PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ หรือครึ่งหนึ่งของขนาดเม็ดเลือด ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองได้เข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางปากและจมูก แพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดบวม โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) มะเร็งปอด
ปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ใช้ในการป้องกันมลภาวะทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพดังนี้
- ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 : ตัวย่อกับตัวเลขที่ว่านี้คือขนาดของฝุ่นละออง 2.5 ไมครอน ซึ่งมันเล็กประมาณ 1 ใน 25 เท่าของเส้นผมมนุษย์และขนจมูกมนุษย์ของเรานั้นไม่สามารถกรองได้
- ควรมีความแนบกระชับกับใบหน้า : เพื่อที่จะได้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเกิดโรคจากอนุภาคปนเปื้อนในอากาศชนิดต่าง ๆ
- มาตรฐานของหน้ากาก : โดยหลัก ๆ แล้วจะมีหน่วยงานที่คอยวัดมาตรฐานของหน้ากากป้องกันฝุ่นหรืออนามัยอยู่ 3 ประเทศใหญ่ ๆ คือ อเมริกา ยุโรป และมาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์
หน้ากากกรองอากาศชนิดกรองอนุภาค
หน้ากากที่สามารถกันฝุ่นละอองที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ไมครอนหรือใหญ่กว่าได้มากถึง 95% และจะถูกเรียกว่า N95 ซึ่งเป็นมาตรฐานจากทางฝั่งอเมริกา หรือหน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ นี่คือหน้ากากที่เหมาะสมที่สุดแก่การรับมือกับอากาศภายนอก
แต่กระนั้นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือเวลาใส่จะค่อนข้างหายใจลำบาก แต่ในปัจจุบันก็ได้มีหลากหลายแบรนด์ผลิตรุ่นใหม่ ๆ กลบจุดด้อยนี้ลงไปแล้วด้วยการเพิ่มตัวช่วยหายใจเข้ามา
ผ้าปิดจมูกชนิดกรองพิเศษ
หน้ากากประเภทนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าสะดวกซื้อทั้งหลาย เพียงแต่อาจจะต้องอ่านหน้าซองดี ๆ ว่ามีคุณสมบัติผ่านการกรองไม่น้อยกว่า 95% ตามมาตรฐานของสถาบันอาชีวอนามัย และสุขภาพ จากประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ เพราะหากเป็นตัวธรรมดาจะสามารถกรองได้แค่มลภาวะฝุ่นละอองที่มีมวลปกติเห็นด้วยตาเปล่าได้เท่านั้น และทั้งนี้หากใช้เสร็จแล้วก็ควรจะทิ้งเลยเพราะจะแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้
หน้ากากอนามัยผ้าฝ้าย
มีข้อดีเหมือนผ้าปิดจมูกชนิดกรองพิเศษคือ สามารถหาซื้อได้ง่าย แต่อาจจะต้องเป็นร้านค้าที่มีโซนเครื่องแต่งหน้า – ความสวยความงาม ซึ่งเราก็จะต้องอ่านหน้าซองก่อนเช่นกันครับว่าได้มาตรฐานมีคุณสมบัติผ่านการกรองไม่น้อยกว่า 95% ตามมาตรฐานของสถาบันอาชีวอนามัย และสุขภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ แต่ข้อดีของหน้ากากอนามัยประเภทนี้คือสามารถนำไปซักทำความสะอาดมาใช้ใหม่ได้