รวบรวมข้อมูลโดยคุณ Pook Sukonta
บทสรุปของเที่ยวบิน MH370 ถูกปล้นกลางอากาศ ผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คนไม
ตื่นเต้นเกินไปแล้วสำหรับเที่ยวบินมรณะ MH370 ที่หายไปเข้าสู่วันที่ 8 ตอนนี้ทางการมาเลเซีย กำลังจะออกแถลงการณ์ว่า ทฤษฎีโจรสลัดกลางอากาศนั้นไม่ใช่เรื่องสมมติอีกต่อไป (ทั่วโลกมั่นใจว่าใช่)
น่าแปลกใจเหลือเกินที่ประกาศจากทางการมาเลเซียแบบเป็นทางการ ออกมาช้ากว่าข่าวจากโลกภายนอก ฉุกใจตั้งแต่แรกแล้ว ว่าทำไมมาเลเซียถึงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ถึงเรื่องการสวมพาสปอร์ตของผู้โดยสารทั้ง 4 คน (รายงานมาแค่ 2 คน) รวมถึงมิสเตอร์อาลี คนที่ไปซื้อตั๋วด้วย (รู้กระทั่งชื่อแต่ไม่สาวต่อว่ามาจากไหน เป็นใคร) รวมถึงทูตยุโรปประจำประเทศมาเลเซียที่ mention แบบโกรธ ๆ ในวันแรก ๆ เกี่ยวกับพวกค้ายาและลักลอบเข้าเมือง
พ่อหนุ่มคนแรกที่สวมพาสปอร์ตเพื่อเดินทางไปพบแม่และย้ายถิ่นฐานไปเยอรมัน
คนทึ่สองคลุมเครือ ส่วนคนที่ 3 และ 4 ไม่มีรายงานอะไรเลยทั้งๆที่มาเลเซียได้แถลงแบบเก๋า ๆ ว่ารู้ชื่อแซ่อะไรหมดแล้ว
คำถาม รู้ได้อย่างไร?? เพราะหน้าตาและรายชื่อตรงกับ ลิสต์รายชื่อผู้ก่อการร้ายใช่หรือไม่ ?
เว็บไซต์ภาพถ่ายดาวเทียมที่ตอนนี้คนเกือบสามล้านคนช่วยกันค้นหา MH370
เกาะที่เป็นที่สงสัยว่าเป็นเป้าหมายที่เครื่องบินลำนี้จะไปจอด
อินเดียส่งสัญญานตรวจสอบหาเครื่องบินในทุกเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ เขาบอกว่าขอเวลาสามวัน และวันนี้เข้าสู่วันที่สองแล้ว (15 มีนาคม) ปัญหาคือตอนนี้มาเลเซียบ้ามาก กดดันให้ทุกประเทศช่วยเหลือแต่ตัวเองกลับไม่ส่งข้อมูลอะไรเลยให้ใคร จนเวียดนามโมโหจัดถอนกำลังออกเกือบหมดแลัว ส่วนอินเดียก็เริ่มส่ายหัววิ่งไปหลบหลังเสา ขยับแขนขาแบบฮอลีวูดแดนซ์อเวย์
เขียนไว้เมื่อคืนนะคะ (14 มีนา) เกี่ยวกับเส้นทางที่เป็นไปได้
- อันนี้เทียบกับเครื่องบินแอร์ฟรองซ์ตก
ขณะนี้นายกมาเลเซียกำลังเข้าพบกับญาติ ๆ อันแสนเกรี้ยวกราดของผู้โดยสารและลูกเรือนะคะ ส่วนสื่อจะเป็นมีตติ้งถัดไป แต่ขนาดนี้แล้วทีมงานของนายกยังชี้แจงกับสื่อล่วงหน้าว่า นายกมาเลเซียจะไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ห๊ะ!!!! ไม่ไหวจะเคลียร์
นายกมาเลเซียหน้าตาเหมือนสนธิลิ้มเวอร์ชั่นปีนัง
ทั่วโลกกำลังรอนายกแถลงการณ์
ทางการสหรัฐแจ้งว่า ถ้าเครื่องบินตกลงในมหาสมุทรอินเดียจริงนี่เรื่องใหญ่มาก เพราะทะเลลึกถึง 7 กิโลเมตร การตามกู้ซากนี่แบบ โคตรๆๆๆๆๆยาก (สื่อใช้คำนี้ Dramatically more difficult) บอกลาสายการบินมาเลเซียได้เลย ขณะสถานการณ์ปกติ เจ๊ง 4 ควอเตอร์รวด ละนี่มาเจอแบบนี้อีก ถ้าชัดเจนแต่แรก ทุกคนสงสารและอยากช่วยเหลือเต็มที่ อิมเมจดีไม่หมกเม็ด ซึ่งก็น่าสงสารพนักงานกว่า 19000 คนรวมถึงญาติพี่น้องที่จะกระทบกันไปทั่ว ถ้าสายการบินปิดตัวลง
กัปตันหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ นอกจากข่าวที่ว่าเขาหมกมุ่นและเป็นโอตาคุเครื่องบิน ก็ไม่มีข่าวอะไรอัพเดท
ส่วนโคไพรอตชื่อฟาริค ที่พาสาวเข้า Cockpit เมื่อสองปีก่อนิายุ 27 ปีเป็นลูกชายของครอบครัวตะกูลเส้นใหญ่
นี่เป็นครั้งแรกนอกจอหนัง ที่ข่าวโคมลอยแทบทุกอันแซ่บไม่เท่าเรื่องจริง คือมันเหนือจินตนาการไปอีก และมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน เดี๋ยวจะมาสรุปย่อเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้
ยัดเยียดข้อกล่าวหาใส่เครื่องบินละแสดงตนเป็นฮีโร่ คือวิถีอเมริกา ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ตอนยิงเครื่องบิน
อิหร่านทิ้ง แล้วสุดท้ายเจออิหร่านแก้แค้นซัดเครื่องบินแพนแอมตก
