วันนี้คอปเตอร์อยู่กับ vivo v25 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงที่รองจาก X Seires รุ่นใหม่จากแบรนด์ vivo นั่นเองครับ โดยในรุ่นนี้ เขาก็ยังคงมีจุดเด่นด้านกล้องหน้าที่โฟกัสตาได้เหมือนเดิมเลย แล้วรุ่นนี้มีอะไรเด่นอีกบ้างนะ เดี๋ยวเรามาแบไต๋กันครับ
ดีไซน์
เริ่มต้นด้วยดีไซน์รอบตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ สีที่ผมถือให้คูรผู้ชมดูอยู่นี้คือสี ‘Surfing Blue’ ซึ่งเป็นสีฟ้าน้ำทะเลที่ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังโต้คลื่นอยู่นั่นเองครับ (ดูไปดูมาก็เหมือนทะเลอันดามันเหมือนกันนะเนี่ย) โดยฝาหลังได้ผลิตจากกระจกที่มีเทคโนโลยี Fluorite AG Glass และ Color Changing Glass เลยได้สีที่เปล่งประกาย เปลี่ยนสีได้ตามแสงที่แตกต่างกัน แถมยังสัมผัสดี นุ่มนวลอีกด้วยนะครับ ความรู้สึกการจับเหมือนรุ่นเรือธงของเขาเลย นอกจากสีนี้แล้ว ยังมีสีดำ Starlight Black ให้ได้เลือกใช้อีกด้วยนะครับ
ด้านบนตัวเครื่องมีคำสลักไว้ว่า “Professional Photography” และไมค์โครโฟนตัดเสียงรบกวนครับ ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านล่างมีช่องเสียบซิม อันนี้สามารถใส่ได้ 2 ซิมนะครับ แต่ใส่ SD Card ไม่ได้ มีช่องชาร์จแบต USB-C และลำโพงเดี่ยวด้านล่างครับ ส่วนด้านขวานั้น ไม่มีอะไรอยู่ครับ
กล้องหน้า
และด้วยความที่จุดเด่นของ vivo V25 Pro 5G เครื่องนี้คือกล้องหน้า ดังนั้นเรามาดูที่กล้องหน้ากันครับ กล้องหน้านี้เป็นเลนส์ขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.45) อยู่ตรงกลางบนของหน้าจอแบบเจาะรูนี่เลย เลนส์นี้มีออโต้โฟกัสที่ตา (Eye Auto Focus) อย่างที่บอกไว้ตอนแรกเลย นี่เดี๋ยวผมลองถ่ายให้ดู
ภาพถ่ายที่ได้ถือว่าทำได้ดีเลยนะครับ กล้องหน้าจับโฟกัสตาได้ค่อนข้างเร็วมาก และสามารถกดถ่ายได้ ภาพที่ได้จะมีโอกาสได้ภาพที่คมชัดง่ายกว่าสมาร์ตโฟนที่ไม่ได้มีฟีเจอร์นี้เป็นพิเศษครับ
ส่วนในโหมดบุคคลก็ถ่ายได้ดีเหมือนกันนะครับ ตั้งค่าการเบลอฉากหลังได้ถึง f/0.95 เลย แต่แนะนำให้เปิดซักประมาณ 2.0 จะกำลังสวยเลยครับ เมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพบุคคล ก็มีฟิลเตอร์ สไตล์การถ่ายเซลฟี่ให้ได้เลือกมากมายเลย ตรงนี้ผมชอบมากเลยครับ เพราะทำให้ถ่ายเซลฟี่สนุกกว่าเดิม ไม่น่าเบื่อด้วย แต่เปิดใช้ฟิลเตอร์แล้วจะไม่สามารถถ่ายแบบหน้าชัด-หลังเบลอได้นะครับ
ถ่ายวิดีโอกล้องหน้า
ซึ่งการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 1080P 60 FPS เลยครับ ภาพที่ได้นอกจากจะลื่นไหลแล้ว สีของภาพยังทำได้ค่อนข้างดีด้วยนะครับ เสียงก็ประมาณนี้เลยครับ ชอบ-ไม่ชอบอย่างไร คอมเมนต์มาบอกกันได้นะครับ
ส่วนฟิลเตอร์ต่าง ๆ แบบในภาพถ่ายเซลฟี่ก็มีให้เลือกเหมือนกันเลยครับ หรือจะเลือกถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ แต่เฟรมเรตที่ถ่ายได้ก็จะลดลงด้วยนะครับ
กล้องหลัง
