชันหลายแบบ ทั้ง Desktop และ All-in-One ที่ตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา รวมการใช้งานในองค์กรเลย
และปีนี้ ASUS ก็ยิ่งเน้นเรื่องคอมตั้งโต๊ะมาก ด้วยการเป็นแบรนด์แรกในไทยที่ใช้ซีพียู Intel 12th Generation (อินเทล เจเนอเรชันที่ 12) ในคอมที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง ASUS S500TD และ S500SD ครับ สองรุ่นนี้จะน่าสนใจยังไง เดี๋ยวเรามา #beartai ให้ฟังครับ
ดีไซน์
เดี๋ยวนี้หลายคนมีสไตล์การจัดโต๊ะตามแบบของตัวเองครับ ทำให้ดีไซน์เป็นสิ่งที่ต้องดูเวลาซื้อคอมมาตั้งใช้งานบนโต๊ะ อย่าง ASUS S500TD ก็มีดีไซน์ที่ดูเรียบ ๆ เข้าได้กับหลายสไตล์เลย ครับ แต่อาจจะไม่เหมาะกับมินิมอลสักหน่อย เพราะไซซ์เท่ากับคอมทั่วไปครับ ไม่ได้กะทัดรัด แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีข้อดีเรื่องการอัปเกรดที่ทำได้ง่าย ทำได้หลายส่วน และสามารถระบายความร้อนได้ดี
แต่ถ้าอยากได้คอมที่ดูกะทัดรัด เข้ากับความมินิมอล ก็ต้องเป็น ASUS S500SD เลยครับ เพราะสลิมมาก วางตั้งก็ได้ หรือจะวางนอนแล้วเอาจอทับก็ดีครับ ช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะได้เยอะเลย ถึงอย่างนั้นก็ด้วยไซซ์ที่เล็กก็มีข้อจำกัดเรื่องการอัปเกรดการ์ดจอที่จะต้องเป็นแบบเล็ก (Low Profile) เท่านั้นครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ASUS S500TD ก็ดูโอเคแล้วนะครับ ใครมองหาประสิทธิภาพรวมถึงการอัปเกรดน่าจะเหมาะ ส่วนใครที่ต้องการความมินิมอล S500SD ก็ดูจะตอบโจทย์กว่า
สเปก
อย่างที่ผมบอกไปว่า คอมตั้งโต๊ะสองรุ่นที่ ASUS เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ก็จัดซีพียูเบอร์ล่าสุดอย่าง Intel 12th Generation ที่แรงกว่าเดิม มาให้ใช้เลย แถมยัง Custom เลือกสเปกได้ด้วยนะครับ
โดยในรุ่น S500TD เราจะเลือกว่าจะใช้เป็นซีพียู Core i5 กับ i7 และเลือกเพิ่มการ์ดจอแยก GT 730 ได้ด้วย
ส่วนรุ่น S500SD ก็มีตัวเลือกเป็นรุ่น Core i3 กับ i5 ครับ โดยรุ่นนี้เขาทำมาเจาะกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และการใช้งานในบ้านที่ต้องการประสิทธิภาพที่หลากหลายตามรูปแบบการใช้งานครับ
แต่ถ้าสเปกที่ซื้อมา วันหนึ่งเกิดไม่พอ เราก็สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ทั้งสองรุ่นเลยครับ โดยทำได้ในส่วนของ แรม หน่วยความจำ SSD และการ์ดจอแยกครับ
โดย S500SD นั้นก็มีการดีไซน์ออกแบบใหม่แบบ Tool-less design ให้สามารถแกะเปิดภายในเพื่ออัปเกรดได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการเปิดให้ยุ่งยาก
นอกจากประสิทธิภาพแล้ว คอมตั้งโต๊ะยุคนี้ยังต้องความทนทานด้วย เพราะหลายคนหรือหลายบริษัทชอบเก็บข้อมูลสำคัญ ๆ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายจากอุบัติเหตุ
คอมตั้งโต๊ะทั้งสองรุ่นจาก ASUS ก็ถือว่าสอบผ่านในเรื่องนี้นะครับ เพราะมีมาตรฐานความทนระดับกองทัพกับ MIL-STD-810H ที่สามารถทนความดัน ทนร้อน ทนเย็น ทนความชื้น ทนฝุ่น ทนแรงกระแทก เรียกว่าสมบุกสมบันเลยครับ
นอกจากนี้ตัวเก็บประจุ (Solid Capacitor) ภายในก็ยังเป็นแบบ “คุณภาพสูง” อายุการใช้งานนานกว่าทั่วไป ทำให้ไม่พังง่าย รวมถึงมี Power Supply หรือแหล่งจ่ายไฟที่มีความเสถียร แบบมาตรฐาน 80 PLUS ทั่วโลกยอมรับ
พูดถึงด้านความปลอดภัย จากการโดนแฮก ก็จะมี Trusted Platform Module (TPM) ระบบเก็บรหัสรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ของเครื่อง ไว้ในฮาร์ดแวร์หรือตัวชิปเลย ยากต่อการโดนแฮก และยังมีระบบล็อกการอ่าน/เขียนไฟล์ของพอร์ต USB ป้องกันการขโมยข้อมูลผ่านแฟลชไดรฟ์ รวมถึงช่อง Kensington Security ไว้ใส่สายล็อก ป้องกันการขโมยเครื่องคอมด้วยนะครับ
แม้จะทนหรือจะปลอดภัยอย่างไร แต่อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อครับ ส่งที่ต้องดูถัดมาเลยคือเรื่อง “ประกัน” ว่าให้มากี่ปี ครอบคลุมไหม
จุดนี้ประกันคอมตั้งโต๊ะของ ASUS ก็ถือว่าครอบคลุมอยู่นะครับ เพราะนอกจากประกันพื้นฐานแบบ Onsite Service ซ่อมให้ถึงที่ ที่มีมาถึง 3 ปีแล้ว ยังมี Perfect Warranty ประกันอุบัติเหตุในหนึ่งปีแรก ที่ครอบคลุมอุบัติเหตุจากการใช้งานหลากหลายแบบเลยครับ จะชนเครื่องตกโต๊ะ น้ำหกใส่ หรือไฟกระชาก อันนี้ก็ครอบคลุมครับ
ราคา
ASUS S500TD ราคาเริ่มต้นที่ 19,990 บาท
ASUS S500SD ราคาเริ่มต้นที่ 16,990 บาท
สุดท้ายเป็นเรื่องความสะดวกในการใช้งานครับ ปกติแล้วคอมประกอบ อาจต้องลง Windows และโปรแกรมจำเป็น ๆ เองซึ่งเสียเวลา
แต่คอมตั้งโต๊ะของ ASUS นั้น จะพร้อมใช้ทันทีหลังแกะกล่อง เพราะเขาลงสิ่งที่ต้องใช้มาให้ตั้งแต่โรงงาน ซึ่งก็มีระบบปฏิบัติการ Windows 11 รวมถึงในบางรุ่นก็มี Microsoft Office Home & Student 2019 หรือ 2021 แบบใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานของเครื่องด้วย นอกจากนี้ยังมี My ASUS โปรแกรมตรวจเช็กและแก้ปัญหา รวมถึงปรับการตั้งค่า ได้ในที่เดียว เรียกว่าสะดวกมาก ซื้อมาพร้อมใช้ เสียบปลั๊กแล้วเปิดได้เลย
ทั้งหมดนี้ ก็คือสิ่งที่น่าสนใจของ ASUS S500TD และ S500SD คอมตั้งโต๊ะรุ่นใหม่จาก ASUS