จากปรากฏการณ์ #g16fest มาไว เคลมเร็ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา สัญลักษณ์ #g16fest ภาพรอยสักที่ปกปิดใบหน้าศิลปิน ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถ สร้างคำถาม การบอกต่อในวงกว้าง บนโลก Social ว่าคืออะไร? เป็นงานอะไร? รูปแบบการนำเสนอ ถูกคิด ออกแบบมาอย่างเป็นระบบ เจ้าภาพเผยว่า งานนี้ เราสื่อสารผ่าน เฉพาะช่องทาง Social Media เป็นหลักเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น FB IG TW ของศิลปิน ค่ายเพลง
ปรากฏการณ์อีกอย่างที่เกิดขึ้นกับ #g16fest ก็คือการจำหน่ายตั๋ว ผ่าน Thaiticketmajor ที่เกิดขึ้น เช้าวันที่ 10 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ทำหลายคน งง ตั๋วจำนวน 30,000 ใบ หมดในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 40 นาที จนต้องนำตั๋วสำรองอีก จำนวน 5,000 ใบออกมาจำหน่าย เกิดอะไรขึ้น เจอหน้าป๋า เต็ด ผู้ก่อการครั้งนี้เลยสอบถาม ได้ความดังนี้
คลิปสัมภาษณ์สดป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อมโดยทีมงานแบไต๋ไฮเทค
ผมสังเกตหลายทีแล้วพี่ใช้ Social Media ?
คือพี่ว่ามันขึ้นอยู่กับงาน คืออย่างกรณีงานของ Genie คือกลุ่มค่ายเพลงที่มี Community ในเชิง Social Media ที่แข็งแรงมาก ดังนั้นเนี่ย การที่เรากล้าประกาศจัดงานแต่ยังไม่ขายบัตรซักที ปกติแล้วเนี่ยการขายบัตรคอนเสิร์ตเนี่ย พร้อมเมื่อไหร่ก็ขายเลย เขาไม่รอ แต่ของเราเนี่ย เราประกาศว่าเราจะมีงาน แต่ของเราเนี่ยเราประกาศว่าจะมีงานแล้วก็ยังไม่ขายบัตร
ไม่บอกรายละเอียดด้วย?
ไม่บอกอะไรทั้งสิ้น เราเชื่อในพลังความอัดอั้นของ Community Genie ว่าเขารอสิ่งนี้มานาน เขารอการรวมตัวกันของศิลปิน Genie ทั้งค่ายมานาน แล้ววิธีการตั้งราคาบัตรเราก็ Sexy มากคือ ราคามัน 1600 ก็จริง แต่ถ้ามาซื้อวันแรก ก็ราคา 800 ขายครึ่งราคากันเลย ซึ่งมันก็ได้ผล และเราได้ Design ชิ้นงานทุกอย่าง Base on Social media แถลงข่าวผ่าน IG, การปล่อยรายระเอียดของงานครั้งแรกผ่าน Social Media, วิธีการทำ MV หรือตัว Spot โฆษณาที่เหมาะสำหรับการแชร์ออกไปเยอะ ๆ คือจริง ๆ แล้วตอนนี้เรายังไม่ได้ใช้ Mass Media เลยซักแอะเดียว ทีวีที่ใช้จะเป็นลักษณะรายการพูดถึงหรือเป็นเชิงการ PR
ยังไม่ได้ปล่อย Spot เลย?
ซึ่งยังไม่ได้ปล่อย Spot เลย เราต้องเปลี่ยน Spot เป็น Spot ขอบคุณแทนโปรโมตให้คนมาซื้อบัตรแล้ว คือ Spot ที่ใช้ก็เป็น Spot ภายในสื่อใน Grammy ยังไม่ได้ออกไปข้างนอกด้วยซ้ำไป ก็แปลว่าความแข็งแรงของ Community Genie จะเป็นจริงอย่างที่เราคาดเดาไว้ คราวนี้มันบอกให้เห็นถึงความแข็งแรงของการใช้สื่อใน Social Media
เราประเมินอย่างไรว่าทีแรกก่อนที่เขาจะกล้าทุบโต๊ะว่า “ไม่ออกทีวี” ซัดกันเฉพาะ Social Media อย่างเดียว ?