พลิกกลับมาดูกล้องหลังกันบ้าง ! vivo V25 Pro 5G มีเลนส์หลักขนาด 64 ล้านพิกเซล f/1.89 ที่มาพร้อมกันสั่นแบบ OIS หรือกันสั่นที่ตัวเลนส์ด้วย ถัดลงมาด้านล่างเป็นเลนส์มุมกว้าง ขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ส่วนเล็ก ๆ ถัดเลยกรอบสีดำนี้คือเลนส์มาโครขนาด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วนแฟลชคู่จะอยู่ด้านข้างเลนส์หลักนี้เลยครับ
การถ่ายภาพทั่วไป จะมีการเปิด AI ที่ช่วยตรวจจับวัตถุบนภาพให้แบบอัตโนมัติ ที่ไม่ว่าจะถ่ายอาคาร ดอกไม้ อาหาร ก็จะมีการปรับแต่งสีให้เหมาะสมกับวัตถุที่เราถ่าย ซึ่งถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ สีถือว่ามีความตรงตา และไม่มีการแต่งสีโอเว่อจนเกินไปครับ ส่วนการเก็บรายละเอียดก็ทำได้ค่อนข้างดีตามเรตราคาเลย
ส่วนการถ่ายภาพบุคคล หรือ Portrait Mode ในรุ่นนี้ก็มีลูกเล่นที่ค่อนข้างหลากหลายไม่แพ้การถ่ายภาพบุคคลกล้องหน้าเลยครับ นอกจากจะตั้งค่าการเบลอฉากหลังได้ถึง f/0.95 แล้ว ยังมีการถ่ายภาพ Bokeh Flare Portrait ให้ภาพที่ได้มีการตัดฉากหลังได้เนียนตา รวมถึงตั้งค่าจุดแสงโบเก้ด้านหลังให้เป็นรูปร่างที่เราชอบได้ด้วยนะครับ รวมถึงฟิลเตอร์การถ่ายภาพบุคคล ที่แต่งสีของภาพ หรือเพิ่มกรอบภาพก็มีให้เล่นด้วยเช่นกัน อย่างผมชอบอันนี้มากเลยครับ (ให้คอปเตอร์เลือก 1 ฟิลเตอร์ + เหตุผล)
ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างของเขาก็คือการถ่ายภาพพอร์ตเทรดกลางคืนในโหมด Super Night Portrait นั่นเองครับ ซึ่งจะช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้ชัดแม้ในเวลากลางคืน แถมยังมีการตัดฉากหลังได้เนียนตาเป็นธรรมชาติอยู่ด้วยนะครับ ลองดูภาพได้เลย บอกเลยว่าถ่ายคนได้สวยทุกเวลาจริง ๆ ครับ
การถ่ายภาพมุมกว้าง สามารถถ่ายผ่านเลนส์มุมกว้าง 0.6 เท่าด้านล่างของเลนส์หลักครับ ภาพถ่ายที่ได้ก็จะมีมุมมองที่กว้างมากกว่าเดิมครับ แต่รายละเอียดและสีที่ได้จะไม่ได้เหมือนกับในภาพถ่ายจากเลนส์หลักนะครับ ส่วนการซูมจะใช้การครอปจากเลนส์ถ่ายภาพหลักเท่านั้น เลยซูมได้สูงสุดที่ 10 เท่าครับ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าระยะหวังผลอยู่ที่ไม่เกิน 5 เท่าครับ
การถ่ายภาพกลางคืนก็ถือว่าทำได้ดีเช่นเดียวกัน ผ่าน AI ตรวจจับว่าเราถ่ายตอนกลางคืนอยู่ และผ่าน Night Mode เลย ภาพที่ได้ถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ครับ และสีใน Night Mode ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่ภาพที่ได้มีโอกาสสั่นไหวในโหมด AI พอสมควร แนะนำให้ใช้ Night Mode ถ่ายจะได้ภาพที่สว่างกว่าและคมชัดกว่าครับ
วิดีโอกล้องหลัง
ส่วนการถ่ายวิดีโอ vivo V25 Pro เครื่องนี้ก็ถ่ายได้สูงสุดที่ 4K 60FPS เลยครับ ภาพที่ได้ก็จะคมชัดแถมลื่นไหลแบบที่เห็นเลยครับ
นอกจากนั้น ยังสามารถถ่าย HDR แบบวิดีโอได้ด้วยนะครับ ถ่าย 4K ได้ด้วย แต่จะได้เฟรมเรตแค่ 30FPS เท่านั้น
อีกลูกเล่นใหม่ล่าสุดในรุ่นนี้ก็คือ VLOG Video หรือฟีเจอร์วิดีโอสั้นเลยครับ โหมดนี้จะทำงานคล้าย ๆ กับติ๊กตอก ที่มีเทมเพลตให้เราเลือกตามชอบ และถ่ายตามจำนวนช็อต และเวลาที่กำหนด จากนั้น vivo V25 Pro เครื่องนี้ก็จะรวมทุกช็อตเข้าเป็นคลิปสั้นที่ตัดต่อเรียบร้อยแล้วให้กับเราเลย ลองดูวิดีโอนี้ที่ผมได้ลองทำ VLOG Video มาให้ทุกคนดูครับ ชอบกันไหม ?
