หลายคนหันมาเรียนรู้เรื่องการลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่ง รวมถึงศึกษาการทำประกัน เพื่อรักษาความมั่นคงให้กับชีวิตครับ สำหรับคุณพ่อลูก 2 อย่างผม ก็ต้องบอกว่าได้มีการเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ปิดโอกาสที่จะมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จนในวันนี้ได้รู้จักกับคำว่า “ประกันชีวิตควบการลงทุน” หรือประกัน Unit Linked ครับ
ผมพบว่าเรื่องนี้มีประโยชน์และอยากมาเล่าให้ทุกคนฟัง รวมถึงแนะนำให้รู้จักกับ “Be Together Save+ Linked” ประกันชีวิตควบการลงทุน ที่ขายผ่านธนาคารกรุงเทพ วันนี้แบไต๋ให้คุณรู้ครับ
Unit Linked Insurance Policy หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Unit Linked คือประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมครับ
โดยเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปในครั้งแรก จะถูกนำไปจ่ายค่าใช้จ่าย 3 ส่วน คือ (1) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย (2) ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ และ (3) ค่าการประกันภัย ซึ่งค่าใช้จ่ายในเดือนต่อ ๆ ไป บริษัทจะขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อนำมาจ่ายค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไปจนตลอดอายุกรมธรรม์
จะเห็นได้ว่าประกันชีวิตควบการลงทุนจะมีมิติมากกว่าประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ในส่วนของการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นตามมา ทำให้ประกัน Unit Linked ไม่สามารถการันตี หรือระบุผลตอบแทนที่แน่นอน ต่างกับประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เมื่อครบกำหนดรับเงินคืนตามกรมธรรม์ครับ
สำหรับ Be Together Save+ Linked คือประกันชีวิตควบการลงทุนที่เสนอขายผ่านทางธนาคารกรุงเทพเท่านั้น และรับประกันชีวิตโดย AIA เป็นประกัน Unit Linked ที่ให้เรากำหนดเป้าหมายทางการเงินได้ โดยการจ่ายเบี้ยประกัน 8 ปีเท่านั้นครับ
ซึ่งการกำหนดเป้าหมายทางการเงินนี้ จะช่วยให้เราสามารถวางแผนได้ว่าเราจะต้องจ่ายเบี้ยประกันจำนวนเท่าไร เป็นระยะเวลานานเท่าไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ
ยกตัวอย่าง นายหนุ่ย อายุ 40 ปี มีสุขภาพแข็งแรงดี ตั้งเป้าหมายเก็บเงิน 2 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ๆ เรียนต่อต่างประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า นายหนุ่ยคาดหวังผลตอบแทนที่ปีละ 5% ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายหนุ่ยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นเวลา 8 ปี ปีละ 141,000 บาทครับ
โดยนายหนุ่ยจะได้รับความคุ้มครองชีวิต 2 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มจ่ายเบี้ยประกันปีแรก ทำให้นายหนุ่ยสบายใจได้ว่า ระหว่างทาง 20 ปี แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นระหว่างทาง ก็ยังจะมีเงิน 2 ล้าน สำหรับเป็นทุนการศึกษาของลูก ๆ และเมื่อจ่ายเบี้ยประกันครบ 8 ปีแล้ว นายหนุ่ยจะได้รับ โบนัสเพิ่มเงินออม 12% ของจำนวนเบี้ยประกันหลักในปีแรกที่จ่าย หรือ 16,920 บาท ไปลงทุนเพิ่มเติมตามสัดส่วนที่เลือกไว้ครับ
ในส่วนของโบนัสเพิ่มเงินออม 12% นี้ จะได้รับ 1 ครั้งตลอดกรมธรรม์ โดยโบนัสที่ได้รับ จะนำไปซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นอีกด้วยนะครับ
เมื่อนายหนุ่ยทำประกันครบ 20 ปี และบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้นั่นคือการมีเงินจำนวน 2 ล้านบาท นายหนุ่ยมีทางเลือก 3 ทาง ที่จะใช้เงินก้อนนี้ครับ
ทางเลือกที่ 1 นำเงินไปเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ๆ ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นเงินที่ได้จากการขายหน่วยลงทุนของกรมธรรม์ครับ
ทางเลือกที่ 2 เก็บเงินก้อนเอาไว้ก่อน โดยเงินดังกล่าวก็จะถูกนำไปลงทุนต่อเรื่อย ๆ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องครับ
