ทุกวันนี้เรื่องสุขภาพอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น เพราะเรามีสมาร์ตวอตช์ที่ช่วยติดตามชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การนอน ทำงาน ความเครียด ไปจนถึงการออกกำลังกาย เก็บสถิติไว้เป็นข้อมูลสุขภาพไว้ปรับพฤติกรรม ช่วยคุณหมอทำงานง่ายขึ้นด้วย

สมาร์ตวอตช์ที่กำลังจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2023 อย่าง Huawei Watch GT 4 เป็นอีกเรือนที่น่าสนใจ ดีไซน์หรูหรา ฟีเจอร์ครบ จบในเรือนเดียว มีฟีเจอร์อะไรเด่นบ้าง ผมแบไต๋ให้ฟังครับ

1.ดีไซน์หรู หน้าจอ AMOLED

แม้จะเป็นสมาร์ตวอตช์ แต่ไม่จำเป็นต้องดูสปอร์ตไปซะทุกเรือนนะครับ เพราะ Huawei Watch GT 4 เขาออกแบบมาเป็นหน้าปัดแปดเหลี่ยมขนาด 46 มม. หรือสำหรับผู้หญิงก็มีหน้าปัดกลมขนาด 41 มม. ให้เลือกด้วย มาพร้อมหน้าจอ AMOLED มีให้เลือกถึง 7 รุ่นย่อย ต่างกันที่สีและสายนาฬิกา

ตัวเรือนทำจากวัสดุแสตนเลสสตีลดูแข็งแรงดี คู่กับโพลีเมอร์ไฟเบอร์ที่ฝาด้านหลัง รุ่น 46 มม. นี้เคลมว่าใช้งานได้สูงสุด 14 วัน ตีซะว่าเดือนนึงต้องชาร์จ 2-3 ครั้ง รองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สายด้วยนะ และสายนาฬิกาเป็นแบบกิ๊บล็อก ที่สามารถปรับให้เข้ากับข้อมือตั้งแต่ครั้งแรก หลังจากนั้นก็ไม่ต้องปรับอีกเลย ให้ความหรูหราเหมือนนาฬิกาออโตเมติก

ปุ่มไดอัลหมุนได้และกดเข้าไปดูฟีเจอร์ต่าง ๆ ตั้งค่าหน้าจอได้ถึง 10 รูปแบบ และสามารถโหลดเพิ่มในแอปได้อีก ที่สำคัญรองรับการแสดงผลแบบ Always-on display ด้วย ซึ่งมีการลดอัตราเฟรมเรตลงเหลือ 1 Hz ทำให้ใช้พลังงานต่ำและกินแบตน้อยลง

2.อัปเกรดเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

สมาร์ตวอตช์ทุกรุ่นต้องมาพร้อมตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่แล้ว แต่ Huawei Watch GT 4 อัปเกรดเซ็นเซอร์เป็น TruSeenTM 5.5+ ที่ทำงานควบคู่กับ AI ช่วยอ่านค่าออกซิเจนในเลือด (spO2) ได้แม่นยำขึ้น ทั้งขณะกำลังนอนหรืออยู่ในพื้นที่ความกดอากาศสูง

3.จัดเต็มคอร์สออกกำลังกายเหมือนมีโค้ชใกล้ตัว

Huawei Watch GT 4 ทำงานร่วมกับแอป Huawei Health ที่นอกจากช่วยบันทึกข้อมูลสุขภาพต่างๆ อย่างละเอียด ดูแบบรายวัน รายเดือน ไปจนถึงรายปีแล้ว ยังรวบหลักสูตรฟิตเนสมากกว่า 200 คอร์ส ทั้งการวิ่งและเทรนนิง ซึ่งผู้ใช้ต้องเข้าไปตั้งค่าก่อนในแอปพลิเคชัน สามารถวางแผนออกกำลังกายจากในแอปแล้วดึงมาที่ตัวนาฬิกาได้ทันที

รองรับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด เรียกได้ว่ามีครบทุกกีฬา แม้แต่ฟุตบอล บาสเกตบอล ไปจนถึง esports มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Activity ring หรือวงแหวนสุขภาพที่บอกข้อมูลแคลอรี่ การออกกำลังกายและการยืนแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถตั้งเป้าหมายในแต่ละวันได้ด้วย

4.ฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์โดนใจ

ไหน ๆ เป็นสมาร์ตวอตช์ที่ใช้งานในชีวิตประจำ เลยขอแนะนำฟีเจอร์ที่น่าจะใช้งานกันบ่อยๆ อย่างกดชัตเตอร์จากตัวนาฬิกาได้ แต่ปรับกล้องหน้าหลังแบบ Apple Watch ไม่ได้นะ

ฟีเจอร์ไฟฉายในที่มืดค่อนข้างสว่างมากๆ สำหรับใครที่ลุกมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนไม่อยากเปิดไฟ ค่อนข้างตอบโจทย์เลย และรับโทรศัพท์ได้ เราทดสอบแล้วเสียงดังฟังชัดทีเดียวครับ

ข้อสังเกต

สายชาร์จที่ให้มาเป็นหัว USB-A กับที่ชาร์จไร้สาย ซึ่งในปัจจุบันหลายค่ายเปลี่ยนหัวชาร์จเป็น USB-C กันหมดแล้ว ทำให้ต้องไปหาอแดปเตอร์มาต่ออีกทีนึง

เวลาเปิด Always On Display หน้าจอลั่นง่ายไปหน่อย เวลามือไปโดนหน้าจอแบบไม่รู้ตัว เช่น กอดอกทำให้นาฬิกาเข้าสู่โหมดปรับหน้าจอเองอัตโนมัติ

Huawei Watch GT 4 เป็นนาฬิกาที่สวมใส่ได้ใช้ชีวิตประจำวัน ใส่ออกงานได้ รวมถึงออกกำลังกายได้ด้วย แม้หน้าตาจะดูขัดๆ ไปหน่อย

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

Huawei Watch GT 4 Grey เรือนนี้ตัวท็อปที่สุดราคา 12,990 บาท ซึ่งรุ่นอื่น ๆ ก็มีราคาแตกต่างกันไปตามประเภทสายนาฬิกา ใครที่อยากได้สมาร์ตวอตช์ใส่เรือนเดียวจบ ถือว่าตอบโจทย์เลย