หน้าจอ
หน้าจอของ vivo V25 Pro เป็นจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376 x 1080 หรือ FHD+ แล้วก็ยังมี Refresh Rate 120 Hz ที่ลื่นไหลอีกด้วย ตัวจอได้รับการออกแบบมาใหม่ในชื่อ 3D Curved Screen ครับ หรือเรียกง่าย ๆ ก็จอโค้งนี่แหละครับ ความรู้สึกในการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดีมากเลย จอโค้งมีส่วนช่วยให้ภาพเต็มตา ไม่มีขอบ แต่ต้องแลกมาด้วยฟิล์มที่อาจจะหามาติดยากหน่อยนะครับ
การดูวิดีโอบน YouTube สามารถเล่นได้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K HDR เลย แต่ภาพที่ขึ้นบนจอจริงก็จะได้แค่ Full HD เท่านั้น ส่วน Netflix สามารถเล่นได้ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD HDR อีกด้วยครับ สายดูหนังต้องชอบแน่นอน
ส่วนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใต้จอ รุ่นนี้อยู่บริเวณใต้หน้าจอครับ ตำแหน่งสแกนก็กำลังดีเลย ส่วนความเร็วในสแกนก็เร็วตามมาตรฐานสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ในปีนี้เลยครับ
ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้ให้มาถึง 4,830 มิลลิแอมป์เลยครับ ซึ่งสามารถชาร์จแบตผ่านหัวชาร์จที่แถมในกล่องนี้มาด้วยเลยครับ เป็นหัวชาร์จ vivo Flash Charge ความเร็ว 66 วัตต์แหน่ะครับ สามารถชาร์จแบตได้ 30% ภายใน 15 นาทีเท่านั้นเอง ! นอกจากนั้น ทางวีโว่ก็ได้ใส่เทคโนโลยี Smart Charging Engine ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ เช่นถ้าเราเล่นเกมระหว่างชาร์จ ก็จะชาร์จแบตเตอรี่ให้ช้าลง เพื่อไม่ให้เครื่องร้อนเกินไประหว่างชาร์จแบต ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วด้วยครับ
ส่วนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ กองบรรณาธิการของแบไต๋ได้เอาไปใช้งานจริงมา ใช้งานทั่วไป ถ่ายรูป ลองเปิดแผนที่นำทางแล้วด้วย เล่นเกมบ้างนิดหน่อย ก็ใช้จนจบวันได้ครับ
สเปก
ด้านสเปกภายใน vivo V25 Pro 5G นี้ใช้ CPU MediaTek รุ่น Dimensity 1300 ซึ่งเป็น CPU ที่รองรับ 5G รุ่นกลางค่อนสูงที่ออกมาใหม่ในปีนี้ แล้วก็ยังมาพร้อมแรม 12 GB LPDDR4X และหน่วยความจำ 256 GB ครับ แถม vivo ยังได้ใส่ระบบ Extended Ram เวอร์ชัน 3.0 ที่จะดึงหน่วยความจำมาเป็นแรมเพิ่มเติมอีกถึง 8GB แหน่ะครับ จะเข้าแอปเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีหน่วงแน่นอน นอกจากนั้นยังได้ใส่ระบบระบายความร้อนแบบ Bionic Cooling System ให้ระบายความร้อนได้ดีระหว่างเล่นเกมด้วยนะครับ