เราประเมินจาก Fanpage Bodyslam มี 2 ล้านกว่าคน Paradox ล้านกว่าคน Big Ass ล้านกว่าคน คือโอเค ส่วนนี้มันอาจจะ Crossover กันอยู่ แต่ก็ล้านกว่าคนแต่เราก็คิดว่า Concert ของเรามีความจุ 35,000 ซึ่งเราต้องการคนแค่เพียง 3% ของคนทั้งหมด ก็ลองวัดกันกันที่ Social Media กันไปเลย
ลังเลไหม?
ไม่ลังเลเลยครับ คือใส่กันเต็มที่เลย คือหลายคนก็ท้วงเหมือนกัน เพราะจริง ๆ แล้วเนี่ย คือเราเปิดขายบัตรแล้วอีกเดือนเดียวคอนเสิร์ตก็จะเริ่ม คือถ้าวันนี้บัตรขายไม่ดี จะเหลือเวลาแก้ไขสถานการณ์แค่เดือนเดียวแต่ว่าเราใช้ Gut Feeling เรารู้สึกว่าเราใช้ความกล้าที่จะวัดใจกันไปเลยว่า เราเชื่อว่าราคามันก็เหมาะสมครับ 800 บาทมันก็ถือว่าไม่แพงเกินไปแล้วก็ 14 ศิลปินในสาย Rock ก็ถือว่าเป็นชั้นแนวหน้าทั้งหมด ก็สมควรที่จะประสบความสำเร็จ เพียงแต่ว่าในที่สุดถึงวันนี้จริง ๆ ตอนแรกเราคิดว่าวันแรกหมื่นกว่าใบ ทีเหลือก็ค่อย ๆ ทยอยไป คือความจริงชั่วโมงแรก ผมก็กดเช็คยอดบัตรดู เฮ้ย!! ไปแล้วหมื่นใบ แต่ว่ามันเป็นยอดบัตรแค่บางส่วน พอโทรไปเช็คที่ ThaiTicket ว่าทั่วประเทศนั้นเป็นอย่างไร? ปรากฎ! มันกำลังจะหมด!! พอประมาณซัก 11 โมง 40 ไม่สามารถขายได้แล้วเพราะบัตรเต็มหมด เราต้องมาจัดการเอาบัตรสำรอง 5,000 ใบออกมาขาย ให้กับคนที่มาเข้าแถวรอที่นี่ เพราะเขาอุตส่าห์มาเข้าแถวแต่เช้า
มันจะทำให้แออัดเกินไปไหม?
ไม่ ไม่ครับ พื้นที่มันจุได้มากกว่านั้น เพียงแค่ว่าเราไม่อยากให้อยู่ไกลออกมาจากเวที เพราะแค่นี้ส่วนหนึ่งก็ต้องอยู่หลัง Control แล้ว แต่ความจริง บรรยากาศก็เหมือนกับไปดูคอนเสิร์ตนอก ส่วนหนึ่งก็ต้องล้ำไปอยู่หลัง Control เราก็จะเตรียมลำโพงเพิ่ม เตรียมจอเพิ่ม เพื่อที่จะให้คนที่อยู่ไกล ๆ ได้เห็นชัด
แล้วการที่ตั๋วขายหมดเร็วเนี่ย และการบอกต่อมันมากขนาดนี้ มันสอนอะไรกับเราในเรื่องวงการเพลงหรือการทำ Event ครั้งต่อไป ?
คือ Community เป็นเรื่องสำคัญครับการเข้าใจลูกค้าของเรา การเข้าใจว่าเรากำลังทำ Event ให้กับใครเป็นเรื่องสำคัญ คือ Event ที่ดี Event ที่ใหญ่ Event ที่เล็ก มันวัดกันยาก แต่ถ้าเรารู้ว่าเรากำลังทำ Event ให้ใครดูมากขนาดไหนเนี่ย ความสำเร็จมันเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะงาน 500 คน คือเรารู้ว่า Community เนี้ยมีงาน 500 ก็ทำงานสำหรับ 500 คน เรารู้ว่า Community Genie ความจุ 35000 เนี่ยน่าจะเต็ม ก็ทำงานให้กับ 35000 คน แล้วก็เลือกใช้วิธีสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ผมว่ามันหมดยุคแล้วที่คนเปิดทีวีเพื่อรอดูว่าจะมี Spot อะไรเชิญชวนเราไปงาน Event ต่าง ๆ แล้วถ้าใช้จริง ๆ ก็ไม่คุ้มด้วย มันแพงมาก หมดยุคแล้วที่เราจะเปิดหนังสือพิมพ์ อ่านว่า มันมีงานไหนที่น่าไป จริง ๆ แล้วเขาจะนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วเราจะต้องส่งไปให้ถึงเขา เขาอาจจะไม่เลือกใช้สื่อที่เราเลือกไว้ เราจะต้องเลือกใช้สื่อที่เขากำลังใช้อยู่
แล้วบทเรียนตอน Big Mountain เป็นอย่างไร ตอนนั้นก็ใช้วิธีการแถลงข่าวผ่าน Instagram ?