และรอบนี้มีข่าววงในหลุดออกมามากเกินไป แอบคิดมาตั้งแต่วันแรก ๆ เลยว่าน่าจะเป็นอเมริกาเพราะเน้นส่งข่าวให้กับสื่อที่ไม่ค่อยกรองข่าว เน้นความรวดเร็วแบบดิจิตอล ( Mirror เอย Fox News เอย) เพราะทั่วโลกรอขย้ำการอัพเดท ถ้าเมกาทำผิด ไม่ปล่อยข่าวออกมาทุกๆชมแบบนี้แน่ ปัญหาคือ มาเลเซียอมถ้วยอยู่ ไม่บอกใครๆตั้งแต่วันแรก ไม่งั้นเจอไปแล้ว ที่สงสัยคือ มาเลเซียเจอข่มขู่อยู่หรือเปล่า ????
แถลงการณ์สดจากนายกมาเลเซียค่ะ
PM Razak addresses the media:
“Seven days ago the flight disappeared. We realise this is an excruciating time for the families for those on board. Mo words can describe the pain they must be going through. Our thoughts and our prayers must be with them.”
“As of today 14 countries 43 ships and aircraft are involved in the search.
“I want to thank all the governments for their help.
“We have shared information in real time with authorities who have the necessary experience to interpret the data. We have been working non-stop to assist the investigation and we have put our national security second in the search or the plane.”“We followed every credible lead. Sometimes these leads have led nowhere.
“There has been intense speculation. We understand the desperate need for information.
“But we have a responsibility to the investigation and the families to only release information that has been cooborated.”ที่มา:www.mirror.co.uk
สรุปคือ นายกแถค่ะ ด้วยการไม่ใช้คำว่าเครื่องถูกปล้น แต่ใช้คำว่าถูกบังคับด้วยบางคนบนเครื่องบิน
แอร๊ยยยย เมิงมาจากช่อง 7 ใช่ไหมอินายก!!!!
“Radar data showed that from this point onwards a plane believed to be MH370 did turn back and turned back in a westerly direction before turning north west. The prime minister said this new information had led to the ending of the search operation in the South China Sea.
He said two new huge search areas had been opened up with ‘a northern corridor heading towards Europe from Turkmenistan to Thailand, with the other stretching from Indonesia to the southern Indian Ocean.
ตรงตามที่สุคนธาคิดค่ะ อีนายกเมิงหลอกใช้เวียดนามกะจีนให้ค้นแทบพลิกทะเลจีนใต้เพื่อ!!!!!!!!!!!!
ข้อมูลนี่คือได้รับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาว่าสัญญาณเครื่องบินถูกตรวจจับได้โดยดาวเทียมอินมารแซทตอนเวลา 8:11
ตอนนี้มีตัวละครกลิ่นแปลกๆดังนี้
1 กัปตัน
2 สวมพาสอีก 2 คน
ส่วนโคไพลอตตัดทิ้งไปเลยตามแบบหนังฮอลีวู้ดเพราะมีข่าวมากไป เช่นพาสาวเข้า Cockpit ตอนเทคออฟและแลนดิ้ง แต่กลับมีภาพแค่ถ่ายคู่กัน
ในอาคาร สังเกตฉากหลังนะ มันค็อกพิทตรงไหนแว้ (ดูดิสเครดิตมากกก) แถมบอกบ้านรวย เจ้าชู้ทั้งๆที่หมั้นแล้ว บลาๆ ดูยัดเยียดข้อหาไงไม่รู้
ตอนนี้มีหลายคนบอกว่าผู้ร้ายน่าจะเป็นอเมริกา แบบขโมยข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ไอทีไรงี้ โดยเอาเครื่องไปจอดที่อเมริกา บลาๆ
ขอตอบแบบไม่รู้อะไรมาก แต่ปีนึงบินหลายหมื่นกิโลเมตร ว่าขนาดนางบินจากไทยไปแค่ญี่ปุ่น 6-7 ชม. บินจากออสเตรเลียไปไทย 9ชม จากนูเมียไปไทย ชมบิน14ชั่วโมง ละดูแผนที่โลกละคิดดูนะ เครื่องบินบรรจุน้ำมันบินได้เต็มที่ไม่เกิน 8 ชม บินตรงไปทางเวียดนาม เสียเวลาไป1ชมแล้วหักกลับลงมาอีกเหลือ 6 ชมกว่า จะไปเมกาไงไหว โอเคล่ะถ้าไปฮอลีวู้ดรัชดาพอได้อยู่
สีดำตรงใต้ขวานทองไทยแลนด์อะมาเลเซียจะบินยังไงไปสีเหลืองโดยใช้เวลา 6 ชม.
