สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ Honda Accord 2019 รุ่น TURBO อยู่ โปรดดูคลิปนี้ก่อน! เพราะวันนี้ ฮอนด้าเขาใจดี ให้ผมทดลองขับ เดี๋ยวผมจะมารีวิวฉบับคนใช้จริงกันบ้าง ว่ามันจะเท่เหมือนในโฆษณารึเปล่า

สิ่งสำคัญที่ฮอนด้าเขาเน้น เกี่ยวกับฮอนด้ารุ่นนี้

  1. Dynamics ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทั้งดีไซน์เเละเครื่องยนต์
  2. Captivating ความมีเสน่ห์และความล้ำสมัย
  3. Upscale ความหรูหรามีระดับ

รูปลักษณ์รอบคัน

เรามาดูด้านหน้ากันก่อน ชุดกระจังหน้าเป็นแบบโครเมียม ทำให้ดูพรีเมี่ยมมาก โลโก้ H ก็เป็นโครเมี่ยม ไฟหน้าหากเป็นรุ่น Hybrid จะตกแต่งด้วยเส้นสายสีฟ้า เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรุ่น Hybrid

ไฟหน้าเป็นแบบ LED และมาพร้อมกับไฟ Daytime Running Light แต่แอบเสียดายไม่มีไฟตัดหมอกมาให้ แต่ในภาพรวม ดีไซน์ก็ลงตัวทั้งความสปอร์ตพรีเมียม
first impression ของดีไซน์ด้านหน้า ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกับ Honda Civic เวอร์ชั่นผู้บริหาร! แต่ถ้ามองดีๆ ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ของ Accord ที่ดูเป็นภูมิฐาน และลงตัวกับความโฉบเฉี่ยว

มากันที่ด้านข้าง แวะมาที่กระจกมองข้างด้านซ้ายมีกล้องเตือนจุดอับสายตาด้วย (ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน – Honda LaneWatch) ซึ่งมีเฉพาะด้านซ้ายอย่างเดียว เพราะเราคนขับก็ต้องระวังจุดอับทางด้านซ้าย

มาดูที่ล้อ เป็นล้อแมกซ์ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมกับดิสเบรก 4 ล้อ คู่หน้ามีช่องระบายความร้อน เส้นสายตัวรถ ต้องบอกว่า smooth กว่า สวยกว่ารุ่นก่อนๆ หน้าตาดูทันสมัยขึ้น อีกทั้งตัวรถออกแบบให้ใต้ท้องรถสูงเพียง 131 mm เพราะตั้งใจให้ดูสปอร์ต จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อการเกาะถนนมากยิ่งขึ้น และลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ หรือ Aerodynamics อีกด้วย และยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูง Laser Braze เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคารถและตัวถัง ซึ่งเทียบเท่ารถยุโรปเลยทีเดียว

ด้านหลังรถ ไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม เสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม และมีกล้องเอาไว้สำหรับถอยจอด แต่ลองก้มลงไปดู เอ๊ะ รุ่น 1.5 turbo มีท่อคู่ด้วย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรุ่น turbo นะจ๊ะ ของมันแรง!

เครื่องยนต์

นอกจากนั้น All New Honda Accord รุ่นใหม่เขาใช้เครื่อง 1.5 Turbo แต่เดี๋๋ยวก่อน!! ถึงแม้เครื่องยนต์จะมีซี.ซี. ที่เท่ากันกับ Honda Civic 1.5 Turbo บล็อกเดียวกัน แต่เจ้าตัว 1.5 turbo ใน All New Accord มีการพัฒนาในส่วนของฝาสูบ ระบบไอเสีย และเทอร์โบ ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ทำให้ได้อัตราเร่งและการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมเพื่อให้สมรรถนะที่เต็มกำลังและเหมาะกับทุกการขับขี่ของแอคคอร์ดอย่างแน่นอน

หลายคนสงสัยว่า ทำไม Honda Accord ถึงลดขนาดเครื่องยนต์มาเป็นเเบบ 1.5 ต้องบอกว่าเครื่องยนต์เเบบเทอร์โบถึงเเม้จะเล็กกว่า เเต่ก็เเรงกว่านะครับ! ทาง honda เองเคลมว่าเครื่อง 1.5 turbo ใน All New Accord แรงกว่า 2.4 ลิตร แต่ประหยัดกว่า 2.0 ลิตร ของโฉมก่อนซะอีก เเละตอนนี้หลายๆค่ายก็เริ่มหันมาผลิตเครื่องยนต์ซีซีขนาดที่เล็กลงแต่มีเทอร์โบกันเเล้ว

ข้อดีหลัก ๆ เลย คือความเเรงและประหยัดน้ำมัน ซึ่งเเตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC turbo ให้พละกำลังที่ 190 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที เเรงบิด 243 นิวตัน-เมตร ที่ 1500-5500 รอบต่อนาที ถือว่าอัตราเร่งตอนต้นมาได้แบบสบายๆ ถึงจะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่ก็ให้อารมณ์โฉบเฉี่ยวได้ไม่เบา เพราะเป็นพวงมาลัยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า การเข้าโค้งหักเลี้ยวมันคมมาก และแม่นยำ พวงมาลัยจะปรับความหนืดได้ตามความเร็ว ช่วงใช้ความเร็วต่ำ ๆ พวงมาลัยเบาควบคุมง่ายมาก สาว ๆ หรือแม่บ้านน่าจะชอบเลย ช่วงล่างถูกเซตมาไม่นิ่มมากนัก แต่ถือว่าช่วงล่างเฟิร์มกระชับ แต่ก็ไม่ถึงกับแข็งกระด้าง อาการโยนตัวมีบ้างไม่ถึงกับออกอาการมาก ขับแล้วมันมั่นใจจริง ๆ

ระบบกุญแจ

สามารถสตาร์ทด้วยกุญเเจรถได้เลย เหมือนมีคนขับส่วนตัวรออยู่ รอรถหายร้อนเเล้วค่อยขึ้นก็ยังได้

ภายในรถ

รุ่นนี้ leg room กว้างมากๆ นอกจากนั้นเบาะคนขับนี่ปรับได้ 8 ทิศทางเลยนะ จะสูง จะต่ำ หรือดันหลังก็ปรับได้ถึง 4 ทิศทาง ส่วนเบาะข้างผู้โดยสารก็เป็นเเบบไฟฟ้าปรับได้ 4 ทิศทาง เอนได้ ลายไม้ก็เท่ มาพร้อมเบาะหนังเเท้

ซึ่งมีระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay หน้าจอกว้างขนาด 8 นิ้ว ใช้งานง่ายระบบสัมผัสอีกด้วย

ระบบ Brake Hold

เมื่อรถติดมากแบบบ้านเรา ถ้าต้องคอยเอาเท้าเหยียบเบรคตลอดเวลา น่าจะเมื่อยเป็นอย่างมากซึ่ง Honda ก็เข้าใจ ได้ทำระบบ Brake Hold ที่เวลารถติดเพียงเเค่เราเหยียบเบรกสนิทมันจะหยุดรถให้เอง ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ใดๆ โดยเวลาออกตัวก็เเค่เเตะคันเร่ง ซึ่งการใครจะใช้ระบบนี้ก็ต้องใส่ safety belt ด้วยนะครับ เป็นการบังคับไปในตัว

โหมดต่าง ๆ

All New Accord 2019 ไม่ใด้มีความเเรงเพียงอย่างเดียว เพราะ Honda เขาเด่นเรื่องประหยัดพลังงานด้วย ถูกใจผมเลย รถรุ่นนี้มีโหมด ECO (หน้าปัดจะถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียว) ซึ่งช่วยในการประหยัดน้ำมัน

ส่วนโหมด Sport หน้าปัดเป็นสีแดง จะเห็นได้ว่ารอบจะสูงขึ้น รอบจัดพร้อมที่จะกดแซง และยังมีวัดบูสของ turbo มาให้ดูสถานะอีกด้วย โดยสิ่งที่รุ่น turbo ให้มาอีกคือ Paddle Shift ที่จะให้เรามาลากรอบ เล่นเกียร์ได้ถึง 7 สปีด แต่มันก็ไม่ได้เอามาเพื่อเล่นสนุกอย่างเดียวนะ มันมีประโยชน์มากตอนใช้ ขึ้นเขา ลงเขา หรือที่เขาเรียกกันคือ Engine Brake เพื่อไม่ให้เราใช้เบรกมากเกินไป จนเบรกไหม้อีกด้วย

อัตราประหยัดน้ำมัน

ส่วนอัตราประหยัดน้ำมันโดยรวมถือว่าน่าพอใจ เเม้เทียบไม่เท่า eco car เป็นธรรมดา เเต่ถ้าเทียบกับรถ sedan segment เดียวกันต้องบอกว่าเป็นที่น่าพอใจ เมื่อกี้ผมลองจับอัตราสิ้นเปลืองดู ขับทางไกลนอกเมือง เฉลี่ย ประมาณ 12 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนถ้าในเมืองรถติดๆ เบรกบ่อยๆ ก็ 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร

ข้อสังเกต

  • ไม่มีระบบ Honda Sensing (ระบบเบรกเมื่อมีอะไรมาตัดหน้า,บังคับรถให้ตรงเลนอัตโนมัติเมื่อคร่อมเลน) เหมือนรุ่น Hybrid เเต่ก็ยังดีที่มีตัว Honda LaneWatch มาให้ ซึ่งจะช่วยสร้างความปลอดภัย ระวังรถมอเตอร์ไซด์ที่เเทรกมาตามทางโค้ง
  • ไม่มีไฟสูงอัตโนมัติ auto high beam (สำหรับรุ่น Turbo)
  • ไม่มีไฟตัดหมอก (สำหรับรุ่น Turbo)
  • ไม่มีเซนเซอร์เตือนหน้า-หลัง
  • เบาะหลังพับได้ เเต่ต้องพับทั้งบาน หมายความว่าหากต้องการใส่ของในกระโปรงท้ายเยอะๆ เบาะหลังก็จะนั่งไม่ได้เลย ไม่เหมือน Honda jazz ที่พับได้ 60:40 เเล้วเหลือที่ให้คนนั่งได้
  • ห้องโดยสารตอนหลังไม่มี power outlet ไว้ชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ก็มีอยู่ในกล่องคอนโซลกลางทั้ง USB และ Power outlet
  • เเม้เเอร์คู่หน้าจะสามารถ sync หรือปรับเเยกกันได้ เเต่เเอร์เบาะหลังปรับอุณภูมิเองไม่ได้
  • น่าจะมีม่านบังแดดด้านข้างมาให้ด้วย

ราคา

รีวิวที่ดีต้องมีราคา! สำหรับ Honda Accord 1.5 Turbo EL ตัวนี้ราคาอยู่ที่ 1,475,000 บาท สำหรับใครที่สนใจรุ่นสูงขึ้นไปก็มีราคาดังนี้

  • รุ่น Hybrid อยู่ที่ 1,639,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Tech อยู่ที่ 1,799,000

ก็เลือกเอาตามความพอใจ เเต่สำหรับผม รุ่น 1.5 Turbo นี้ก็ตอบโจทย์ในด้านของสมรรถนะการขับขี่เเละดีไซน์ได้ดีเลยทีเดียว