เราลองดูผลคะแนนบ้างดีกว่า เมื่อทดสอบ CPU บน Geekbench 5 ได้คะแนน Multi Core ที่ 2,868 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถ้าให้เทียบ ระดับคะแนนอยู่ที่ประมาณ Snapdragon 865 ได้ครับ
ส่วนการทดสอบด้านกราฟิกบน 3Dmark ชุด Wildlife Stress Test ที่ทดสอบกราฟิกต่อเนื่องไป 20 นาที ก็ทำคะแนนสูงสุดที่ 4,494 คะแนน และต่ำสุดที่ 3,742 คะแนนครับ ซึ่งถ้าลองสังเกตกราฟดู จะพบว่าในตอนแรก คะแนนจะค่อย ๆ ลดลงทีละหน่อย ๆ และมานิ่งที่ 3,700 กว่าคะแนน ความนิ่งของคะแนนจะอยู่ที่ 83.3% ครับ
เราลองมาลงสนามจริงด้วยเกม Genshin Impact กันดีกว่า แพทช์ 3.0 โซนใหม่ของเขาอย่างสุเมรุ มาในช่วงนี้พอดีต้องเข้าไปลองซะหน่อย เมื่อปรับตั้งค่าสูงสุด และเปิดโหมด 60FPS ก็สามารถเล่นได้ลื่นเลยครับ แม้จะเป็นเมืองใหม่ที่รายละเอียดของฉากเยอะกว่าแพทช์ก่อน ๆ ก็ตาม ซึ่งถ้าเราเปิดโหมด Ultra Game Boost แล้ว ก็จะทำให้เฟรมเรตนิ่งกว่าเดิมเล็กน้อยครับ
vivo V25 Pro 5G ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Funtouch OS 12 ที่มีพื้นฐานอยู่บน Android 12 แกะกล่องมาเลยครับ ซึ่งซอฟต์แวร์ของเขาก็จะรองรับการเชื่อมต่อกับนี่เลย vivo TWS Air หูฟังไร้สายที่เปิดตัวมาพร้อมกันกับ vivo V25 Series 5G เลย เพียงแค่เราเปิดฝาหูฟัง ก็นี่ ขึ้นรูปมาให้เราได้เชื่อมต่อแบบง่าย ๆ แล้ว นอกจากนั้น เราสามารถตั้งค่าหูฟังได้ผ่านแอปพลิเคชัน vivo TWS เลย !
ข้อสังเกต
รีวิวแบไต๋ จะให้ข้อสังเกตกับคุณผู้ชมเสมอครับ กองบรรณาธิการของแบไต๋ได้ลองใช้ vivo V25 Pro 5G พร้อมกับได้ลองใช้ vivo V25 5G มาแล้วด้วย ก็พบว่ากล้องหน้าของ vivo V25 Pro มีความละเอียดน้อยกว่านะครับ V25 ให้กล้องหน้ามาถึง 50 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นจะถ่ายได้สูงสุดแค่ 1080P 60FPS เท่านั้น ในขณะที่ vivo V25 จะถ่ายได้สูงสุดที่ 4K 30FPS ครับ ตรงนี้ถือเป็นข้อพิจารณาสำหรับใครที่ต้องการซื้อทั้งสองรุ่นนี้เทียบกันอยู่ครับ อีกเรื่องก็คือลำโพงที่มีอยู่แค่ตัวเดียวคือด้านล่างตัวเครื่องนี้ ความรู้สึกเวลาดูวิดีโอหรือฟังเพลงก็อาจไม่ได้อรรถรสมากเท่าที่ควรครับ
รีวิวที่ดีต้องมีราคา
รีวิวที่ดี ต้องมีราคาครับ vivo V25 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงที่รองจาก X Series ที่มีกล้องหน้าโฟกัสตา ลูกเล่นเพียบ ดีไซน์หรูหราฟีลเรือธงนี้ มีราคาอยู่ที่ 19,999 บาทครับ สามารถพรีออร์เดอร์กันได้ตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กันยายนนี้เลยครับ และวางจำหน่ายจริงวันที่ 29 นี้ ส่วนหูฟัง vivo TWS Air นี้มีราคาอยู่ที่ 1,999 บาทครับ ผมว่าสมาร์ตโฟนที่ถ่ายเซลฟี่สวย ๆ แบบนี้ เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างคุณกับผมจริง ๆ ครับ !