ต่อให้มีทอมครูส มันก็มิชชั่นอิมพอสสิเบิ้ลไปแมะ
ส่วนหายไปในหลุมดำเบอร์มิวด้ายิ่งไปกันใหญ่ ข้อหนึ่ง จะไปทำไม๊ ข้อสองคือ น้ำมันไม่พอ
และฝ่าไปทางนู้น โอกาสที่จะเจอเครื่องบินพาณิชย์ และดาวเทียมดวงอื่นตรวจจับได้มีเยอะด้วย
มีข่าวนึงพูดถึงสภาพจิตของลูกเรือด้วยนะทดข้อมูลนี้ไว้ในใจด้วย คำพูดเล็กๆ อีกสามวันมันชอบกลายเป็นเรื่องใหญ่
เนื้อข่าวคือ สภาพจิตใจของลูกเรือและนักบินปกติดี ( เห็นมาเลให้ข่าวว่าปกติทีไร ชิหายตัลล๊อดดด )
เราดูตัวละครที่น่าสนใจบนเครื่องกันดีกว่าเริ่มจากสัญชาติของผู้โดยสารบนเครื่องนะจ๊ะ
China 152 plus one infant, Malaysia 38, Indonesia 12, Australia 7, France 3, US 3 plus one infant, NZ two, Ukraine two, Canada two, Russia 1, Italy one, Taiwan one, Netherlands one and Austria one.
คนจีน 152 คน และเป็นเด็ก 1 คน, คนมาเลเซีย 38 คน, คนอินโดนีเซีย 12 คน, คนออสเตรเลีย 7 คน, ฝรั่งเศส 3 คน, อเมริกัน 3 คนและมีเด็ก 1 คน, นิวซีแลนด์ 2 คน, ยูเครน 2 คน, แคนาเดียน 2 คน, รัสเซีย 1 คน, อิตาเลี่ยน 1 คน, ไต้หวัน 1 คน, ฮอลแลนด์ 1 คนและคนออสเตรีย 1 คน
นี่สัญชาติตามพาสปอร์ละมั้งเนี่ย เพราะมีอิหร่านอีกสองคนนี่นา
มีข่าวที่น่าสนใจอีกอันค่ะว่ามีโอกาสที่สงครามครั้งนี้อาจจะข้องเกี่ยวกับวงการไอที หรือเรียกว่า CYBER WAR ขนลุก leak แต่ละอันที่หลุดมานี่คือแบบยังกับหนังฮอลลีวูด อันนี้ฟังหูทวนลมไปก่อนนะ
แหล่งข่าวระบุมาว่า มีสงครามไซเบอร์ที่สร้างคลื่นรบกวนระเบิดปรมาณู เรียกว่า Stuxnet ตามภาพนะ ลองค้นหาในเน็ต
ดูจ้ะ เพราะเราก็ไม่ค่อยเข้าใจไอที Pongsuk Hiranprueck พี่หนุ่ยเคยได้ยินบ่
บรรยากาศของการไฮแจ๊คครั้งนี้ คล้ายๆหนังเรื่องนี้ยังไงไม่รู้เนาะ (Con Air)
ยังไม่ได้รายงานเรื่องสองเส้นทางที่ MH370 น่าจะไปเลยเนาะจากทวิตเตอร์นะคะ
วงในคือสถานที่ๆสามารถไปได้ใน4ชม วงนอกคือน้ำมันพาไปได้ไม่เกินวงนี้
อันนี้เป็นรายงานจากรัฐบาลนะคะ ถึงสองที่ๆมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบินจะถูกไฮแจ็คไปลง อันแรกคือขึ้นไปทางเหนือของประเทศไทย ส่วนอีกที่คือไปชายแดนคีกีร์สถานหรือจีน
ข่าวที่ออกมาบอกว่า นักบินพาสาวเข้าค็อกพิทนี่คือออกมาเบรคการโจมตีข่าวว่า คนที่ปล้นเครื่องพร้อมจับตัวประกันผูัโดยสาร 239 คน อาจจะเป็นคนในหรือเปล่า เพราะด้วยกฏใหม่ที่ควบคุมไม่ให้บุคคลอื่นเข้าไปที่ cockpit ง่ายนักหลังจากเกิดเหตการณ์ 09/11
เหตุการณ์เครื่องบินขนาดยักษ์หาย มันดูเป็นเรื่องแปลก สำหรับพวกเรามนุษย์ GEN ME ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ล้ำโลก ขนาดไอแพดหายหาไม่เจอ เรายังสามารถแทรกกิ้ง หาด้วยไอโฟนอีกอันที่อยู่ข้ามโลกอีกเครื่องหนึ่ง ทุกสิ่งดูง่าย ดังใจนึก บางครั้งคิดถึงคนที่อยู่กันไกลสุดปลายฟ้า นวัตกรรมทันสมัยหลายหลากชนิด ทำให้เราพูดคุยกันได้ เห็นหน้ากันอย่างใกล้ชิด