หรือทางเลือกที่ (3) ทยอยถอนเงินจากกรมธรรม์เพื่อไว้ใช้ยามเกษียณ เป็นค่าใช้จ่ายของนายหนุ่ยยามที่ไม่มีรายได้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนลูกหลานในอนาคตครับ
จาก 3 ทางเลือกนี้ จะเห็นได้ว่า Be Together Save+ Linked เป็นประกันชีวิตควบการลงทุนที่ค่อนข้างยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าในอนาคต หรือในระหว่างทางของการจ่ายเบี้ยประกันนั้น เป้าหมายของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปนั่นเองครับ
Be Together Save+ Linked จะคุ้มครองผู้เอาประกันจนถึงอายุ 99 ปี หรือเท่าที่มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพียงพอต่อการหักค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ และถ้าคุณเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง มีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาก็จะได้รับเงินก้อนจากการขายคืนหน่วยลงทุน แต่สำหรับกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ จะได้รับเงินก้อนนี้โดยปลอดภาษีครับ
ในส่วนของเบี้ยประกัน ถ้าคุณรู้สึกว่าจากตัวอย่างที่ผมยกมานั้นมากเกินไป หรือไม่ได้ต้องการตั้งเป้าหมายเป็นเงินจำนวนมากขนาดนั้น Be Together Save+ Linked เขารับจ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 50,000 บาทต่อปีครับ และสามารถเลือกจ่ายได้ ทั้งแบบรายปี, ราย 6 เดือน, ราย 3 เดือน หรือรายเดือน ตามที่เราสะดวกครับ
อย่างที่ผมบอกไปว่าประกันตัวนี้มีความยืดหยุ่น ดังนั้น หากเป้าหมายของคุณเปลี่ยนไปในระหว่างการจ่ายเบี้ยประกัน เราสามารถ Top Up เบี้ยประกันเพิ่มเติมพิเศษได้ครับ โดยจะเลือกเพิ่มในแต่ละงวดไปเลย โดยจ่ายเบี้ยประกันงวดละเท่า ๆ กัน หรือเลือกจ่ายเป็นก้อนใหญ่ ๆ ก็ได้ครับ
สำหรับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นของ Be Together Save+ Linked จะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนที่เลือกไว้ ซึ่งกองทุนที่เราสามารถเลือกลงทุนได้จะมีทั้งหมด 11 กองทุนที่น่าเชื่อถือ ทั้งจาก BBLAM (อ่านว่า บีบีเอลเอเอ็ม) และ BCAP (อ่านว่า บีแคป) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในเครือของธนาคารกรุงเทพครับ
โดยทางธนาคารกรุงเทพก็มีพอร์ตการลงทุนหลากหลายแบบให้เลือก ซึ่งเราสามารถเลือกและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนได้ตลอด เพื่อให้ผลตอบแทนตรงตามเป้าหมาย และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ประกันชีวิตควบการลงทุน Be Together Save+ Linked เหมาะสำหรับคนที่มีเป้าหมายว่าอยากจะมีเงินก้อนในอนาคต โดยใช้การประกันชีวิต เป็นเครื่องมือในการปกป้องเป้าหมาย และใช้การลงทุนในกองทุนรวม เป็นเครื่องมือให้การบริหารเงินให้งอกเงย
ข้อสังเกต
แต่ประกันตัวนี้ก็มีข้อสังเกตคือ ความเสี่ยงจากการลงทุนครับ ดังนั้น ผู้ที่ไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้เลย ผมพูดตรง ๆ ว่า ประกัน Unit Linked และ Be Together Save+ Linked ไม่เหมาะกับคุณครับ ตัวเลือกอื่น ๆ เช่น ประกันสะสมทรัพย์น่าจะตอบโจทย์มากกว่า แม้ว่าผลตอบแทนจะไม่เท่าประกัน Unit Linked แต่ก็ไม่มีความเสี่ยงทางด้านการลงทุนครับ
ถ้าคุณสนใจ Be Together Save+ Linked สามารถเข้าไปพูดคุยกับพนักงานของธนาคารกรุงเทพได้ที่สาขาที่ให้บริการทั่วประเทศครับ หรือถ้าใครยังไม่มั่นใจว่า ประกันตัวนี้เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ ทางธนาคารกรุงเทพ ยินดีให้คุณทำแบบทดสอบเพื่อประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ก่อนการลงทุนครับ เอาให้รู้กันไปเลยจริง ๆ ว่า Be Together Save+ Linked เหมาะกับคุณหรือเปล่า
สำหรับใครที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง หรือยังไม่สะดวกไปที่สาขาของธนาคาร สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งผมจะใส่ลิงก์ไว้ให้ใต้คลิปนี้ หรือโทร. 1333 ครับ