วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม นี้ (ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ PlayStation รุ่นแรกขายเมื่อปี 1994 หรือ 24 ปีที่แล้ว) ซึ่งแบไต๋น่าจะเป็นสื่อแรกในไทยที่ได้รีวิวแล้วแหละ
- กล่องที่ขายในไทยนั้นดีไซน์เหมือนกล่อง PlayStation รุ่นแรกโซนญี่ปุ่น ที่ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เส้นๆ แบบนี้ ส่วนโซนอเมริกาจะเป็นภาพเครื่องเกมชัดๆ
- ดูรอบกล่องก่อน เครื่องนี้เราได้มาจากทาง Sony Thai โดยตรง จึงมีสติกเกอร์ภาษาไทย พร้อมขายในไทยแบบนี้
- ด้านหลังเป็นรายชื่อเกมในเครื่องนี้ เป็นเกมโซนเดียวกับอเมริกา
- ดูรายชื่อเกมแล้วก็ใช้ได้อยู่ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีเกมในใจคนไทยหลายเกม เช่น Winning 3, Harvest Moon, Castlevania, crash badicoot, chocobo racing เป็นต้น และย้ำว่าใส่แผ่นเกมหรือใส่เกมเพิ่มไม่ได้นะ (ถ้าถูกกฎหมายนะ)
- แกะกล่องเลย มีคู่มือภาษาไทยด้วย โซนี่ไทยเอาใจใส่ดีจริงๆ ตัวเครื่องเล็กนิดเดียว เหมือนของ Nintendo ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้
- ที่น่าสนใจคือให้จอย PlayStation Controller มา 2 จอย แถมหัวต่อเป็น USB สามารถเสียบใช้งานเป็นจอยสำหรับเครื่องคอมได้ด้วย ดีงามตรงนี้ ให้สายยาว 1.5 เมตรด้วย แต่เป็นจอยรุ่นแรกของ PlayStation นะ ไม่มีระบบสั่น ไม่มีก้านอนาล็อก
- และที่เหมือนกันกับเครื่องของ Nintendo คือไม่มีหัวชาร์จ USB จ้า แต่ให้สาย MicroUSB และ HDMI มา ก็หาปลั้กชาร์จมือถือมาเสียบได้ หรือเสียบกับ Power Bank เล่นก็ได้
สเปคเครื่องนิดหนึ่ง แหม่ยังกับรีวิวมือถือ PlayStation Classic ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek 8167a 4 แกนสมอง ความเร็ว 1.3GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Power VR GE8300 มีหน่วยความจำ 16 GB และแรม 1 GB
- ใช้ PCSX ReARMed เป็นฐานหลัก
- ลองเปิดเครื่องกันเลย หลังจากเสียบไฟไปสักแป๊บ ปุ่ม Power ที่ตัวเครื่องจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แล้วก็กดเปิดเครื่องได้ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เสียงเปิดเครื่องนี่คลาสสิกจนน้ำตาไหล
- เครื่องก็จะบอกรายละเอียดของปุ่มต่างๆ รอบตัวเครื่อง มีปุ่ม Reset ไว้ออกจากเกม ปุ่มเปลี่ยนแผ่นเกมสำหรับเกมที่มีหลายแผ่นอย่าง Final Fantasy VII
- ลองเข้าเกมดู จะเห็นว่าเกมเหมื่อนเล่นบนเครื่อง PlayStation แรกจริงๆ ภาพแตกยังไงก็อย่างนั้น ไม่มีการใส่ฟิลเตอร์เพิ่มความละเอียดให้เลย และไม่มีโหมดการแสดงภาพอื่นๆ เหมือนที่เครื่อง Nintendo ปรับได้ด้วย
- เมื่อออกจากเกม เครื่องจะจำสถานะการเล่นล่าสุดเอาไว้ ก็ย้อนกลับมาเล่นได้ แต่ไม่มี save stage หลายช่องให้เลือกสลับนะ มีแค่ช่องเดียวตอนออกจากเกมนี่แหละ แล้วก็เซฟลง memory Card ได้ตามปกติ
- ภาพพักหน้าจอเป็นเกมเล่นไปเล่นมาก็ไม่มี ตรงนี้แตกต่างจาก Nintendo ที่ขยันสร้างประสบการณ์ตรงนี้มากกว่า
- สรุป PlayStation Classic คุ้มไหมที่จะซื้อมาเล่น ก็ต้องบอกว่าคุ้มกับราคา 3,590 บาท ถ้าหารราคาเครื่องออกมาด้วย 20 เกม ก็เกมละ 180 บาทเอง ซึ่งนี่ได้จอยมาอีก 2 ตัวไว้เสียบคอมได้ด้วยนะ
- แถมเครื่องนี้ Sony Thai เอาเข้ามาขายโดยตรง ก็หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเกม หรือ Sony Store ไม่เหมือนเครื่องของ Nintendo ที่ต้องหิ้วมาลูกเดียว
ช่วงตอบปัญหาทางบ้าน ที่ถามไว้ในแฟนเพจแบไต๋
https://www.facebook.com/beartai/photos/a.566957403337344/2255545367811864
- ความหนาพลาสติก ความบอบบาง เทียบกับ ตัวปกติ ครับ
- จำเครื่องรุ่นแรกไม่ได้ 555 แต่งานของตัว Classic ก็ออกมาดูดีนะ
- FF 7 เป็น ต้วเดิมๆ เลยใช่ไหมคับ
- ตัวเดิมเลยครับ
- เอาหลักอะไรในการเลือกเกมส์ใส่เข้าไปในแต่ละโซนครับ
- โซนี่บอกว่าใช้ความนิยมของแต่ละโซน แต่เกมดังๆ ของคนไทยอาจจะไม่ติดโผเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรายังเล่นเถื่อนกันอยู่เยอะมาก คนทำเกมไม่รู้ว่าเกมตัวเองดังในไทย แต่ใน PS4 เราเล่นแท้กันจนน่าชื่นใจ มีเกมภาษาไทยออกมาเพียบเลย
- เล่นลื่นปกติใช่มั้ยแอด
- ลื่นยังกับเครื่องต้นฉบับ
- ตัวญี่ปุ่นใช่ไหมครับ
- กล่องญี่ปุ่น เกมโซนอเมริกา/ยุโรป แต่ขายในไทยครับ
- ลงเกมส์เพิ่มได้มั้ย
- ไม่ได้จ๊ะ ยกเว้นหาวิธีแฮกเครื่องได้ แต่ก็จะผิดลิขสิทธิ์นะ
- ถ้าต่อhddเพิ่มได้ก็แจ่ม หรือมันต่อได้อยู่แล้วอ่ะนี่???
- ไม่ได้เลย