“ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด โปรดสังเกตคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง” นี่มันวลียอดฮิตที่ติดอยู่ข้าง ๆ ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง นี่หน่า เราเนี่ยเห็นพี่ ๆ ก่อสร้างกับคุณลุงขับรถชอบซื้อดื่มกัน จนเริ่มสงสัยว่ามันดียังไง บางคนบอกว่ากินละมีแรง บางคนบอกไม่กินแล้วปวดเมื่อยตามตัว บางคนบอกว่าวันไหนไม่ได้กินแล้วปวดหัว // เราไม่เคยกินเลย

โอโห้ พูดสรรพคุณซะขนาดนี้ ขอดูสักที ให้รู้กันไปเลยว่าในขวดมีอะไรบ้าง หยิบมาดูกันเลย ข้อมูลโภชนาการข้างหลังขวด บอกก่อนเลยว่าไม่มีสปอนเซอร์ใด ๆ เพราะมีแต่กระทิงแดง แฮร่!! ที่เราไม่ลอกฉลากข้างขวดออกเหมือนคนอื่นเพราะว่าเราจะอ่านฉลากนั่นเอง

โอ้โหเพิ่งรู้ !! เครื่องดื่มชูกำลังไม่บอกส่วนประกอบเป็น % แต่จะบอกปริมาณสารแต่ละตัวโต้ง ๆ เลย ดีเลยไม่ต้องคิดเยอะ รู้ไปเลยว่ากินอะไรเข้าไปเท่าไหร่บ้าง ไม่โกงกัน

ดูกันคนละขวดเลย ว่ามีอะไรผสมบ้าง

หลัก ๆ เลยสารที่เห็นใส่เรียงตามลำดับปริมาณ ก็มี

  • น้ำตาลซูโครส = ก็น้ำตาลเราดีๆ นี่แหละ กินแล้วให้พลังงาน แถมหวานด้วย
  • ทอรีน = กรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น ร่างกายผลิตได้ มีส่วนช่วยบำรุงประสาท กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ และรักษาระบบความดันโลหิต (ตัวนี้แหละช่วยให้กล้ามเนื้อ ออกแรงได้หนักขึ้นและมากขึ้น)

มีอะไรอีกน้า?

  • คาเฟอีน = เป็นสารกระตุ้นทำให้รู้สึกตื่นตัว สดชื่น ไม่ง่วงนอน ของคุ้นเคยอยู่ในกาแฟเราดีๆนี่แหละ แต่คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำหนดให้เครื่องดื่มผสมคาเฟอีนได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อหน่วยบรรจุ
  • วิตามินบี 6 และ บี 12 = วิตามินช่วยเรื่องการทำงานระบบประสาท สมอง และการสร้างเม็ดเลือดแดง

โดยรวมนี่ดีเลยนี่หน่า ที่ได้ยินจากพี่ก่อสร้างกับลุงขับรถเป็นเรื่องจริง!! แม้พลังงานหลักจะมาจากอาหารที่กินเข้าไป แต่นี่เราแค่เหมือนเปิดก๊อกยืมพลังออกมาใช้เท่านั้น

แล้วอะไรทำให้กินเกินวันละ 2 ขวดไม่ได้รู้มั้ย?

เราเคยไปค้นข้อมูลมา เจอประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่ห้ามดื่มเกิน 2 ขวด เพราะคาเฟอีน ที่กินรวมแล้วไม่ควรกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ดูแล้วท่าจะน้อยกว่ากาแฟที่เรากินทั้งวันอีกนะเนี่ย จริง ๆ เครื่องดื่มชูกำลังพวกนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะเนี่ย ในฉลากเราจะเห็นหน่วยย่อเป็น มก. ซึ่งก็คือ มิลลิกรัม และ มคก. คือ ไมโครกรัม
ซึ่ง 1,000,000 มคก. = 1 กรัม