PM 2.5 คืออะไร? ทำไมต้องกลัว?
PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ หรือครึ่งหนึ่งของขนาดเม็ดเลือด ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองได้เข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางปากและจมูก แพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดบวม โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) มะเร็งปอด

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ PM 2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2556 อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ใช้ในการป้องกันมลภาวะทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพดังนี้

  1. ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 : ตัวย่อกับตัวเลขที่ว่านี้คือขนาดของฝุ่นละออง 2.5 ไมครอน ซึ่งมันเล็กประมาณ 1 ใน 25 เท่าของเส้นผมมนุษย์และขนจมูกมนุษย์ของเรานั้นไม่สามารถกรองได้
  2. ควรมีความแนบกระชับกับใบหน้า : เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคจากอนุภาคปนเปื้อนในอากาศชนิดต่าง ๆ
  3. มาตรฐานของหน้ากาก : โดยหลัก ๆ แล้วจะมีหน่วยงานที่คอยวัดมาตรฐานของหน้ากากป้องกันฝุ่นหรืออนามัยอยู่ 3 ประเทศใหญ่ ๆ คือ อเมริกา (NIOSH Standard, NIOSH 42 CFR 84), ยุโรป (European Standard, EN 149) และมาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ (Australia/New Zeeland Standard, AS/NZS 1761) แต่เอาจริง ๆ ไม่ต้องซีเรียสไล่หาตัวย่อเหล่านี้ให้วุ่นวายขนาดนั้นหรอกครับหาแค่คำว่า N95 บนบรรจุภัณฑ์ก็พอ

หน้ากากกรองอากาศชนิดกรองอนุภาค

หน้ากากที่สามารถกันฝุ่นละอองที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ไมครอนหรือใหญ่กว่าได้มากถึง 95% และจะถูกเรียกว่า N95 ซึ่งเป็นมาตรฐานจากทางฝั่งอเมริกาของ NIOSH (National Institute for Occupational Safety and Health) หรือหน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ นี่คือหน้ากากที่เหมาะสมที่สุดแก่การรับมือกับอากาศภายนอก

แต่กระนั้นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือเวลาใส่จะค่อนข้างหายใจลำบาก แต่ในปัจจุบันก็ได้มีหลากหลายแบรนด์ผลิตรุ่นใหม่ ๆ กลบจุดด้อยนี้ลงไปแล้วด้วยการเพิ่มตัวช่วยหายใจเข้ามา ซึ่งตอนนี้หลายร้านค้าออนไลน์ก็จัดโปรโมชั่นลดราคากันอยู่นะ อาทิ OfficeMateShopee, Homepro และ Lazada

ผ้าปิดจมูกชนิดกรองพิเศษ

หน้ากากประเภทนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าสะดวกซื้อทั้งหลาย (7-11, Family Mart, ร้านขายยา ฯลฯ) เพียงแต่อาจจะต้องอ่านหน้าซองดีๆ ว่ามีคุณสมบัติผ่านการกรองไม่น้อยกว่า 95% ตามมาตรฐานของสถาบันอาชีวอนามัย และสุขภาพ (NIOSH) จากประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ เพราะหากเป็นตัวธรรมดาจะสามารถกรองได้แค่มลภาวะฝุ่นละอองที่มีมวลปกติเห็นด้วยตาเปล่าได้เท่านั้น (ควันรถ, ฝุ่นจากการกวาดพื้น ฯลฯ) และทั้งนี้หากใช้เสร็จแล้วก็ควรจะทิ้งเลยเพราะจะแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ครับ

หน้ากากอนามัยผ้าฝ้าย

มีข้อดีเหมือนผ้าปิดจมูกชนิดกรองพิเศษคือสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่อาจจะต้องเป็นร้านค้าที่มีโซนเครื่องแต่งหน้า – ความสวยความงาม ซึ่งเราก็จะต้องอ่านหน้าซองก่อนเช่นกันครับว่าได้มาตรฐานมีคุณสมบัติผ่านการกรองไม่น้อยกว่า 95% ตามมาตรฐานของสถาบันอาชีวอนามัย และสุขภาพ (NIOSH) จากประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ แต่ข้อดีของหน้ากากอนามัยประเภทนี้คือสามารถนำไปซักทำความสะอาดมาใช้ใหม่ได้

ถ้าหาหน้ากากข้างบนไม่ได้จริง ๆ หน้ากากป้องกันสารเคมีคือตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกันนะ

นี่คือหน้ากากที่ใช้ในงานเชิงอุตสาหกรรมพ่นสี เคมี ปิโตเคมี ฯลฯ ที่สามารถป้องกันได้อย่างชะงัดนัก ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดอณุภาคที่เล็กไปจนถึงใกล้เคียงฝุ่นละออง PM 2.5 จึงวางใจในการป้องกันได้ แถมราคาก็ไม่ได้แพงเกินกว่าจะหยิบจับเป็นเจ้าของ (1,000 บาทต้น ๆ) ซึ่งถ้าจะซื้อจริง ๆ ผู้เขียนแนะนำให้ซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ต่าง ๆ ได้เลยจ้าาา!!