ใช่ครับ ก็ได้ผล ความจริงก็เริ่มจาก Big Mountain แหละที่ทำให้เรามั่นใจ อย่างที่บอกวันนี้ จริง ๆ เราไม่ได้ตั้งใจจัดงานแถลงข่าวด้วยซ้ำไป แต่โอเคว่ามากันเยอะแล้วเราก็ให้โอกาสสื่อได้พบปะศิลปิน แต่จริง ๆ แล้ววันนี้เรานัดเพื่อให้คนฟังได้ถ่ายรูปกับศิลปิน แต่ว่า คือถ้าพูดแบบตรงไปตรงมาก็คือ เราทำงานแถลงข่าวเนี่ย เราต้องฝากข้อความผ่านคนกลาง นำไปส่งถึงผู้รับสารอีกที แต่วิธีแถลงข่าวผ่าน Social Media เนี่ย สารมันตรงจากเราไปถึงผู้รับสารเลย ไม่ต้องผ่านคนกลาง ดังนั้นเนี่ย บางที ณ ยุคสมัยนี้ วิธีนี้อาจจะเหมาะสมกว่ากับงานลักษณะแบบเรา เพราะว่ามันไม่ได้เป็นงานที่จะเอาคนดังมาโชว์ แล้วก็ได้ภาพสำหรับผู้สื่อข่าวนำภาพคนดังเหล่านั้นไปใช้อะไรมากมาย ส่วนใหญ่เราแค่จะบอกว่าจัดงานอะไร แล้วก็มันมี Detail อะไรบ้าง ซึ่งวิธีทาง Social Media มันตอบโจทย์ข้อนี้ได้หมดเลย ในกรณีที่เรารู้ว่า Community เราอยู่ที่ไหน
ก่อนแยกกัน ป๋า เต็ดฝากบอกว่า “ตั๋วอาจมีวิ่งกลับเข้าระบบบ้าง จากช่องทางการจำหน่ายที่ชำระผ่าน Couter Service แล้วไปจ่ายไม่ทัน แต่จำนวนอาจจะน้อยมาก ต้องลองลุ้นกันเอานะจ๊ะ”
เทศกาลดนตรี จินนี่ 16 ปี #g16fets ดูแลการผลิตโดย ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม ผู้จัดคอนเสิร์ตระดับตำนานไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ตขนาดย่อมแต่ได้ใจใหญ่ ใกล้ชิดสนิทแนบเนื้อ อย่าง “เล็กชิ้นสด”, คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ มากันยกค่าย “Bakery The Concert”, รวมบทเพลงและศิลปิน ระดับตำนาน ในเวทีเดียว “Music Legend”, มหกรรมดนตรี อินดี้แห่งชาติ เริ่มจัดครั้งแรกที่ โรงงานยาสูบ จัดเต็ม 2 เวที ไม่มีพัก สลับกันร้อง เล่น เต้น ขาย ได้ใจคนอินดี้ “Fat Festival”, การรวมตัวของมวลมหาประชากรคนนอนดึก คึกยันเช้า “Big Mountain Music Festival” และอื่นๆ อีกมากมาย
genie records จับมือ GAYRAY (เกเร) บริษัทอีเว้นท์สุดยอดครีเอทีฟของ ป๋าเต็ด – ยุทธนา บุญอ้อม จัดเทศกาลดนตรีร็อกในชื่อ “genie Fest .. 16 ปี แห่งความร็อก” ขึ้น ในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2557 ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม
พบ 14 วงร็อค PARADOX (พาราด็อกซ์) / พลพล พลกองเส็ง / KALA (กะลา) / BIG ASS (บิ๊กแอส) / BODYSLAM (บอดี้สแลม) / ป้าง – นครินทร์ กิ่งศักดิ์ / RETROSPECT (เรโทรสเปค) / SWEET MULLET (สวีท มัลเล็ท) / No More Tear (โน มอร์ เทียร์) / INSTINCT (อินสติงต์) / KLEAR (เคลียร์)/ THE MOUSSES (เดอะ มูส) / COCKTAIL (ค็อกเทล) / THE YERS (เดอะ เยอร์ส)