Vivo Y17 สมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นล่าสุดของ Vivo ครับ จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ระดับ 5000 mAh ที่จุมากและอึดมาก เราทดสอบการใช้งานทั่วไป คือเล่นเน็ต เล่นไลน์ ดูเฟซบุ๊กทั่วๆ ไป สามารถอยู่ได้ 3 วันโดยไม่ต้องชาร์จ! จบหนึ่งวันใช้แบตเตอรี่ไปเพียง 20-30% เท่านั้นเอง ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่แบตอึดที่สุดรุ่นหนึ่งในตอนนี้เลย
แบตเตอรี่จุใจ!
แน่นอนว่าแบตเตอรี่จุ 5000 mAh แบบนี้ หัวชาร์จก็ต้องแรงหน่อยจะได้ชาร์จได้ไวๆ ซึ่ง Vivo Y17 ให้หัวชาร์จแบบ Dual Engine Fast Charging มาด้วย แม้จะยังใช้หัวชาร์จแบบ MicroUSB อยู่ แต่ก็สามารถจ่ายไฟสูงสุด 9V 2A หรือ 18W ซึ่งสามารถชาร์จ 30 นาทีได้แบต 30% ที่ใช้งานได้ 1 วัน ซึ่งถือว่าเร็วใช้ได้สำหรับแบตก้อนใหญ่ขนาดนี้ เรื่องความอึดของแบตเตอรี่นี่คือจุดเด่นที่สุดของ Vivo Y17 เลยครับ
ดีไซน์
ดีไซน์ของ Vivo Y17 นะครับ สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มากับสีใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากประกายของน้ำเมื่อมีแสงมาตกกระทบจนมีการไล่เฉดอย่างสวยงาม ตัวที่เราได้มารีวิวคือสีม่วง Mystic Purple และอีกสีที่มีจำหน่ายคือสีน้ำเงิน Mineral Blue ซึ่งก็สวยแปลกตาทั้งคู่ เลือกได้เลยว่าชอบสีไหน
ซึ่งดีไซน์ฝาหลังนั้นเรียบมาก มีกล้อง 3 ตัวเรียงเป็นแนวดิ่งพร้อมแฟลชอยู่ตรงมุมบนซ้ายของเครื่อง และมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วอยู่ตรงกลางเครื่อง ส่วนด้านล่างก็เป็นที่อยู่ของช่องหูฟัง 3.5 mm ช่องไมโครโฟน พอร์ต MicroUSB สำหรับเสียบชาร์จและเชื่อมต่อข้อมูล พร้อมลำโพงอีก 1 ตัวให้เสียง Mono ที่ดังใช้ได้ครับ
เมื่อแรกสัมผัสเครื่อง Vivo Y17 จะรู้สึกเลยว่ามันหนากว่าสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ เพราะมันมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh อยู่ในเครื่องนะครับ แต่ใช้ไปสักพักก็จะชินมือไปเอง
หน้าจอ
ด้านหน้านั้นเป็นจอ LCD ขนาด 6.35 นิ้ว สัดส่วน 19.3:9 ความละเอียด HD+ 1544 × 720 pixel ซึ่งแม้ไม่ใช่ Full HD แต่ก็ใช้งานได้เนียนตาดี ให้สีสันได้ดี มองภาพได้ชัดเจนแม้จะมองเอียงหรือมองข้าง เอาเป็นว่าลองไปดูจอของเครื่องจริงที่ร้านดูก่อน เราว่าใช้ได้โอเคไม่มีปัญหานะ
และแน่นอนว่าเป็นสมาร์ตโฟนในยุค 2019 รอยบากที่อยู่ของกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลด้านบนก็เหลือแค่ติ่งรูปหยดน้ำนะครับ ทำให้หน้าจอมีพื้นที่ในการแสดงผล 89% ของพื้นที่ด้านหน้า และบริเวณเหนือกล้องนี้ก็เป็นลำโพงสนทนาแนบหูที่ใช้ฟังได้ชัดเจนดี
กล้อง
กล้องของ Vivo Y17 นั้นน่าสนใจครับ แม้ว่าจะเป็นมือถือในระดับราคาเริ่มต้นแต่ให้กล้องมาโอเคในระดับหนึ่งเลย ในส่วนของกล้องหลังนั้นให้กล้องมา 3 ตัวเรียกว่า AI Triple Camera คือ
- ตัวบนสุดคือกล้องมุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- ตัวกลางคือกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- ตัวสุดท้ายคือกล้องวัดระยะ เอาไว้ช่วยถ่ายหน้าชัดหลังเบลอครับ
การถ่ายภาพบุคคลในโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั้นทำได้ค่อนข้างเนียนตาเลย ฉากหลังเบลอเป็นธรรมชาติไม่ดูเวอร์เกินจริง สีผิวคนดูดี แถมภาพที่ถ่ายมายังสามารถปรับตำแหน่งและความเบลอของฉากหลังได้ภายหลังด้วย ส่วนใครที่อยากได้หน้านวลๆ ก็สามารถใช้โหมดใบหน้าสวยได้ ซึ่งสามารถปรับแต่งระดับหน้าสวยได้หลายแบบ แต่ในโหมดหน้าสวยเราจะไม่สามารถเปิดให้ฉากหลังเบลอได้นะครับ
ส่วนการถ่ายภาพทั่วไปก็ต้องบอกว่าทำได้สมราคาค่าตัว เมื่อมีแสงสว่างมากพอก็สามารถถ่ายวัตถุออกมาได้อย่างสดใส คมชัด ส่วนเวลาที่แสงน้อยอาจจะต้องใช้เวลาหาโฟกัสสักนิด ต้องกะเวลา และภาพที่ได้สีสันจะไม่สดใสนัก
ไฮไลท์ของ Vivo Y17 นั้นอยู่ที่เลนส์มุมกว้าง 120 องศาที่ทำให้ถ่ายภาพสนุกขึ้นอีกเยอะ ถ่ายห้องแคบๆ ให้ดูกว้าง ถ่ายวิวให้กว้างกว่าปกติ หรือใช้ Perspective ที่ดูแปลกตาเพื่อสร้างภาพที่น่าแปลกใจก็ได้ เอาเป็นว่าถ้าเบื่อมุมภาพแบบเดิมๆ ลองสลับมาใช้เลนส์มุมกว้างรับรองมันส์แน่นอน
ส่วนกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.0 ก็ถ่าย Selfie ได้ชัดเจนครับ แม้จะไม่มีระบบ Auto-focus แต่ก็ได้ภาพที่โอเคอยู่ เดี๋ยวผมแชะให้ดูกันสดๆ เลย ภาพที่ได้ออกมาก็สวยงามดี เราสามารถเลือกถ่ายได้ทั้งแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะถ่ายแบบหน้าสวยก็ได้ ซึ่งจะมี AI ช่วยปรับแต่งภาพให้ดูดีขึ้น แต่จะใช้ 2 โหมดนี้ด้วยกันไม่ได้นะ
Vivo Y17 สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่ตัวกล้องไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวนะครับ ถ้านั่งถ่ายนิ่งๆ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเดินถ่ายอาจจะต้องระวังกล้องสั่นหน่อย และเราสามารถใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายวิดีโอได้ด้วย แต่ไม่สามารถสลับระหว่าง 2 เลนส์ได้ระหว่างถ่ายวิดีโอนะ
สเปค
มาถึงเรื่องสำคัญอย่างความแรงของ Vivo Y17 กันบ้าง สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้ CPU เป็น MediaTek Helio P35 พร้อมแรม 4 GB และหน่วยความจำ 64 GB ที่สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256 GB เป็นช่องใส่การ์ดแยกจากซิมที่ 2 ด้วยนะ
Vivo Y17 มีความแรงพอประมาณ อาจรู้สึกหน่วง ๆ บ้างตอนปลดล็อกเครื่อง หรือสลับแอป แต่การใช้งานแอป เช่นการไถฟีดใน facebook หรือการเปิดเว็บต่างๆ ก็ลื่นไหลดี และเราเอาไปทดสอบเล่นเกม PUBG ก็สามารถเลือกคุณภาพภาพสูงสุดเป็นระดับกลาง ซึ่งคุณภาพระดับนี้ก็ยังเล่นเกมได้ลื่นไหลอยู่ ด้วยระบบ Game Cube ซอฟต์แวร์พิเศษของ Vivo ที่ใช้ปรับแต่งการทำงานของเครื่องให้เหมาะสำหรับการเล่นเกม ทั้งการจูนเครื่องรีดประสิทธิภาพ หรือจัดการกับการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าต่างๆ ไม่ให้มารับกวนการเล่นเกม
และอีกเรื่องหนึ่งที่ดีงามมากสำหรับสมาร์ตโฟนในราคานี้คือ มันรองรับ WiFi 5 GHz ด้วย ซึ่งมีน้อยรุ่นที่จะทำได้ในราคานี้
สมาร์ตโฟนจาก Vivo ก็ต้องใช้ Funtouch OS นะครับ ซึ่ง Vivo Y17 ก็เป็น Funtouch OS 9 ครอบทับบน Android 9 ซึ่งมีความสามารถที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่นศูนย์ทางลัดแบบใหม่ที่เอาคำสั่งใช้งานบ่อยๆ ไปวางไว้ได้เลย เช่น “โน้ตแบบเสียง” หรือ “สั่งหาทางกลับบ้าน” ให้เรียกใช้ได้ง่ายๆ จากทุกแอป หรือการซ่อนปุ่ม Back, Home, Recent App ไว้แล้วใช้การปัดเพื่อสั่งงานแทนก็ทำได้ รวมถึงฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างการบันทึกเสียงสนทนา หรือการแคปหน้าจอตามยาวก็ทำได้
จุดสังเกตในการใช้งาน Vivo Y17 นั้นอยู่ที่การสนทนาครับ เนื่องจากสมาร์ตโฟนตัวนี้ไม่มีไมค์ที่สองในการตัดเสียงรบกวนภายนอก ทำให้เวลาคุยในที่เสียงดังๆ จะลำบากหน่อย และไม่รองรับ VoWiFi ด้วย ทำให้การคุยในที่สัญญาณโทรศัพท์อ่อนอย่างบนคอนโดอาจไม่ลื่นนัก แต่ถ้ารับสัญญาณ 4G ได้ สมาร์ตโฟนเครื่องนี้ก็ให้เสียงคมชัดผ่าน VoLTE ครับ
Vivo Y17 เปิดตัวด้วยราคาสุดคุ้มแค่ 6,999 บาทเท่านั้น
กับสมาร์ตโฟนที่แบตอึด 5000 mAh ใช้งานได้ 3 วันแบบนี้ ใครที่ต้องใช้เครื่องหนักๆ ทั้งวัน เปิดหนัง ดูทีวีบนมือถือ Y17 ไม่ทำให้ผิดหวัง แถมยังได้กล้อง 3 เลนส์ที่มีเลนส์มุมกว้างมาด้วยนะครับ ถ่ายรูปสนุกขึ้นอีกเยอะ!