มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์หรือ #DPU ร่วมกับ #Huawei (ประเทศไทย) ในการปรับปรุงโครงสร้างดิจิทัลภายในมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการใช้งานของนักศึกษาและคณาจารย์ในด้านการเรียนการสอน ยกระดับการศึกษายุคไอที พร้อมสัมภาษณ์ ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์กับคำถามสำคัญในด้านการศึกษา

ปรับตัวอย่างไรในยุคดิจิทัล?

สิ่งแรกเลยคือต้องปรับตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงระบบการจัดการภายใน และด้าน Infrastructure อย่าง WiFi ที่ต้องกระจายให้ทั่วในทุกห้องเรียน ทุกชั้นเรียน ทุกตึก รวมไปถึงพื้นที่นั่งเล่นภายนอกตึกเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้อินเทอร์เน็ตของนักศึกษาที่สูงขึ้น ทั้งการใช้งานแอปพลิเคชันที่ติดต่อสื่อสารกับอาจารย์ หรือการลงทะเบียน กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งหมดก็สามารถทำได้ผ่านแอป

ในด้านการเรียนการสอนก็ให้นักศึกษาเข้าใช้งานในระบบอินเทอร์เน็ตผ่านแอป ทำให้อาจารย์สามารถสั่งงานหรือนักศึกษาส่งงานผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที หรือจะเรียนผ่านเว็บไซต์ได้อีกด้วย

คณะไหนบ้างที่รองรับเทคโนโลยีในยุคใหม่?

มหาวิทยาลัยมีหลักสูตร DPU Call เป็นหลักสูตรที่ใช้ทั้งระบบ Online และ Offline ทำให้นักศึกษาทุกคนต้องสามารถใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงหลักสูตรนี้ ใช้ทั้งทักษะต่าง ๆ ความคิด วิเคราะห์ ความสามารถในการทำงานเป็นทีมและความสามารถในการสื่อสาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นตัววัดในชื่อ DPU DNA

มีระบบ Interactive Classroom ที่เน้น Active Learning มีกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะมีอาจารย์คอยให้คำแนะนำ หรือแม้แต่การกลับมาย้อนดูเทปการเรียนการสอนตัวเก่าก็ทำได้เช่นกัน

Data Center

ซึ่งห้อง Data Center ก็ได้ปรับมาใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Huawei ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีระบบความปลอดภัยสูง เพราะมีข้อมูลสำคัญอยู่มากเช่น เกรดของนักศึกษา ข้อสอบต่าง ๆ ซึ่งต้องเป็นความลับ ไม่รั่วไหล รวมไปถึงระบบต้องมีความเสถียรและมีความสามารถสูง สามารถทำงานซับซ้อนอย่างการคิดเกรดของนักศึกษาในแต่ละหลักสูตร เพราะโครงสร้างหลักสูตรจะถูกเปลี่ยนไปตลอดเวลา จึงต้องมีทั้งความปลอดภัยและความแม่นยำควบคู่กันไป

และนอกจากนี้เทคโนโลยีใหม่ของ Huawei ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ด้านการบริหารจัดการลดลงจากเดิมอีกด้วย

เทคโนโลยีและอุปกรณ์พัฒนาแล้ว บุคลากรพัฒนาไปทิศทางไหน?

การปรับตัวรอบนี้ไม่ได้ถูกปรับแค่ด้านเทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชันด้านการใช้งาน แต่ต้องปรับพฤติกรรมด้านการใช้งานของนักศึกษาด้วย เพราะปัจจุบันทุกคนมีพื้นฐานไม่เท่ากัน ต้องใช้วิธี Push Strategy คือการผลักดันให้ใช้งานตั้งแต่ปี 1 รวมไปถึงด้านอาจารย์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ก็อาจจะต้องปรับตัวด้านการใช้อุปกรณ์ใหม่ ๆ ไปด้วยกัน

สิ่งที่ฝากถึงเด็กรุ่นใหม่

ทักษะต่าง ๆ โดยเฉพาะทักษะด้านการแก้ปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่หนีปัญหา กล้าที่จะคิดใหม่ ทำใหม่ตลอดเวลา เป็นสิ่งสำคัญ ต้องเรียนรู้ประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีทุกอย่างมีเก่าลงเรื่อย ๆ เราต้องคอยศึกษาติดตามสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีขับเคลื่อนทุกอย่างแม้กระทั่งความคิด