ประหนึ่งโลกกว้างขนาดห้องเรียนถูก ย่อหดมาเหลือขนาดเท่ากับลูกปิงปองในมือพี่ตูนบอดี้แสลม แต่พอย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์เครื่องบินพาณิชย์และคาร์โก้หาย ปรากฏว่ามีให้ดูเพียบเลยค่ะตั้งแต่ปี 1947 เป็นต้นมา เดี๋ยวสุคนธา จะคิดเฉพาลำเด็ดๆน่าสนใจมาให้ดูนะลำแรกที่อยากเปิดประเด็นคือ เครื่องบิน B47 สัญชาติเดียวกับประธาธิบดีโอบาม่า หายไปจาก น่านฟ้าระหว่างบินจากฐานทัพ Macdill Air Force ในฟลอริดาไปสู่ Ben Guerir ในประเทศโมร็อคโค พร้อมระเบิดนิวเคลียร์และอาวุธหนักมากมายพร้อมกับนักบินอีกสามคน ไม่มีใครได้รับรู้ชะตากรรมของเครื่องบินและนักบินอีกเลย เหมือนกับเครื่องบินอีกลำ สัญชาติเดียวกัน ที่บินในประเทศด้วยซ้ำ ด้วยสภาพอากาศเลวร้ายไม่สมควรแม้กระทั่งเดิน จากในบ้านไป 7-11เครื่องจมหายไปพร้อมกับชีวิตของผู้โดยสาร 58 คน และนั่นเป็นมหันตภัยทางอากาศที่คร่าชีวิตคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกัน (แปลจากนสพ NY DAILYNEWS)
เครื่อง บิน VARIG B707 (รุ่นเดียวกับในภาพ) หายไปพร้อมลูกเรือ 6 คนพร้อมภาพวาดจากศิลปินชื่อดังเชื้อสายบราซิลเลียนญี่ปุ่น ซากเครื่องและซากศพของลูกเรือถุกพบห่างออกจากเส้นทางบินไปถึง 1000 ไมล์ในโฮโนลูลู
จำได้กันไหมเอ่ย ว่ามีบุคคลหนึ่งที่ตกเครื่อง MH370 เขาคนนั้นชื่อ Greg Candelaria ผู้บริหารจาก IBM เมืองฮุสตัน หมอนี่ใช้แพคเกจคนดีผีคุ้มระดับบียอนด์ แพลตตินั่มยอดเพชรฉัตรเจ็ดไทเทเนี่ยมยอดฟ้ารึไร ถึงตัดสินใจไม่บินไปประชุมที่ปักกิ่ง แล้วสวีตดินเนอร์กับเมียด้วยนะไม่ใช่กิ๊กแทน ดวงคนมันไม่ถึงฆาตอะเนาะ สุดยอดไปเลย
ส่วนอีกคนลางไม่ดี เขาชื่อ พอล แฟรงค์ หนุ่มวิศวรเครื่องกลจากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ผู้สมัครงานผ่านโปรเจคต์ dream Job ไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้นในประเทศมองโกเลีย ทิ้งแหวนและของมีค่าให้ลูกชายวัยสามขวบ พร้อมฝากลากับเมียรักไว้ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ขอให้มอบแหวนให้กับลูกชายคนโตเอาไว้แต่งเมีย T-T พี่คะคนไทยถือมากนะพูดเป็นลางแบบนี้ก่อนบินง่ะ
เคยเขียนให้อ่านเกี่ยวกับอาชีพที่มันกำเนิดขึ้นมาในยามที่คนหมดหวัง และต๊อแต๊ ใช่ค่ะ (ใช่กะใครวะ) หมอดูและหมอผี ขนาดมาเลเซียยังมีพิธีกรรมไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มาให้เห็นในวันที่เทคโนโลยีตอบโจทย์ได้ไม่ทันใจพอ หมอผีมาเลกำลังทำพิธีอะไรบางอย่างให้กับเที่ยวบิน MH370
อีกคนนึงที่เป็นพ่อหมอโหรเทพจากประเทศไนจีเรียผู้เคยทำนายเหตุการณ์ดั่งมองเห็นอนาคต ขออนุญาตโควทข้อความตัวเองเมื่อสามวันที่แล้วมาแปะนะ (12 มีนา) “ต่อให้เป็นประเทศที่เจริญแค่ไหน และผู้คนมีการศึกษาเพียงใด ในวันที่เราหมดหวัง และเทคโนโลยีไม่สามารถบันดาลคำตอบให้เราได้ทันใจ จะมีอาชีพนึง ที่เป็นที่พึ่งยามทุกข์และกลายเป็นไวรัลทันตาเห็น อย่างตอนที่มีไฟไหม้ที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท หมอดูที่หายหน้าหายตาไปโผล่มากันเพียบ และในขณะนี้ทั่วโลกกำลังสนใจบุคคลผู้นี้ค่ะ J.B.Joshua ชายหนุ่มผิวสีจากประเทศไนจีเรีย ผู้ดำเนินรายการทางศาสนา ผ่านช่องสัญญานดาวเทียม ทำไมผู้คนถึงสนใจ เพราะเขาเคยทำนายการระเบิดที่บอสตันเอย ผลบอลแมทช์ต่าง ๆ เอย และเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มากมาย และครั้งนี้เราทำนายเรื่องเครื่องบินตกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 อีกด้วย”
ตอนนี้ก็ได้แต่คาดเดาไปต่างๆนาๆ พอไม่มีข่าว MH370 เรามาผูกประเด็นไปหาเรื่องราวเก่าๆในอดีตที่เคยเกิดขึ้นดีกว่านะ ในเมื่อเที่ยวบินนี้มีตัวละครลับทั้งจากอเมริกาและอิหร่าน งั้นจะไม่พูดถึง คดีวินาศกรรมเครื่องบินแพนแอม 103 หรือที่เรียกกันว่า Lockerbie Bombing ก็ดูจะตกเทรนด์ ที่สุดท้ายถึงแม้ทางการได้จับกุมและคุมขังผู้ก่อการร้านชาวลิเบีย ชื่อนาย Abdelbaset al-Megrahi หลังจากตามสืบอยู่หลายปีก็ได้ชื่อผู้จ้างวาน ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยชื่อ อาลี อัคบาร์ โมทัสเชมี หมอนี่เป็นพวกหัวรุนแรงเลยล่ะ นางแค้นอเมริกามาก ๆ ที่บังอาจมายิงเครื่องบินของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ก็เลยจ้างนายอับเดล บาเซ็ท ให้ก่อวินาศกรรมในครั้งนี้จนทำให้เครื่องแพนแอมตกสู่เขตมวลชน ชื่อ ลอคเคอร์บี้ ประเทศสกอตแลนด์ Pan Am 103 ในภาพนี้บินจากแฟรงก์เฟิร์ตไปดีทรอยต์ บรรจุผู้โดยสารรวมลูกเรือ 259 คน แถมชิ้นส่วนใหญ่จากเครื่องบินตกเข้าสู่เมืองลอคเคอร์บี้ ประเทศสกอตแลนด์ เป็นผลให้มีผู้ที่อยู่ในเขตชุมชนตายเพิ่ม11คน
ในเหตุการณ์เครื่องบินสูญหาย MH370 ปฏิบัติการณ์พลิกฟ้าล่าเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย Live อันนี้ บ่องตงเลย ไม่รู้จะเชื่ออะไรดี ข้อมูลสุดอภินิหารเหนือจินตนาการแต่ละอัน พอมาอีกวันมันกลายเป็นเรื่องจริงที่มีตัวหนังสือจาง ๆ To be continue ตัลหล๊อดด อ่านแล้วก็คิดเอาเองละกันนะ
ตามเคย ผู้ร้ายในเรื่องถุกคาดคะเนว่าเป็นมะกันอีกแล้วจ้า
โดยรายงานรับจากรัฐบาลรัสเซียที่อ้างว่า MH370 ใช้ขนบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ไปปักกิ่ง และถูกฝูงบินโอบามาไล่ล่าไปทางตะวันตก มันจะเป็นหนังไปไหมเนี่ย โอ้ยยยย สุคนธาเลยลองตรวจสอบดูแบบง่ายๆด้วยอากู๋ระเบิดนิวเคลียร์ที่หนักสุดในโลกมีขนาดเท่ากับลูกละ 21 ตัน เครื่องบินขนาดใกล้เคียงขนได้ 121 ตัน น้ำหนักผู้โดยสาร 239×70 กิโลกรัม ได้ 16.1 ตัน น้ำหนักกระเป๋าเต็มพิกัด 40 x 239 ได้ประมาณ 10 ตัน อุปกรณ์ต่าง ๆ และอื่น ๆ บวกลบยังไงก็พอมีความเป็นไปได้นะ
ตายละกรู ต่อไปบินไปไหน ฉันต้องระแวง อาวุธสงครามหมกเม็ดใต้เครื่องรึเนี่ยฮือออออออ
ต่อไปฉันจะบินแต่ในเครื่องที่ระบุในตั๋วว่า Heavy Weapon and Nuclear Free!!!
อันนี้รายงานต่อนะจากภาพต่อเนื่อง
ภาพสุดท้ายจ้ะ
มาต่อเรื่องเครื่องบินตกในอดีตกันดีกว่า
แพนแอมที่ตกดูอหร่านและลิเบียเล๊วเลว แต่คนเริ่มเป็นอเมริกาจ้า
กรณีเครื่องบินสายการบินอิหร่านเที่ยวบิน IR655 โดนเรือรบอเมริกันยิงตกปี 1988 นั่น เรือรบอเมริกาอ้างว่าเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินรบ บอกว่าส่งสัญญาณเตือนไปแล้วตั้งหลายหนแต่ไม่ได้รับการตอบรับ (นักบินคิดว่าเรือรบอเมริกาเตือนเครื่องบินรบอิหร่าน ที่บินอยู่แถบนั้น) หนักกว่านั้นคือ ศาลอเมริกันบอกว่าไม่ต้องชดใช้ใดๆ เพราะถือว่าอยู่ในสงคราม (ช่วงก่อนหน้านั้นอิรักกับอิหร่านรบกัน) ทั้งๆ ที่เครื่องบินโดนยิงตกขณะอยู่ในน่านน้ำอิหร่านด้วยซ้ำ
IR655 เครื่องบินของอิหร่านที่ถูกยิงตกเมื่อวันที่ 3 กค 1988 นั้น (ก่อนวันชาติอเมริกา 1 วัน) สรุปว่าเมกาชดใช้ค่าเสียหายให้ 61.8 ล้านเหรียญนะ ตะกี้ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเพราะอยากรุ้ทำไมอิหร่านโกรธนักโกรธหนา เลยถึงบางอ้อว่าเพราะเมกันบุกไปที่เขตการบินของอิหร่าน แถมยิงตกลงในน่านน้ำอิหร่าน และไม่ออกมาขอโทษขอโพยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินพานิชย์ที่บินในเส้นทางเดิมคือ เตหะราน – ดูไบ อิหร่านถึงโกรธเกลียดชนิดไม่เผาผี และจ้างวานให้ก่อวินาศกรรมแพนแอมลำที่ตกในสกอตแลนด์ ส่วนในภาพปลากรอบคือ มิสไซล์นำวิถี หรือที่เรียกว่า Surface-to-Air Missile(SAM) ที่ใช้ยิง IR655 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 290 คนตายเรียบ แถม 66 คนในนั้นเป็นเด็กด้วยล่ะ ;(
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมที่ทำลายความน่าเชื่อถือของมาเลเซีย
คือ มีการตรวจพบสัญญาณ ACARS (Aircraft Communications Addressing and Reporting System) ซึ่งเจ้าสัญญาณตัวนี้อาจจะถูกส่งออกมาจากกัปตันหรือโคไพลอต 14 นาทีก่อนเครื่องจะหายไปจากจอเรดาร์ ซึ่งสัญญานตัวนี้อาจจะเป็นการขอความช่วยเหลือก็ได้ แต่ทำไมทางการมาเลเซียถึงอุบงำไว้ไม่ขยายข่าวตั้งแต่แรก
บิ๊ก ทอ.ไทยบอกว่าไม่มีการบินผ่านน่านฟ้าไทย แต่บิ๊กทหารเรือกลับส่ง เรือลำเดียวที่ใช้ช่วยค้นหา MH370 ไปสำรวจทะเลอีกฝั่งที่อยู่ไกลกว่ามากแหม่…. ไปนัดกันก่อนออกสื่อหน่อยนะพี่สองบิ๊ก คิๆ
เทียบกับเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อไม่นานนี้บ้างนะจ๊ะ
“เมื่อวานอ่านหนังสือพิมพ์ของอังกฤษ เขาเทียบกับกรณีแอร์ฟรานซ์ที่ตกหายไปแล้วใช้เวลาสองปีกว่าจะหากล่องดำเจอ ถึงรู้ว่าเป็นความผิดพลาดของนักบินผู้ช่วย เพราะตอนนั้นกัปตันต้องไปพักตามกำหนดการณ์ปกติ เหตุการณ์เกิดขึ้นแค่ไม่กี่นาที หลังจากนักบินผู้ช่วยบอกผู้โดยสารว่าให้รัดเข็มขัดเพราะจะเจอสภาพอากาศแปรปรวน หลังจากนั้นอีกไม่ถึงสิบห้านาทีคนบนเครื่องก็น่าจะตายเรียบ
คือกว่านักบินผู้ช่วยจะเรียกกัปตันมาแก้ปัญหา ก็สายเกินไป พอกัปตันมาถึงก็บอกว่า พวกคุณทำบ้าอะไรกัน หลังจากนั้นอีกไม่ถึงสองนาที เราก็ได้ยินนักบินผู้ช่วยพูดขึ้นมาก่อนทุกอย่างจะหายไปคือ
“Damn it, we’re going to crash… This can’t be happening (บ้าจริง! เครื่องบินกำลังจะระเบิด เรื่องนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น !)”
Airfrance 447 เที่ยวบินของสายการบินแห่งชาติฝรั่งเศสบ้านเกิดสามีเดี๊ยนเองนะคะ เกิดขัดข้องและตกลงกลางทะเลเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2009 เที่ยวบินมรณะนี้เดินทางจาก ริโอ ประเทศบราซิลสู่ปลายทางคือ สนามบินชาร์ลเดอโกล แห่งเมืองปารีส เครื่องหายไป 5 วันกว่าจะตามเจอ แต่หาสาเหตุไม่ได้จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2011 หลังตามกล่องดำเจอ จึงพบว่าเกิดจากการที่กัปตันพักผ่อน (ตามกำหนดการ) ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น โคไพลอตก็ควบคุมอะไรไม่ได้ แพนิคสุดๆ เนื่องจากตัวควบคุมแรงดันอากาศมีน้ำแข็งเกาะจนทำให้แผงควบคุมการบินใช้การไม่ได้ เครื่องเลยเข้าสู่ภาวะแรงอัดอากาศโจมตีเข้าทุกทาง ลองนึกถึงเวลาเราขับรถแบบไม่มีพวงมาลัย เบรค ครัชพังหมด แค่คิดก็สยิวกิ๊วละ
ปล ภาพคือชิ้นส่วนเครื่องบินห่างจากจุดตกไป 1200 กิโลเมตร
ส่วนภาพนี้คือชื่อชิ้นส่วนต่างๆบนเครื่องบิน
เผื่อใครอ่านข่าวจะได้รู้ว่า พาร์ทที่เขาพูดถึงคือส่วนไหน
มีข่าวความคืบหน้าที่น่าสนใจค่ะ
มีรายงานข่าวจากทางการมาเลเซียว่าเครื่องบิน MH370 ถูกบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญทางการบินเจตนาบังคับให้เครื่องบินสูงเกินกว่าระดับเพดานบินสูงสุดที่เครื่องบินโบอิ้ง 777 สามารถบินได้ ข่าวบอกว่าบินไปถึง 45000 ฟุตเลยนะ แล้วบินต่ำลงมาที่ 23000 ฟุต แถมยังบินวกวนอย่างมีนัยยะ หลังจากข่าวนี้ออกมา ก็ทำให้ความหวังของคนทั่วโลกสปาร์คกิ้งขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าถูกจี้ ก็ยังดีกว่าตกลงกลางทะเลเพราะเครื่องยนต์ขัดข้อง
ส่วนอีกทฤษฎีที่เหนืออภินิหารและกำลังเป็นไวรัลคือ เครื่องอาจจะถูกสุดยอดแฮคเกอร์ผู้ที่บินไปด้วยกับ MH370 โจรกรรมมือถือ ดร Sally Leivesley ผุ้เชี่ยวชาญการต่อต้านวินาศกรรมและก่อการร้าย ชาวอังกฤษได้ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ที่แฮคเกอร์จะเจาะเข้าระบบการบินและเปลี่ยนเส้นทางการบิน รวมถึงความเร็ว และระดับเพดานบิน
ข่าวอันนี้แซ่บกว่าค่ะ
เกี่ยวกับคุณพี่กัปตันที่มีประวัติแสนน่าสงสัย สุคนธาเคยบอกแล้วว่า สื่อทุกที่ขุดรากถอนโคนทุกสิ่งที่เกี่ยวกับ MH370 แต่ทำไมประวัติของกัปตันกลับมีมาให้เราอ่านน้อยเกินไป
รายงานล่าสุดกล่าวว่า พี่กัปตันผู้มีระบบจำลองการบินในบ้านผู้แสนน่ารักอบอุ่นสุดขีดกับครอบครัวและทุกคนผู้มีอายุ 53 ปีผู้นี้ แท้จริงมีความสนิทสนมและสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมาเลเซีย รวมถึงเป็นติ่งของผู้นำฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลที่ถูกข้อหา ลักเพศ!!!! โอ้วแม่เจ้า คดีแบบนี้ยังมีในประเทศที่มีอาณาเขตติดกับประเทศไทยที่มีอิสระในการเลือกเพศอันดับต้น ๆ ของโลกนี่มันเป็นอะไรที่ออฟพงษ์ศักดิ์แทบจะจิกขาและร้องด้วยเสียงกระเส่าว่า เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย
เขาเคยกล่าวว่าเขาไม่เชื่อโดยเด็ดขาดว่าผู้นำที่เขารักเป็นพวกผิดเพศ และถูกปรักปรำจากรัฐบาล รวมถึงรักและเชื่อใจสุดชีวิตกับผู้นำคนที่โดนจำคุก
ส่วนนี่คือภาพรันเวย์ที่ MH370 สามารถไปจอดได้ค่ะ
ประวัติย่อผู้โดยสารและลูกเรือรวมถึงบุคลที่ถูกอ้างอิงว่าเกี่ยวข้องกับ MH370 ร้อนแรงดั่งมาม่าต้มยำกุ้งคลุกพริกกระเหรี่ยงโรยหน้าด้วยพริกบุตโจโลเกียคั่ว
กัปตันที่มีประวัติแสนดี อบอุ่นหอมละมุนกลิ่นไอรักที่หมกมุ่นในเครื่องบิน ถึงขนาดมีซีมุเลเตอร์จำลองการบินในบ้าน และอยู่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
โคไพลอต จอมเจ้าชู้ คุณชายที่ถูกอ้างว่าชอบลอบพาสาวเข้า Cockpit ทั้งๆที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว
ลูกของรัฐมนตรีมาเลเซีย
พนักงานบริษัทไอทีไต้หวัน ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับสงครามไซเบอร์
หนุ่มอิหร่านสวมพาสปอร์ตสองคน
นายอาลีผู้จัดหาพาสปอร์ตปลอม
บุรุษไร้นามและสัญชาติผู้สวมพาสปอร์ตอีกสองคน
หนุ่มวิศวกรเครื่องกลชาวเพิร์ธ ผู้ร่ำลาเมียและลูกรวมถึงถอดแหวนแต่งงานทิ้งไว้ อย่างกับจะลาไปตาย
รัฐบาลสหรัฐ อิหร่าน จีน ไต้หวัน รัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับ Cyber War
รัฐบาลมาเลเซียจอมหมกเม็ด
องค์กรค้ามนุษย์ข้ามชาติ
นักเลงค้ายา
ผู้มีอิทธิพลที่ต้องโทษประหารในมาเลเซียแซ่บพอมะ
ภาพกัปตันใส่เสื้อต่อต้านรัฐบาลกำลังระบาดเป็นไวรัลในขณะนี้
กัปตันซาฮารี อาหมัด ชา เป็นผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน และก่อนเขาจะบินไม่กี่ชั่วโมง อดีตหัวหน้าฝ่ายค้านถูกสั่งจำคุกอย่างไม่เป็นธรรมด้วยข้อหาเป็นเกย์ ตัวกัปตันเอง ศรัทธาและเชื่อมั่นนายอันวาร์เป็นอย่างมาก แต่จะมากพอที่โจรกรรมเครื่องบิน MH370 พร้อมผู้โดยสารสองร้อยกว่าคนได้หรือเปล่าไม่มีใครรู้ แถมข้อมูลใหม่ล่าสุดที่สายข่าวรายงานเกี่ยวกับครอบครัวของเขาคือ ลูกเมียได้ย้ายออกจากบ้าน 1 วันก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะหายไปอย่างปริศนา
อีกข่าวยืนยันมานะคะว่าคนที่จะสามารถปิดระบบสัญญานเครื่องบินได้นอกจากจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินแล้ว ยังต้องเป็นSpecialist เครื่องบินโบอิ้งด้วย เพราะเครื่องบินแต่ละเครื่องมีระบบไม่เหมือนกันเลย
ที่มา: dailymail
ส่วนคนนี้คือกัปตันจากบริติชแอร์เวย์ ครั้งหนึ่งเคยบินจากเคนย่า แล้วเจอผู้โดยสารโรคจิต บุกเข้าค็อกพิทเพื่อจะขับเครื่องบินโหม่งโลก
กัปตันตั้งสติทัน และจัดการชกนักเรียนชาวเคนย่าวัย 27 ปี แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นผู้โดยสารก็ช่วยกัน
ลากนักเรียนสติแตกคนนี้ไปมัดไว้หลังเครื่องถ้ากัปตันช้าอีกไม่กี่วินาที 398 ชีวิตได้ไปพบยมบาลแน่นอน
ห้องจำลองการบินในบ้านของกัปตัน
ส่วนเรื่องโคไพลอตฟาริคชอบพาสาวเข้าห้องค็อกพิทนี่จริงนะ
คือเป็นหนุ่มเจ้าชู้แหง ๆ ส่งหมวกให้สาว ๆ ใส่ตลอด
แต่ละภาพนี่คือถึงรอดก็คงตกงาน
ภาพของกัปตันและผู้ช่วยนักบินฟาริค ถูกตรวจสอบอาวุธและกระเป๋าที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์
ตอนนี้วงการสืบสวนแคบลงมาที่ 4 อย่างนะคะ หลังเป็นไปได้ชัดแล้วว่า เครื่องบินถูกหันเหออกจากเส้นทางบินด้วยความตั้งใจ แถมไต่ระดับบินเหนือเพดานสูงสุดที่โบอิ้ง 777 สามารถทำได้ไปถึง 45000 ฟุต (ความกดอากาศสูงขนาดนี้ อาจทำให้ผู้โดยสารหมดสติหรือเสียชีวิตได้เลยนะ) แล้วลงมาที่23000ฟุต โดยผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ฝ่ายสรุปออกมาว่านอกจากนั้น คนที่สามารถปิดสัญญานเครื่องบินเพื่อให้หลุดพ้นจากการตรวจจับสัญญานระหว่างบินผ่านน่านฟ้าหลายๆประเทศในเอเซีย จะต้องมีความรู้ความเข้าใจถึงขั้นตอนการควบคุมในเครื่องบินโบอิ้ง 777 ถึงจะทำได้ จึงตอบโจทย์เราได้ว่า เขาคนนั้นไม่ใช่คนที่บินได้ แต่รวมถึงรู้จักเครื่องบินลำนี้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งคนที่จะเข้าข่ายก็มีไม่มากนัก ทำให้เราไม่สามารถตัดตัวกัปตันที่มีความรู้ความเข้าใจเกินระดับนักบินธรรมดาไปมากพอตัว รวมถึงผู้ก่อการร้ายที่ถนัดด้านวินาศภัยทางอากาศ รวมถึงสปายและสายลับจากในและต่างประเทศ
ส่วนวงสืบสวนสี่อย่างที่ทางการมาเลเซียบีบให้แคบลงได้แก่
- ข่มขู่ บีบบังคับ และทำให้นักบินและผู้โดยสารจำเป็นต้องทำตาม
- สภาพจิตของผู้โดยสารและลูกเรือ นั่นหมายถึง อาจจะมีคนเสียสติแต่ฉลาดล้ำเข้าใจในเรื่องเครื่องบินโบอิ้งเป็นคนควบคุมเครื่องบินลำนี้อยู่
- การจี้เครื่องบินเพื่อเรียกค่าไถ่ หรือข้อเรียกร้องอื่นๆของผู้ก่อการร้าย
- ปัญหาส่วนตัว??? เจ้าหน้านี่ใช้คำว่า Personal Problem ที่กว้างเสียจนไม่รู้จะตีความยังไง ระบบเครื่องบินเจ๊ง?
ที่มา: Pook Sukonta Facebook