เป็นประจำทุกปีในงาน WWDC แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่แอปเปิ้ลจะเปิดตัวสารพัด OS ใหม่ ทั้ง iOS, macOS, watchOS tvOS ให้นักพัฒนาได้ลองใช้ก่อนในเดือนมิถุนายน และจะเปิดตัวสมบูรณ์ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดมาใช้จริงอีกครั้งตอนเดือนกันยายน เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างที่ถูกพัฒนาขึ้นมา
iOS 12
ความเร็ว
เรื่องแรกที่เหล่าสาวกต่างปลื้มใจมากคือ iOS 12 โฟกัสเรื่องความเร็วจริงจังแล้ว หลังจากโดนด่าเสมอเวลา iOS ออกรุ่นใหม่ว่าทำให้เครื่องช้า ปีนี้แอปเปิ้ลเคลมเลยว่า จะเปิดกล้องได้เร็วขึ้น 70% คีย์บอร์ดพร้อมใช้งานเร็วขึ้น 50% แอปโหลดเร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับ iOS 11
ARkit 2
อีกเรื่องที่ดีงามและมีแต่แอปเปิ้ลที่ทำได้เนียนสุดตอนนี้คือ ARkit ครับ ที่ปรับปรุงเข้าสู่เวอร์ชั่น 2.0 แล้ว ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์ iOS หลายตัวเพื่อเข้าสู่โลก AR เดียวกัน เช่นทำเกมที่เล่นได้หลายคนบนสนาม AR เดียวกันได้อีกด้วย
พร้อมกันนี้แอปเปิ้ลยังเปิดตัวแอป Measure ที่นำความสามารถวิเคราะห์พื้นผิว AR มาคำนวณระยะ เช่นส่องไปที่กล่อง ก็จะบอกได้ว่ากล่องนี้กว้าง x ยาวเท่าไหร่ โอ้ นี่เป็นการใช้ตรีโกณมิติขั้นสูงสินะ
Facetime
facetime ถูกพัฒนาขึ้นมา สามารถ Join เข้ากลุ่มพูดคุยพร้อมกันได้สูงสุด 32 คน โดยเริ่มจากกรุ๊ปข้อความใน Messages! ดูหน้าตาการคุยก็ออกแบบมาดี หน้าจอของคนพูดจะขยายขึ้นอัตโนมัติ (แต่ LINE Video Call สามารถคุยได้สูงสุด 200 คน แถมยังใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ไม่จำกัดแค่ iOS ด้วย)
Memoji
Copy and Development นั้นมีมาตลอด และเป็นแนวทางทำให้โลกพัฒนาขึ้น ปีที่แล้ว Apple สร้าง Animoji ใน iPhone X ต่อมาซัมซุงก็อปไปพัฒนาเป็น AR Emoji ที่ทำหน้าของตัวเองเป็น Emoji ได้ใน Galaxy S9 มาปีนี้ iOS 12 แอปเปิ้ล ก็อปแนวคิดซัมซุงไปออกเป็น Memoji สร้างอิโมจิหน้าตัวเองได้หลายหลาก พัฒนาการเคลื่อนไหวได้เนียนขึ้น มีลูกเล่นเช่นเอาหน้า Emoji ไปซ้อนกับหัวคนได้เลย แถมเพิ่มหัวใหม่ๆ และตรวจจับการแลบลิ้นได้ด้วย แต่แน่นอนว่าใช้กับ iPhone X ได้เท่านั้น
Notification
Notification ก็ปรับปรุงจัดกรุ๊ปได้แล้ว ต่อไปข้อความไลน์มาเป็นร้อยก็ไม่รกหน้าล็อก เพราะมันถูกจัดกรุ๊ปไว้เรียบร้อย ในที่สุด iOS ก็ทำได้แบบ Android สักที !!
Photos
แอป Photos ก็ปรับปรุงใหม่ให้แนะนำได้มากขึ้น ทั้งในหน้า For you ที่แนะนำภาพที่น่าสนใจมาให้ พร้อมแชร์ให้เพื่อนได้ง่ายๆ แนะนำเอฟเฟกสำหรับแต่งภาพได้ด้วย พร้อมจัดกลุ่มรูปในเครื่องตามเหตุการณ์ต่างๆ มาให้ หรือจัดตามหน้าบุคคลหรือสถานที่ ปุ่มค้นหาก็แนะนำ keyword ได้ดีขึ้น แต่ถ้าอยากใช้ตอนนี้ก็ง่ายๆ แค่โหลด Google Photo มาใช้ ก็จะได้ความสามารถแบบนี้เลย แถมบางเรื่องอาจจะเก่งกว่าด้วย เพราะกูเกิ้ลทำมาก่อน!
Screen Time
ช่วงนี้บริษัท IT ต่างๆ กำลังเน้นเรื่อง Digital Well Being หรือทำให้ชีวิตกับโลกดิจิทัลดีต่อสุขภาพมากขึ้น ใน iOS 12 เลยมีฟังก์ชั่น Screen Time เพื่อสรุปว่าวันๆ เราจ้องหน้าจอมือถือแค่ไหน ใช้ทำอะไรบ้าง แถมกำหนดได้ด้วยว่าจะให้ใช้เวลากับแอปต่างๆ นานเท่าไหร่ต่อวัน นี่มันฟีเจอร์ในฝันของผู้ปกครองชัดๆ
Shortcut สำหรับ Siri
Shortcut เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Siri ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งลัดของตัวเองได้ แล้วกำหนดเป็นคำไว้ให้สั่งได้ง่ายๆ จะว่าไปก็เหมือน Automation ของ mac ที่เขียนคำสั่งเรียงเป็นชุด ทำเป็นโปรแกรมง่ายๆ
ความสามารถอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
และความสามารถอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ CarPlay ใช้แผนที่อื่นๆ อย่าง Google Maps นำทางได้แล้ว (จะได้ไม่หลงซักที!) และเพิ่มแอปบันทึกเสียงใน iPad มาให้แล้ว
แล้วใครใช้ iOS 12 ได้บ้าง ?
ง่าย ๆ เลยคือ อุปกรณ์ทุกตัวที่สามารถอัป iOS 11 ได้ครับ ฝั่ง
- iPhone เริ่มตั้งแต่ iPhone 5s ไล่ไปจน iPhone X
- iPad ได้ตั้งแต่ iPad mini 2, iPad Air, iPad gen 5
- iPad Pro ทุกรุ่น
- iPod touch gen 6
วันที่เปิดให้ใช้งาน iOS 12
สำหรับนักพัฒนาจะสามารถโหลด iOS 12 มาทดสอบประสิทธิภาพได้แล้ววันนี้ และจะเปิดตัวสมบูรณ์ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดมาใช้จริงอีกครั้งตอนเดือนกันยายนนี้ครับ