หมดปัญหาการลืมปิดไฟ ประตู หน้าต่าง แค่เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น Smart Home จะไปเที่ยวไกลแค่ไหนก็ควบคุมผ่านแอปฯ ได้เลย!
เพราะบางครั้งถ้าเราเกิดเดินทางไปต่างจังหวัดหรือไปต่างประเทศ แล้วเกิดปัญหาคือ ลืมปิดไฟหรือลืมปิดแอร์ งานนี้กลับบ้านมาแทนที่จะได้รู้สึกชิล ๆ กลับต้องปวดหัวกับค่าไฟที่แพงมหาโหด ซึ่งเคล็ดลับที่จะมาแนะนำในครั้งนี้คือ การเปลี่ยนบ้านของเราให้กลายเป็น Smart Home นั่นเอง มันมีวิธีไหนบ้างมาดูไปพร้อมกันได้เลย!
อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนบ้านเป็น Smart Home ได้ปัจจุบันก็มีมากมายเช่น
- Apple HomeKit
- Google Home
- Amazon Echo
ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านได้อีกทีหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะควบคุมอุปกรณ์ภายในห้องได้แล้ว ยังสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้ทั้งบ้านเลยเช่น หลอดไฟหน้าบ้าน รั้วหน้าบ้าน หรือแม้แต่ผ้าม่าน ถ้าคุณได้วางระบบไว้เป็นอย่างดีแล้ว
ซึ่งนอกจากจะควบคุมการเปิด – ปิดแล้ว ยังสามารถตั้งเวลาให้เปิด – ปิดตามที่เราต้องการได้เช่น ตั้งเวลาเปิดไฟหน้าบ้านไว้ช่วงเย็น ๆ และปิดตอนช่วงค่ำ ๆ เพื่อประหยัดไฟได้ เป็นต้น
และถ้าเกิดมีเหตการณ์อย่างโจรที่เข้ามาแอบส่องว่า บ้านหลังนี้มีคนอยู่หรือไม่ ระบบ Smart Home นี้ก็จะกลายเป็นเหมือนตัวช่วยป้องกันได้อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าโจรเห็นว่าบ้านนี้อยู่ดี ๆ มีการเปิด – ปิดไฟ ก็น่าจะมีคนอยู่ในบ้าน ก็จะถอดใจไปเอง
ซึ่งการควบคุมนี้จะสามารถควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ หรือถ้าไม่อยากสั่งด้วยตัวเอง ก็จะมีหลอดไฟรูปแบบ Motion Sensor ที่สามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวแล้วเปิดไฟขึ้นมาได้เองอัตโนมัติ ก็ประหยัดไฟได้อีกขั้น และช่วยในด้านความปลอดภัยเช่นเวลาเดินขึ้นบันไดได้อีกด้วย
โดยอุปกรณ์ Smarthome ปัจจุบันนอกจากหลอดไฟแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างด้วยกันทั้งประตูรั้วหน้าบ้านที่สั่งงานผ่านแอปได้ ระบบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน หรือปุ่ม Panic Button Alert ปุ่มฉุกเฉินที่ไว้สำหรับแจ้งเตือนไปยัง รปภ. ภายในหมู่บ้านว่ากำลังมีเหตุด่วนเหตุร้าย ให้เข้ามาช่วยเหลือด่วน! เป็นต้น
เรียกได้ว่าการที่เรานำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันแล้ว นอกจากจะทำให้บ้านเราดูมีสีสัน มีความทันสมัยสมเป็น Smart Home แล้ว ยังช่วยในด้านประหยัดไฟได้เป็นอย่างมาก เข้าสู่สังคมประหยัดพลังงานได้อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อโลกของเราที่น่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส